เฮ! "ช.ค.บ." ตกเบิก 5 เดือน
Posted: 04 Apr 2015, 17:02
เฮ! "ช.ค.บ." ตกเบิก 5 เดือน
นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ในสิ้นเดือน เม.ย.นี้ ข้าราชการบำนาญจะได้รับเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ช.ค.บ.) เพิ่มขึ้นอีก 4% พร้อมกับตกเบิกย้อนหลังตั้งแต่เดือน ธ.ค.2557 รวมทั้งหมด 5 เดือน หลังจากได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางไม่ได้ทำงานล่าช้า แต่เนื่องจากการปรับเพิ่มเงิน ช.ค.บ.มีรายละเอียดของกฎหมายมากจึงต้องใช้เวลา แต่เมื่อกฎหมายดังกล่าวได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาก็จะมีผลย้อนหลังไปจนถึงเดือน ธ.ค.57 ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ส่วนการพิจารณาปรับขึ้นเงินข้าราชการตามปกติในเดือน เม.ย.นี้ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) แจ้งว่าอาจล่าช้า เพราะต้องดำเนินการปรับโครงสร้างบัญชีเงินเดือนข้าราชการตั้งแต่ชั้นผู้น้อยไปจนถึงผู้บริหาร ตามมติ ครม. ให้แล้วเสร็จก่อน หลังจากนั้นถึงจะมีการปรับขึ้นขั้นเงินเดือนข้าราชการตามปกติ แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของข้าราชการ เพราะในรอบนี้เท่ากับว่าข้าราชการได้ปรับขึ้นเงินเดือนถึง 2 ต่อ คือ 1. โครงสร้างบัญชีเงินเดือนใหม่ และ 2. ปรับขึ้นขั้นเงินเดือนตามปกติ
ทั้งนี้ หากปรับขึ้นขั้นเงินเดือนก่อนข้าราชการจะเสียเปรียบ เพราะการคำนวณจะพิจารณาจากฐานเงินเดือนเดิม แต่หากปรับโครงสร้างบัญชีเงินเดือนใหม่ก่อน การคำนวณจะพิจารณาจากฐานเงินเดือนใหม่ ซึ่งจะทำให้รายได้เพิ่มสูงขึ้น และที่สำคัญ รายได้ที่เพิ่มแต่ยังไม่ได้รับในสิ้นเดือน เม.ย. ข้าราชการจะได้รับเงินตกเบิกในเดือนถัดไป.
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 4 เม.ย. 2558
นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ในสิ้นเดือน เม.ย.นี้ ข้าราชการบำนาญจะได้รับเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ช.ค.บ.) เพิ่มขึ้นอีก 4% พร้อมกับตกเบิกย้อนหลังตั้งแต่เดือน ธ.ค.2557 รวมทั้งหมด 5 เดือน หลังจากได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางไม่ได้ทำงานล่าช้า แต่เนื่องจากการปรับเพิ่มเงิน ช.ค.บ.มีรายละเอียดของกฎหมายมากจึงต้องใช้เวลา แต่เมื่อกฎหมายดังกล่าวได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาก็จะมีผลย้อนหลังไปจนถึงเดือน ธ.ค.57 ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ส่วนการพิจารณาปรับขึ้นเงินข้าราชการตามปกติในเดือน เม.ย.นี้ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) แจ้งว่าอาจล่าช้า เพราะต้องดำเนินการปรับโครงสร้างบัญชีเงินเดือนข้าราชการตั้งแต่ชั้นผู้น้อยไปจนถึงผู้บริหาร ตามมติ ครม. ให้แล้วเสร็จก่อน หลังจากนั้นถึงจะมีการปรับขึ้นขั้นเงินเดือนข้าราชการตามปกติ แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของข้าราชการ เพราะในรอบนี้เท่ากับว่าข้าราชการได้ปรับขึ้นเงินเดือนถึง 2 ต่อ คือ 1. โครงสร้างบัญชีเงินเดือนใหม่ และ 2. ปรับขึ้นขั้นเงินเดือนตามปกติ
ทั้งนี้ หากปรับขึ้นขั้นเงินเดือนก่อนข้าราชการจะเสียเปรียบ เพราะการคำนวณจะพิจารณาจากฐานเงินเดือนเดิม แต่หากปรับโครงสร้างบัญชีเงินเดือนใหม่ก่อน การคำนวณจะพิจารณาจากฐานเงินเดือนใหม่ ซึ่งจะทำให้รายได้เพิ่มสูงขึ้น และที่สำคัญ รายได้ที่เพิ่มแต่ยังไม่ได้รับในสิ้นเดือน เม.ย. ข้าราชการจะได้รับเงินตกเบิกในเดือนถัดไป.
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 4 เม.ย. 2558