สงกรานต์เงินสะพัด 2.2 หมื่นลบ.

Post Reply
brid.ladawan
Posts: 7045
Joined: 29 Mar 2013, 13:36

สงกรานต์เงินสะพัด 2.2 หมื่นลบ.

Post by brid.ladawan »

สงกรานต์เงินสะพัด 2.2 หมื่นลบ.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุเทศกาลสงกรานต์เงินใช้จ่ายพุ่ง 3.6% อานิสงส์น้ำมันลดคนใช้รถส่วนตัวเดินทางกลับต่างจังหวัดเพิ่ม

รายงานข่าวจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยแจ้งว่า จากการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯในช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่11 –15เม.ย.นี้พบว่า มีเงินสะพัด 22,800 ล้านบาท ขยายตัว 3.6 % หลังจากที่ในปี 57ถูกกระทบจากสถานการณ์การชุมนุมทางการเมือง แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงสังสรรค์ (อาหารและเครื่องดื่ม)11,500 ล้านบาท ช็อปปิ้ง 4,600 ล้านบาทค่าที่พัก เดินทาง 3,100 ล้านบาท ทำบุญไหว้พระ 3,100 ล้านบาท และกิจกรรมอื่นๆ อาทิ ดูหนัง/ฟังเพลง ซื้ออุปกรณ์เล่นน้ำ 500ล้านบาท โดยราคาน้ำมันในประเทศที่ลดลงจากปีก่อน 30% ช่วยประหยัดค่าเดินทางของคนกรุงเทพฯในช่วงสงกรานต์ปีนี้ได้ 10-15%



“ บรรยากาศในการจับจ่ายและทำกิจกรรมต่างๆของคนกรุงเทพฯ กลับมาฟื้นตัวดีขึ้นกว่าปีก่อนแม้ว่าปัจจัยในเรื่องของความไม่สะดวกในการเดินทาง และค่าครองชีพ/หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงยังคงสร้างความกังวลให้กับคนกรุงเทพฯ บางส่วน แต่เนื่องจากคนกรุงเทพฯ ให้ความสำคัญกับเทศกาลสงกรานต์ค่อนข้างมาก”



ทั้งนี้ราคาน้ำมันลดลงส่งผลให้คนกรุงฯ หันมาขับรถส่วนตัวกลับบ้าน ท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเลือกกลับบ้านต่างจังหวัดหรือท่องเที่ยวแบบค้างคืน ส่วนใหญ่จะใช้ระยะเวลาประมาณ 3-4 วัน รองลงมาคือเดินทางโดยรถทัวร์ รถโดยสารประจำทาง ส่วนกิจกรรมที่นิยมทำในวันหยุดยาวคือ เลี้ยงสังสรรค์ในกลุ่มครอบครัวและเพื่อนฝูง โดยค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 2,500 บาทต่อคน รองลงมา คือการพักผ่อนดูหนัง ฟังเพลงอยู่ที่บ้านขณะที่คนที่กลับบ้านและท่องเที่ยวค้างคืนใช้จ่ายเงิน 3,000 บาทต่อคนน รองลงมาคือ การทำบุญไหว้พระ “



สำหรับของฝากญาติพี่น้องเพื่อนฝูงคือ อาหาร ขนม สินค้าโอท็อป เนื่องจากเป็นสินค้าที่สะดวกในการซื้อหาเพราะสามารถเลือกซื้อได้ทุกที่ ทั้งในห้างสรรพสินค้า ร้านจำหน่ายของที่ระลึกหรือร้านค้าทั่วไประหว่างการเดินทาง อีกทั้งยังมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งราคาและรูปแบบเหมาะเป็นของฝากในช่วงเทศกาลสงกรานต์ รองลงมาคือ กลุ่มเครื่องแต่งกาย เสื้อผ้าเครื่องประดับ ส่งผลให้มีเม็ดเงินกระจายไปสู่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีท้องถิ่นมากขึ้น



“แม้ว่าคนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ยังนิยมพักผ่อน/ทำกิจกรรมอยู่ในกรุงเทพฯมากที่สุด คิดเป็นสัดส่วน 54% แต่ถ้าเทียบกับปีก่อนถือว่าลดลง เพราะปี 57มีสัดส่วนถึง 59% ส่วนสถานที่พักผ่อนท่องเที่ยวในต่างหวัดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วโดยจังหวัดที่ได้รับความสนใจ ได้แก่ เชียงใหม่ ชลบุรี เพชรบุรี ภูเก็ต ประจวบคีรีขันธ์และอยุธยา ซึ่งเป็นจังหวัดที่คนกรุงเทพฯ ให้ความสนใจ ทั้งในรูปแบบท่องเที่ยวแบบค้างคืนและแบบเช้าไปเย็นกลับ”

ส่วนกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่คนกรุงเทพฯ ชื่นชอบและให้ความสนใจมากที่สุดหนีไม่พ้นกิจกรรมลดแลก แจก แถม 91 % รองลงมา คือ การจัดโซนถ่ายรูปภายในร้านเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้เข้ามาแวะซื้อสินค้าและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ซึ่งกิจกรรมนี้ค่อนข้างได้รับความนิยมสูงในหมู่วัยรุ่นวัยทำงานที่ต้องการแชร์ภาพถ่ายแก่เพื่อนฝูงในโซเชียลมีเดีย ขณะที่ช่องทางในการทำโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่างๆ ผ่านสื่อโทรทัศน์ (ช่องฟรีทีวี และเคเบิ้ลทีวี)มากสุดคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 90% รองลงมาเป็นการทำตลาดผ่านโซเชียลมีเดียอย่างเฟสบุ๊ค 66 เพราะเป็นกระบอกเสียงสำคัญในโลกการค้ายุคใหม่ที่จะนำเสนอสินค้าและบริการไปสู่ลูกค้าปลายทางได้ดี ดังนั้น ในช่วงเทศกาลสงกรานต์หากผู้ประกอบการมีการจัดสรรงบประมาณการตลาดมาใช้ในการกระตุ้นการจับจ่ายของผู้บริโภคก็น่าจะช่วยเพิ่มยอดขายหรือสร้างรายได้ให้กับธุรกิจในช่วงนี้มาก

ด้านปัจจัยที่ส่งผลต่อการจับจ่ายใช้สอยคือความไม่สะดวกในการเดินทางนำมาเป็นอันดับ 1 เนื่องจากเทศกาลสงกรานต์ส่วนใหญ่มักจะพบปัญหาเกี่ยวกับการจราจรที่หนาแน่นตั๋วโดยสารที่ไม่เพียงพอ ซึ่งทำให้คนที่ต้องการกลับบ้าน หรือท่องเที่ยวในต่างจังหวัดมีความกังวลพอสมควรในเรื่องของการวางแผนการเดินทาง รองลงมาคือภาวะเศรษฐกิจและค่าครองชีพ เช่นเดียวกับปีก่อนๆซึ่งหากพิจารณาถึงมุมมองด้านกำลังซื้อ จะพบว่า คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ในปีนี้ มีระดับรายได้เงินออมและภาระรายจ่ายอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ต่างจากปีก่อนเล็กน้อยที่มองว่ารายจ่ายของประชาชนส่วนใหญ่เพิ่มสูงขึ้นแต่ในปีนี้มีหลายปัจจัย โดยเฉพาะราคาน้ำมันได้ปรับลดลงส่งผลให้ประชาชนประหยัดค่าใช้จ่ายได้ส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะค่าเดินทางในบางประเภท



ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 3 เมษายน 2558
Post Reply

Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”