มาลีสามพราน ปลื้มนักลงทุนสถาบันสิงคโปร์สน
Posted: 04 Apr 2015, 17:22
มาลีสามพราน ปลื้มนักลงทุนสถาบันสิงคโปร์สน
มาลีสามพราน ปลื้ม หลังร่วมโรดโชว์ Invest Asean 2015 Edition ที่ประเทศสิงคโปร์ ร่วมกับ บล.เมย์แบงค์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) พบมีกองทุนสิงคโปร์เข้าพบกว่า 30 กองทุน สนใจและสอบถามถึงแผนธุรกิจของบริษัท
บริษัท มาลีสามพราน จำกัด (มหาชน) หรือ MALEE เปิดเผยว่า กองทุนสิงคโปร์เข้าพบกว่า 30 กองทุน โดยเมื่อวันที่ 31 มีนาคม และ 1 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา บริษัทได้เข้าร่วมงานโรดโชว์ Invest Asean 2015 Edition ที่ประเทศสิงคโปร์ กับ บล.เมย์แบงค์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) พบว่า บริษัทได้รับการต้อนรับจากนักลงทุนสถาบันในประเทศสิงคโปร์เป็นอย่างดี โดยมีนักลงทุนสถาบันกว่า 30 กองทุนที่สนใจขอเข้ารับฟังข้อมูลความน่าสนใจในการลงทุนของบริษัท
“นักลงทุนส่วนใหญ่สอบถามถึงแผนธุรกิจในอนาคตของบริษัท เป้าหมายการดำเนินงานของบริษัท รวมถึงข้อมูลทางการเงินของบริษัท โดยปัจจุบันบริษัทถือได้ว่าเป็นผู้นำในการผลิตและจำหน่ายสินค้าประเภทน้ำผลไม้และผลไม้กระป๋อง และแบรนด์มาลีถือเป็นแบรนด์ของคนไทยที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ” นางสาวรุ่งฉัตร บุญรัตน์ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการขายและการตลาด กล่าว
“ต้องขอขอบคุณ เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ที่พาบริษัทพบกับกองทุนขนาดใหญ่ในประเทศสิงคโปร์ในครั้งนี้ บริษัทถือว่าได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีจนเกินคาด โดยครั้งนี้เป็นปีที่ 2 ที่บริษัทเข้าร่วม Roadshow กับเมย์แบงค์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ซึ่งมีทั้งนักลงทุนรายเดิมที่เคยเข้าพบแล้ว และรายใหม่ที่ขอเข้าพบบริษัท รวมกันมากกว่า 30 กองทุน โดยในปีนี้บริษัทมีแผนงานนักลงทุนสัมพันธ์ที่จะให้ข้อมูลความน่าสนใจในการลงทุนของบริษัทให้มากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ” นายปัญญา ชุติสิริวงศ์ ผู้จัดการอาวุโส สายงานนักลงทุนสัมพันธ์ และเลขานุการบริษัท กล่าว
สำหรับปี 2558 นี้ บริษัทมีแผนที่จะเติบโตในธุรกิจแบรนด์มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการในด้านการรักสุขภาพของผู้บริโภค และจะเน้นขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม CLMV มากขึ้น เนื่องจากสินค้าของบริษัทได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภคในภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง ทั้งใน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม และจีน โดยในปี 2558 บริษัทมีแผนที่ปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิตเพื่อลดต้นทุนให้ดีมากขึ้นทั้งในด้านการขนส่งโลจิสติกส์ และในกระบวนการผลิต พร้อมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อสร้างความแตกต่าง และตอบสนองความต้องการทางด้านการดูแลสุขภาพของผู้บริโภค
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 3 เมษายน 2558
มาลีสามพราน ปลื้ม หลังร่วมโรดโชว์ Invest Asean 2015 Edition ที่ประเทศสิงคโปร์ ร่วมกับ บล.เมย์แบงค์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) พบมีกองทุนสิงคโปร์เข้าพบกว่า 30 กองทุน สนใจและสอบถามถึงแผนธุรกิจของบริษัท
บริษัท มาลีสามพราน จำกัด (มหาชน) หรือ MALEE เปิดเผยว่า กองทุนสิงคโปร์เข้าพบกว่า 30 กองทุน โดยเมื่อวันที่ 31 มีนาคม และ 1 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา บริษัทได้เข้าร่วมงานโรดโชว์ Invest Asean 2015 Edition ที่ประเทศสิงคโปร์ กับ บล.เมย์แบงค์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) พบว่า บริษัทได้รับการต้อนรับจากนักลงทุนสถาบันในประเทศสิงคโปร์เป็นอย่างดี โดยมีนักลงทุนสถาบันกว่า 30 กองทุนที่สนใจขอเข้ารับฟังข้อมูลความน่าสนใจในการลงทุนของบริษัท
“นักลงทุนส่วนใหญ่สอบถามถึงแผนธุรกิจในอนาคตของบริษัท เป้าหมายการดำเนินงานของบริษัท รวมถึงข้อมูลทางการเงินของบริษัท โดยปัจจุบันบริษัทถือได้ว่าเป็นผู้นำในการผลิตและจำหน่ายสินค้าประเภทน้ำผลไม้และผลไม้กระป๋อง และแบรนด์มาลีถือเป็นแบรนด์ของคนไทยที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ” นางสาวรุ่งฉัตร บุญรัตน์ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการขายและการตลาด กล่าว
“ต้องขอขอบคุณ เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ที่พาบริษัทพบกับกองทุนขนาดใหญ่ในประเทศสิงคโปร์ในครั้งนี้ บริษัทถือว่าได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีจนเกินคาด โดยครั้งนี้เป็นปีที่ 2 ที่บริษัทเข้าร่วม Roadshow กับเมย์แบงค์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ซึ่งมีทั้งนักลงทุนรายเดิมที่เคยเข้าพบแล้ว และรายใหม่ที่ขอเข้าพบบริษัท รวมกันมากกว่า 30 กองทุน โดยในปีนี้บริษัทมีแผนงานนักลงทุนสัมพันธ์ที่จะให้ข้อมูลความน่าสนใจในการลงทุนของบริษัทให้มากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ” นายปัญญา ชุติสิริวงศ์ ผู้จัดการอาวุโส สายงานนักลงทุนสัมพันธ์ และเลขานุการบริษัท กล่าว
สำหรับปี 2558 นี้ บริษัทมีแผนที่จะเติบโตในธุรกิจแบรนด์มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการในด้านการรักสุขภาพของผู้บริโภค และจะเน้นขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม CLMV มากขึ้น เนื่องจากสินค้าของบริษัทได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภคในภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง ทั้งใน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม และจีน โดยในปี 2558 บริษัทมีแผนที่ปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิตเพื่อลดต้นทุนให้ดีมากขึ้นทั้งในด้านการขนส่งโลจิสติกส์ และในกระบวนการผลิต พร้อมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อสร้างความแตกต่าง และตอบสนองความต้องการทางด้านการดูแลสุขภาพของผู้บริโภค
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 3 เมษายน 2558