สั่งกรมธนารักษ์พัฒนาที่ราชพัสดุ
Posted: 03 Apr 2015, 10:45
สั่งกรมธนารักษ์พัฒนาที่ราชพัสดุ
คลังสั่งกรมธนารักษ์ยกเครื่องที่ราชพัสดุ มอบ 4 มาตร ทั้งเร่งจัดสรรพื้นที่ตามแนวทางหลวง, พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ, พื้นที่มักกะสัน และที่ราชพัสดุที่ยังไม่พัฒนา
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้กับกรมธนารักษ์ ว่า ได้สั่งการนโยบายเร่งด่วน 4 เรื่อง เกี่ยวกับการพัฒนาที่ราชพัสดุ ประกอบด้วย เร่งจัดสรรพื้นที่ตามแนวทางหลวง เพื่อพัฒนาเป็นจุดพักรถขนาดใหญ่ ในลักษณะเหมือนต่างประเทศ รวมทั้งหมด 41 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็นจุดพักรถที่มีร้านค้าบริการด้วย 13 แห่งและ พักรถเพียงอย่างเดียว 28 แห่ง เบื้องต้นคาดว่าจะจัดจ้างเอกชนเข้ามาบริหารพื้นที่ และกำหนดสัญญาว่าจ้างถึงแนวทางการบริหารพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาได้นำร่องไปแล้วใน จ.นครราชสีมา โดยกรมธนารักษ์ต้องกำหนดจุดให้แล้วเสร็จภายในรัฐบาลชุดนี้
ทั้งนี้ ยังมอบหมายให้กรมธนารักษ์ ดำเนินการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยมอบหมายให้กรมฯ เข้าไปจัดหาพื้นที่เร่งด่วน 2 แห่ง คือ อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และแม่สอด จ.เชียงราย จากทั้งหมด 6 พื้นที่ ซึ่งหาข้อสรุปว่าเอกชนจะบริหารพื้นที่ดังกล่าวทั้งหมด หรือแค่บางส่วน รวมถึงการสำรวจพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษระยะที่ 2 ควบคู่อีกด้วย
สำหรับการใช้ประโยชน์จากการเช่าพื้นที่มักกะสันนั้น กรมธนารักษ์จะรับโอนจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) 490 ไร่ มาพัฒนาเป็นพื้นที่สวนสาธารณะ พื้นที่แก้มลิง และใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ตามนโยบายรัฐบาล โดยกรมจะหารือกับ ร.ฟ.ท.วันที่ 8 เม.ย. เพื่อพิจารณาว่าจะตีมูลค่าที่ดินมาหักภาระหนี้ได้เท่าใด จากปัจจุบัน ร.ฟ.ท.มีภาระหนี้ค้างกระทรวงการคลังกว่า 8 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่ามูลค่าพื้นที่จะไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท
“พื้นที่มักกะสันยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะพัฒนาเป็นรูปแบบใด แต่ยังคงตามกรอบนโยบายรัฐบาล คือ กรมธนารักษ์จะเป็นผู้เช่าและพัฒนาพื้นที่เป็นสวนสาธารณะและพื้นที่แก้มลิงก่อน ส่วนที่เหลือจึงนำมาใช้เชิงพาณิชย์ หากการตีมูลค่าไม่คุ้มกับมูลหนี้ที่มีอยู่ ร.ฟ.ท.ก็ต้องส่งพื้นทีอื่นมาให้ธนารักษ์เช่าเพิ่ม เช่น พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นต้น”
ขณะเดียวกัน ยังให้ธนารักษ์พิจารณาที่ราชพัสดุขนาดใหญ่อื่นๆ ที่ยังไม่พัฒนา เช่น พื้นที่ของ การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) เช่น ท่าอากาศยานสงขลา หาดใหญ่ นำมาพัฒนาเป็นแหล่งพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ โซล่าร์ฟาร์ม เหมือนในต่างประเทศ เพื่อใช้เป็นพลังงานทางเลือกตามนโยบายรัฐบาล รวมถึงการดำเนินงานที่ยังค้างอยู่ เช่นการประเมินราคาที่ดินทั่วประเทศ การดูแลปริมาณเหรียญ และออกเหรียญกษาปณ์ เหรียญที่ระลึกต่างๆ ให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 2 เมษายน 2558
คลังสั่งกรมธนารักษ์ยกเครื่องที่ราชพัสดุ มอบ 4 มาตร ทั้งเร่งจัดสรรพื้นที่ตามแนวทางหลวง, พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ, พื้นที่มักกะสัน และที่ราชพัสดุที่ยังไม่พัฒนา
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้กับกรมธนารักษ์ ว่า ได้สั่งการนโยบายเร่งด่วน 4 เรื่อง เกี่ยวกับการพัฒนาที่ราชพัสดุ ประกอบด้วย เร่งจัดสรรพื้นที่ตามแนวทางหลวง เพื่อพัฒนาเป็นจุดพักรถขนาดใหญ่ ในลักษณะเหมือนต่างประเทศ รวมทั้งหมด 41 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็นจุดพักรถที่มีร้านค้าบริการด้วย 13 แห่งและ พักรถเพียงอย่างเดียว 28 แห่ง เบื้องต้นคาดว่าจะจัดจ้างเอกชนเข้ามาบริหารพื้นที่ และกำหนดสัญญาว่าจ้างถึงแนวทางการบริหารพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาได้นำร่องไปแล้วใน จ.นครราชสีมา โดยกรมธนารักษ์ต้องกำหนดจุดให้แล้วเสร็จภายในรัฐบาลชุดนี้
ทั้งนี้ ยังมอบหมายให้กรมธนารักษ์ ดำเนินการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยมอบหมายให้กรมฯ เข้าไปจัดหาพื้นที่เร่งด่วน 2 แห่ง คือ อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และแม่สอด จ.เชียงราย จากทั้งหมด 6 พื้นที่ ซึ่งหาข้อสรุปว่าเอกชนจะบริหารพื้นที่ดังกล่าวทั้งหมด หรือแค่บางส่วน รวมถึงการสำรวจพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษระยะที่ 2 ควบคู่อีกด้วย
สำหรับการใช้ประโยชน์จากการเช่าพื้นที่มักกะสันนั้น กรมธนารักษ์จะรับโอนจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) 490 ไร่ มาพัฒนาเป็นพื้นที่สวนสาธารณะ พื้นที่แก้มลิง และใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ตามนโยบายรัฐบาล โดยกรมจะหารือกับ ร.ฟ.ท.วันที่ 8 เม.ย. เพื่อพิจารณาว่าจะตีมูลค่าที่ดินมาหักภาระหนี้ได้เท่าใด จากปัจจุบัน ร.ฟ.ท.มีภาระหนี้ค้างกระทรวงการคลังกว่า 8 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่ามูลค่าพื้นที่จะไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท
“พื้นที่มักกะสันยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะพัฒนาเป็นรูปแบบใด แต่ยังคงตามกรอบนโยบายรัฐบาล คือ กรมธนารักษ์จะเป็นผู้เช่าและพัฒนาพื้นที่เป็นสวนสาธารณะและพื้นที่แก้มลิงก่อน ส่วนที่เหลือจึงนำมาใช้เชิงพาณิชย์ หากการตีมูลค่าไม่คุ้มกับมูลหนี้ที่มีอยู่ ร.ฟ.ท.ก็ต้องส่งพื้นทีอื่นมาให้ธนารักษ์เช่าเพิ่ม เช่น พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นต้น”
ขณะเดียวกัน ยังให้ธนารักษ์พิจารณาที่ราชพัสดุขนาดใหญ่อื่นๆ ที่ยังไม่พัฒนา เช่น พื้นที่ของ การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) เช่น ท่าอากาศยานสงขลา หาดใหญ่ นำมาพัฒนาเป็นแหล่งพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ โซล่าร์ฟาร์ม เหมือนในต่างประเทศ เพื่อใช้เป็นพลังงานทางเลือกตามนโยบายรัฐบาล รวมถึงการดำเนินงานที่ยังค้างอยู่ เช่นการประเมินราคาที่ดินทั่วประเทศ การดูแลปริมาณเหรียญ และออกเหรียญกษาปณ์ เหรียญที่ระลึกต่างๆ ให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 2 เมษายน 2558