โหมจัดเอ็กซ์โปปลุกกำลังซื้อ ไทย-จีนเร่งทำการค้าระหว่างกันกระ
Posted: 04 Apr 2015, 16:59
โหมจัดเอ็กซ์โปปลุกกำลังซื้อ ไทย-จีนเร่งทำการค้าระหว่างกันกระหึ่ม
ไทย–จีนเดินหน้าสานสัมพันธ์ทางการค้าต่อเนื่อง ล่าสุดปักธงไทยจัดงาน “2015 ไชน่า–อาเซียน เอ็กซ์โป ไทย เอ็กซิบิชั่น” กระหึ่ม ครั้งแรกและประเทศแรกในอาเซียน หวังดันการค้าพุ่งกระฉูด ตั้งเป้าปี 2559 มูลค่าการค้าไทย–จีนแตะ 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงาน เอ็กซ์โป ไชน่า กับอาเซียน, กรมการค้ามณฑลกว่างสี ประเทศจีน และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สังกัดกระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมกันจัดงาน “2015 China-Asean Expo Thai Exhibition” (2015 ไชน่า-อาเซียน เอ็กซ์โป ไทย เอ็กซิบิชั่น) ซึ่งจัดที่ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา เมื่อวันที่ 2-4 เม.ย.2558 ที่ผ่านมา เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ นักธุรกิจของไทย-จีน ได้พบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนทางการค้ากัน รวมถึงเจรจาค้าขายระหว่างกัน เพื่อสร้างเม็ดเงินทางการค้าไทยจีนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งงานนี้มีสภาวัฒนธรรมมิตรภาพไทย-จีน นำโดยนายพินิจ จารุสมบัติ นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน ร่วมให้การสนับสนุนด้วย
นายพินิจ จารุสมบัติ นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า งานมหกรรมแสดงสินค้าไชน่า-อาเซียน เอ็กซ์โปครั้งนี้ เป็นการจัดต่อเนื่องทุกปี ตั้งแต่ปี 2547 และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 12 และจัดที่ประเทศไทยครั้งแรก ขณะที่ทุกครั้งที่ผ่านมาจัดที่เมืองกว่างสี ประเทศจีนที่เดียว
“ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสพิเศษในการเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน จึงยกขบวนนักธุรกิจ ผู้ประกอบการจากประเทศจีน มาจัดงานที่ประเทศไทย ซึ่งไทยเป็นประเทศแรกในกลุ่มอาเซียนที่ได้รับเกียรติให้จัดงานนี้ งานมหกรรมแสดงสินค้าไชน่า-อาเซียน เอ็กซ์โป”
ทั้งนี้ งานดังกล่าวเป็นงานที่รัฐบาล และกระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นงานที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ นักธุรกิจ ของไทยและจีนได้พบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนทางการค้าระหว่างกัน มีการสานต่อทางธุรกิจและเจรจาค้าขายระหว่างกัน เพื่อสร้างเม็ดเงินทางการค้าระหว่างไทยจีนให้มีจำนวนมากขึ้น หลังพบว่าปี 2557 ที่ผ่านมา การค้าไทย-จีน มีมูลค่ากว่า 63,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยในจำนวนนี้ แบ่งเป็นไทยนำเข้าจากจีนประมาณ 38,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และไทยส่งออกไปจีน 25,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศยังตั้งเป้าวางยุทธศาสตร์ที่จะขยับมูลค่าทางการค้าไทย-จีนเพิ่มขึ้นแตะ 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯภายในปี 2559 หรือเติบโตปีละ 15%
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์
น.ส.ชุติมากล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานมหกรรมแสดงสินค้า 2015 ไชน่า-อาเซียน เอ็กซ์โป ยังจะมีการจัดเป็นทางการอีกครั้ง ที่เมืองกว่างสี ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 29 พ.ค.-1 มิ.ย.2558 ซึ่งขณะนี้ทางประเทศไทยได้มีผู้ประกอบการติดต่อขอไปร่วมงานแล้ว 200 ราย แต่จะคัดเลือกเพียง 120 รายเท่านั้น โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม กลุ่มบริการสปา กลุ่มสิ่งทอ เสื้อผ้า กลุ่มพลังงานทดแทน และกลุ่มเครื่องประดับ เป็นต้น
ด้านนายพินิจ จารุสมบัติ นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน กล่าวว่า ประเทศไทยและประเทศจีนมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นเหมือนบ้านพี่เมืองน้อง โดยเฉพาะทางด้านการติดต่อค้าขาย ซึ่งล่าสุดได้มีการติดต่อเจรจาการค้าผลไม้ไทย ที่จังหวัดจันทบุรี และเตรียมส่งออกไปประเทศจีนเป็นจำนวนมาก อาทิ ทุเรียน เงาะ ลำไย เป็นต้น โดยราคาขายของทุเรียน และลำไย เฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 100 บาท ส่วนเงาะอยู่ที่ กก.ละ 20-30 บาท
“การที่ประเทศไทยและจีนจะสร้างมูลค่าเพิ่มทางการค้าระหว่างกัน ควรมีข้อตกลงและความร่วมมือระหว่างกันให้ชัดเจนมากกว่านี้ อาทิ เรื่องภาษีต่างๆ การนำเข้า การส่งออก วัตถุดิบและสินค้า เพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจที่จะเข้ามาลงทุน และหลังจากมีการลงทุนร่วมกันแล้ว ทั้ง 2 ประเทศควรร่วมกันพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ มาตรฐาน และเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น”
ปัจจุบันประเทศจีนผลิตสินค้าได้หลายเกรด ซึ่งควรจะเน้นผลิตสินค้าให้ได้คุณภาพมาตรฐาน ในส่วนของสมาคมก็พร้อมที่จะเป็นตัวกลางประสานในเรื่องของการลงทุนให้ แต่ก็อยากให้ประเทศจีนใส่ใจในการผลิตสินค้าที่ดี มีคุณภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่านี้ ประเทศไทยพร้อมที่จะให้จีนเข้ามาลงทุนอยู่แล้ว
นายหลิว ยู่หมิง รองเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ ประเทศจีน กล่าวว่า การจัดมหกรรมการแสดงสินค้าในประเทศไทยครั้งนี้ มีบริษัทแบรนด์ชั้นนำทั้งจากประเทศไทยและจีน ซึ่งล้วนเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมในแต่ละด้าน อาทิ เครื่องจักรและอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งทอ เสื้อผ้า สารเคมี อุตสาหกรรมเบา อาหาร เป็นต้น มาร่วมออกบูธ 150 บูธ.
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 4 เม.ย. 2558
ไทย–จีนเดินหน้าสานสัมพันธ์ทางการค้าต่อเนื่อง ล่าสุดปักธงไทยจัดงาน “2015 ไชน่า–อาเซียน เอ็กซ์โป ไทย เอ็กซิบิชั่น” กระหึ่ม ครั้งแรกและประเทศแรกในอาเซียน หวังดันการค้าพุ่งกระฉูด ตั้งเป้าปี 2559 มูลค่าการค้าไทย–จีนแตะ 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงาน เอ็กซ์โป ไชน่า กับอาเซียน, กรมการค้ามณฑลกว่างสี ประเทศจีน และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สังกัดกระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมกันจัดงาน “2015 China-Asean Expo Thai Exhibition” (2015 ไชน่า-อาเซียน เอ็กซ์โป ไทย เอ็กซิบิชั่น) ซึ่งจัดที่ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา เมื่อวันที่ 2-4 เม.ย.2558 ที่ผ่านมา เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ นักธุรกิจของไทย-จีน ได้พบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนทางการค้ากัน รวมถึงเจรจาค้าขายระหว่างกัน เพื่อสร้างเม็ดเงินทางการค้าไทยจีนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งงานนี้มีสภาวัฒนธรรมมิตรภาพไทย-จีน นำโดยนายพินิจ จารุสมบัติ นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน ร่วมให้การสนับสนุนด้วย
นายพินิจ จารุสมบัติ นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า งานมหกรรมแสดงสินค้าไชน่า-อาเซียน เอ็กซ์โปครั้งนี้ เป็นการจัดต่อเนื่องทุกปี ตั้งแต่ปี 2547 และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 12 และจัดที่ประเทศไทยครั้งแรก ขณะที่ทุกครั้งที่ผ่านมาจัดที่เมืองกว่างสี ประเทศจีนที่เดียว
“ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสพิเศษในการเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน จึงยกขบวนนักธุรกิจ ผู้ประกอบการจากประเทศจีน มาจัดงานที่ประเทศไทย ซึ่งไทยเป็นประเทศแรกในกลุ่มอาเซียนที่ได้รับเกียรติให้จัดงานนี้ งานมหกรรมแสดงสินค้าไชน่า-อาเซียน เอ็กซ์โป”
ทั้งนี้ งานดังกล่าวเป็นงานที่รัฐบาล และกระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นงานที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ นักธุรกิจ ของไทยและจีนได้พบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนทางการค้าระหว่างกัน มีการสานต่อทางธุรกิจและเจรจาค้าขายระหว่างกัน เพื่อสร้างเม็ดเงินทางการค้าระหว่างไทยจีนให้มีจำนวนมากขึ้น หลังพบว่าปี 2557 ที่ผ่านมา การค้าไทย-จีน มีมูลค่ากว่า 63,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยในจำนวนนี้ แบ่งเป็นไทยนำเข้าจากจีนประมาณ 38,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และไทยส่งออกไปจีน 25,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศยังตั้งเป้าวางยุทธศาสตร์ที่จะขยับมูลค่าทางการค้าไทย-จีนเพิ่มขึ้นแตะ 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯภายในปี 2559 หรือเติบโตปีละ 15%
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์
น.ส.ชุติมากล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานมหกรรมแสดงสินค้า 2015 ไชน่า-อาเซียน เอ็กซ์โป ยังจะมีการจัดเป็นทางการอีกครั้ง ที่เมืองกว่างสี ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 29 พ.ค.-1 มิ.ย.2558 ซึ่งขณะนี้ทางประเทศไทยได้มีผู้ประกอบการติดต่อขอไปร่วมงานแล้ว 200 ราย แต่จะคัดเลือกเพียง 120 รายเท่านั้น โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม กลุ่มบริการสปา กลุ่มสิ่งทอ เสื้อผ้า กลุ่มพลังงานทดแทน และกลุ่มเครื่องประดับ เป็นต้น
ด้านนายพินิจ จารุสมบัติ นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน กล่าวว่า ประเทศไทยและประเทศจีนมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นเหมือนบ้านพี่เมืองน้อง โดยเฉพาะทางด้านการติดต่อค้าขาย ซึ่งล่าสุดได้มีการติดต่อเจรจาการค้าผลไม้ไทย ที่จังหวัดจันทบุรี และเตรียมส่งออกไปประเทศจีนเป็นจำนวนมาก อาทิ ทุเรียน เงาะ ลำไย เป็นต้น โดยราคาขายของทุเรียน และลำไย เฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 100 บาท ส่วนเงาะอยู่ที่ กก.ละ 20-30 บาท
“การที่ประเทศไทยและจีนจะสร้างมูลค่าเพิ่มทางการค้าระหว่างกัน ควรมีข้อตกลงและความร่วมมือระหว่างกันให้ชัดเจนมากกว่านี้ อาทิ เรื่องภาษีต่างๆ การนำเข้า การส่งออก วัตถุดิบและสินค้า เพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจที่จะเข้ามาลงทุน และหลังจากมีการลงทุนร่วมกันแล้ว ทั้ง 2 ประเทศควรร่วมกันพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ มาตรฐาน และเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น”
ปัจจุบันประเทศจีนผลิตสินค้าได้หลายเกรด ซึ่งควรจะเน้นผลิตสินค้าให้ได้คุณภาพมาตรฐาน ในส่วนของสมาคมก็พร้อมที่จะเป็นตัวกลางประสานในเรื่องของการลงทุนให้ แต่ก็อยากให้ประเทศจีนใส่ใจในการผลิตสินค้าที่ดี มีคุณภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่านี้ ประเทศไทยพร้อมที่จะให้จีนเข้ามาลงทุนอยู่แล้ว
นายหลิว ยู่หมิง รองเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ ประเทศจีน กล่าวว่า การจัดมหกรรมการแสดงสินค้าในประเทศไทยครั้งนี้ มีบริษัทแบรนด์ชั้นนำทั้งจากประเทศไทยและจีน ซึ่งล้วนเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมในแต่ละด้าน อาทิ เครื่องจักรและอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งทอ เสื้อผ้า สารเคมี อุตสาหกรรมเบา อาหาร เป็นต้น มาร่วมออกบูธ 150 บูธ.
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 4 เม.ย. 2558