จับตา คลาวด์-โซเชียล พลิกโฉมตลาดปลอดภัย
Posted: 06 Apr 2013, 13:36
ladawan
Hero Member
*****
Posts: 824
View Profile Email
จับตา คลาวด์-โซเชียล พลิกโฉมตลาดปลอดภัย
« on: July 05, 2012, 05:07:50 pm »
จับตา คลาวด์-โซเชียล พลิกโฉมตลาดปลอดภัย
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
"ช่องว่างความปลอดภัยระบบไอทีภายในองค์กรมีมากขึ้น เป็นผลมาจากการขยายตัวของอุปกรณ์มือถือ และการเพิ่มขึ้นของการใช้งานแอพพลิเคชั่นเชิงธุรกิจ
ผ่านเครือข่าย" โจนาธาน แอนเดอร์สัน รองประธานฝ่ายการตลาด เอเชียแปซิฟิก บริษัท บลูโค้ท ซิสเต็มส์ อิงค์ ผู้ให้บริการระบบรักษาความปลอดภัยบนเว็บและโซลูชั่นเร่งความเร็วเครือข่าย เล่า
เขาเล่าต่อว่า ผลสำรวจกลุ่มตัวอย่างพบว่ามีถึง 52% ที่มีโมบายดีไวซ์ใช้งานถึง 3 ดีไวซ์ ทำให้เกิดการเชื่อมต่อสู่เครือข่ายจากสถานที่ต่างๆ จากหลากหลายแอพพลิเคชั่น โดยรายงานด้านความปลอดภัยบนเว็บไซต์ของบลูโค้ท ซิสเต็มส์ ล่าสุด บอกอีกว่า เว็บไซต์ประเภทเครือข่ายสังคมออนไลน์ หรือ โซเชียล เน็ตเวิร์ค เป็นสื่อกลางของการโจมตีที่ได้รับความนิยมสูงติดอันดับท็อป 3 ของการโจมตีที่มาจากมัลเน็ต (Malnet) หรือเครือข่ายมัลแวร์ มาแล้วหลายปีติดต่อกัน
ข้อมูลระบุว่า เมื่อดูถึงภัยคุกคามที่มาจากอินเทอร์เน็ต การเติบโตของมัลแวร์เมื่อปี 2554 มีมากถึง 240% แต่สิ่งที่น่ากลัวมากกว่า นั่นคือ ภัยคุกคามที่เกิดจากการโจมตีของมัลเน็ต ซึ่งคิดเป็น 2 ใน 3 ของภัยคุกคามที่เกิดขึ้นดังกล่าว
คลาวด์-โซเชียลพลิกโฉม
ผู้บริหารบลูโค้ทเห็นว่า การรักษาความปลอดภัยสำหรับเครือข่ายต้องถูกเปลี่ยนรูปแบบไปเป็นการรักษาความปลอดภัยที่ติดตามตัวผู้ใช้ไปได้เสมอ โดยไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่และอุปกรณ์ ทว่าดูเหมือนว่าโซลูชั่นการรักษาความปลอดภัยแบบดั้งเดิม ไม่ได้มีระบบป้องกัน ควบคุม และจัดการผู้ใช้ได้อย่างต่อเนื่อง เช่น กรณีที่ผู้ใช้ย้ายจากสำนักงานใหญ่ไปยังสำนักงานสาขาหรือไปยังภายนอกสำนักงาน หรือย้ายจากเดสก์ทอปไปเป็นแล็ปทอปหรืออุปกรณ์มือถือ
นับเป็นความท้าทายขององค์กรที่จำเป็นต้องมีเครื่องมือเข้ามาบริหารจัดการ โดย 5 ปีต่อจากนี้ ขอบข่ายของเทรนด์เทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยที่จะมาแรง คือ คลาวด์ คอมพิวติ้ง ที่กำลังเป็นกระแสการลงทุนสมัยใหม่ และโซเชียล เน็ตเวิร์ค เห็นได้จากจำนวนผู้ใช้เฟซบุ๊คในไทยปัจจุบันที่มีอยู่ร่วม 14.6 ล้านราย
อย่างไรก็ตาม ความตระหนักรู้ในการสร้างระบบรักษาความปลอดภัยในประเทศไทยมีทิศทางดีขึ้น โดยเฉพาะกับองค์กรที่มีหลายสาขา ซึ่งต่างพบว่ายิ่งมีการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายถึงกันทั้งหมด เชื่อมต่อไปยังอินเทอร์เน็ต ยิ่งต้องจัดการความปลอดภัย ส่งผลทำให้การใช้งานอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยแบบเกตเวย์ได้รับความนิยมมากขึ้นตามลำดับ
หันรุกค้าปลีกรักษาเบอร์ 1
แอนเดอร์สันเผยว่า ปี 2555 บลูโค้ทเตรียมรุกหนักกลุ่มลูกค้าธุรกิจค้าปลีก เพราะได้กระจายสาขาไปทั่วประเทศ ทำนองเดียวกันกับธุรกิจธนาคารและสถาบันการเงินที่ได้ทำตลาดมาก่อนหน้านี้ อีกทั้งจะขยายตลาดไปในส่วนอุตสาหกรรมการผลิต โทรคมนาคม การศึกษา และองค์กรภาครัฐ
“หลายธุรกิจที่กลับมาเติบโตได้เร็วขึ้นปีนี้ จะทำให้โซลูชั่นการรักษาความปลอดภัยเป็นที่ต้องการ เชื่อว่าแผนการรุกตลาดที่หนักหน่วงของบริษัท จะทำให้บลูโค้ทรักษาส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ด้านอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยบนเกตเวย์ไว้ได้” นายแอนเดอร์สันกล่าว
ล่าสุดเปิดตัวโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจร "ยูนิไฟด์ ซิเคียวริตี้" ผสมผสานระหว่างอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยแบบเกตเวย์ และระบบรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ ทำให้องค์กรมีความยืดหยุ่นในการจัดการระบบรักษาความปลอดภัยโดยเฉพาะบนเว็บไซต์ ตั้งเป้าการเติบโตปีนี้ที่ 20-25% จากปีที่ผ่านมา เติบโตแค่ 10-15% เหตุเพราะปัญหาน้ำท่วม
หวังรายได้คลาวด์ 10% ปี 2556
ขณะที่การทำตลาดประเทศในภูมิภาคอินโดจีน บริษัทใช้ 3 ประเทศเป็นฐานรุก คือ ไทย สิงคโปร์ และมาเลเซีย ขณะนี้ มีพันธมิตรที่เป็นดิสทริบิวเตอร์ท้องถิ่น เช่น จีเอเบิล เมโทร ซิสเต็มส์ เอ็มเทค และเอ็นฟอร์ซ ช่วยเข้าทำตลาดประเทศ พม่า ลาว และเวียดนาม
แอนเดอร์สัน ประเมินด้วยว่า แนวโน้มของระบบรักษาความปลอดภัยยุคต่อไปจะขึ้นไปอยู่บนเทคโนโลยีคลาวด์ คอมพิวติ้ง โดยบลูโค้ทได้เริ่มเข้ามาทำตลาดแล้ว คาดว่าจะเริ่มเห็นผลชัดเจนในปีหน้า เพราะต้องใช้เวลาให้ความรู้ตลาด แต่ล่าสุด มีธนาคารขนาดใหญ่ 2-3 แห่งให้ความสนใจแล้ว
“ปีหน้าบลูโค้ดจะมีรายได้จากโซลูชั่นบนคลาวด์ประมาณ 10% ตัวเลขนี้อาจดูไม่มากเมื่อเทียบกับยอดขายกลุ่มแอพพลายแอนซ์เดิม แต่เป็นแนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องเหมือนกับตลาดที่โตแล้วเช่นสหรัฐ ขณะนี้ ไทยตามหลังสหรัฐเรื่องการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ประมาณ 2 ปี” ผู้บริหารบลูโค้ทเผย
Tags : คลาวด์ • โจนาธาน แอนเดอร์สัน
Hero Member
*****
Posts: 824
View Profile Email
จับตา คลาวด์-โซเชียล พลิกโฉมตลาดปลอดภัย
« on: July 05, 2012, 05:07:50 pm »
จับตา คลาวด์-โซเชียล พลิกโฉมตลาดปลอดภัย
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
"ช่องว่างความปลอดภัยระบบไอทีภายในองค์กรมีมากขึ้น เป็นผลมาจากการขยายตัวของอุปกรณ์มือถือ และการเพิ่มขึ้นของการใช้งานแอพพลิเคชั่นเชิงธุรกิจ
ผ่านเครือข่าย" โจนาธาน แอนเดอร์สัน รองประธานฝ่ายการตลาด เอเชียแปซิฟิก บริษัท บลูโค้ท ซิสเต็มส์ อิงค์ ผู้ให้บริการระบบรักษาความปลอดภัยบนเว็บและโซลูชั่นเร่งความเร็วเครือข่าย เล่า
เขาเล่าต่อว่า ผลสำรวจกลุ่มตัวอย่างพบว่ามีถึง 52% ที่มีโมบายดีไวซ์ใช้งานถึง 3 ดีไวซ์ ทำให้เกิดการเชื่อมต่อสู่เครือข่ายจากสถานที่ต่างๆ จากหลากหลายแอพพลิเคชั่น โดยรายงานด้านความปลอดภัยบนเว็บไซต์ของบลูโค้ท ซิสเต็มส์ ล่าสุด บอกอีกว่า เว็บไซต์ประเภทเครือข่ายสังคมออนไลน์ หรือ โซเชียล เน็ตเวิร์ค เป็นสื่อกลางของการโจมตีที่ได้รับความนิยมสูงติดอันดับท็อป 3 ของการโจมตีที่มาจากมัลเน็ต (Malnet) หรือเครือข่ายมัลแวร์ มาแล้วหลายปีติดต่อกัน
ข้อมูลระบุว่า เมื่อดูถึงภัยคุกคามที่มาจากอินเทอร์เน็ต การเติบโตของมัลแวร์เมื่อปี 2554 มีมากถึง 240% แต่สิ่งที่น่ากลัวมากกว่า นั่นคือ ภัยคุกคามที่เกิดจากการโจมตีของมัลเน็ต ซึ่งคิดเป็น 2 ใน 3 ของภัยคุกคามที่เกิดขึ้นดังกล่าว
คลาวด์-โซเชียลพลิกโฉม
ผู้บริหารบลูโค้ทเห็นว่า การรักษาความปลอดภัยสำหรับเครือข่ายต้องถูกเปลี่ยนรูปแบบไปเป็นการรักษาความปลอดภัยที่ติดตามตัวผู้ใช้ไปได้เสมอ โดยไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่และอุปกรณ์ ทว่าดูเหมือนว่าโซลูชั่นการรักษาความปลอดภัยแบบดั้งเดิม ไม่ได้มีระบบป้องกัน ควบคุม และจัดการผู้ใช้ได้อย่างต่อเนื่อง เช่น กรณีที่ผู้ใช้ย้ายจากสำนักงานใหญ่ไปยังสำนักงานสาขาหรือไปยังภายนอกสำนักงาน หรือย้ายจากเดสก์ทอปไปเป็นแล็ปทอปหรืออุปกรณ์มือถือ
นับเป็นความท้าทายขององค์กรที่จำเป็นต้องมีเครื่องมือเข้ามาบริหารจัดการ โดย 5 ปีต่อจากนี้ ขอบข่ายของเทรนด์เทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยที่จะมาแรง คือ คลาวด์ คอมพิวติ้ง ที่กำลังเป็นกระแสการลงทุนสมัยใหม่ และโซเชียล เน็ตเวิร์ค เห็นได้จากจำนวนผู้ใช้เฟซบุ๊คในไทยปัจจุบันที่มีอยู่ร่วม 14.6 ล้านราย
อย่างไรก็ตาม ความตระหนักรู้ในการสร้างระบบรักษาความปลอดภัยในประเทศไทยมีทิศทางดีขึ้น โดยเฉพาะกับองค์กรที่มีหลายสาขา ซึ่งต่างพบว่ายิ่งมีการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายถึงกันทั้งหมด เชื่อมต่อไปยังอินเทอร์เน็ต ยิ่งต้องจัดการความปลอดภัย ส่งผลทำให้การใช้งานอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยแบบเกตเวย์ได้รับความนิยมมากขึ้นตามลำดับ
หันรุกค้าปลีกรักษาเบอร์ 1
แอนเดอร์สันเผยว่า ปี 2555 บลูโค้ทเตรียมรุกหนักกลุ่มลูกค้าธุรกิจค้าปลีก เพราะได้กระจายสาขาไปทั่วประเทศ ทำนองเดียวกันกับธุรกิจธนาคารและสถาบันการเงินที่ได้ทำตลาดมาก่อนหน้านี้ อีกทั้งจะขยายตลาดไปในส่วนอุตสาหกรรมการผลิต โทรคมนาคม การศึกษา และองค์กรภาครัฐ
“หลายธุรกิจที่กลับมาเติบโตได้เร็วขึ้นปีนี้ จะทำให้โซลูชั่นการรักษาความปลอดภัยเป็นที่ต้องการ เชื่อว่าแผนการรุกตลาดที่หนักหน่วงของบริษัท จะทำให้บลูโค้ทรักษาส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ด้านอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยบนเกตเวย์ไว้ได้” นายแอนเดอร์สันกล่าว
ล่าสุดเปิดตัวโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจร "ยูนิไฟด์ ซิเคียวริตี้" ผสมผสานระหว่างอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยแบบเกตเวย์ และระบบรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ ทำให้องค์กรมีความยืดหยุ่นในการจัดการระบบรักษาความปลอดภัยโดยเฉพาะบนเว็บไซต์ ตั้งเป้าการเติบโตปีนี้ที่ 20-25% จากปีที่ผ่านมา เติบโตแค่ 10-15% เหตุเพราะปัญหาน้ำท่วม
หวังรายได้คลาวด์ 10% ปี 2556
ขณะที่การทำตลาดประเทศในภูมิภาคอินโดจีน บริษัทใช้ 3 ประเทศเป็นฐานรุก คือ ไทย สิงคโปร์ และมาเลเซีย ขณะนี้ มีพันธมิตรที่เป็นดิสทริบิวเตอร์ท้องถิ่น เช่น จีเอเบิล เมโทร ซิสเต็มส์ เอ็มเทค และเอ็นฟอร์ซ ช่วยเข้าทำตลาดประเทศ พม่า ลาว และเวียดนาม
แอนเดอร์สัน ประเมินด้วยว่า แนวโน้มของระบบรักษาความปลอดภัยยุคต่อไปจะขึ้นไปอยู่บนเทคโนโลยีคลาวด์ คอมพิวติ้ง โดยบลูโค้ทได้เริ่มเข้ามาทำตลาดแล้ว คาดว่าจะเริ่มเห็นผลชัดเจนในปีหน้า เพราะต้องใช้เวลาให้ความรู้ตลาด แต่ล่าสุด มีธนาคารขนาดใหญ่ 2-3 แห่งให้ความสนใจแล้ว
“ปีหน้าบลูโค้ดจะมีรายได้จากโซลูชั่นบนคลาวด์ประมาณ 10% ตัวเลขนี้อาจดูไม่มากเมื่อเทียบกับยอดขายกลุ่มแอพพลายแอนซ์เดิม แต่เป็นแนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องเหมือนกับตลาดที่โตแล้วเช่นสหรัฐ ขณะนี้ ไทยตามหลังสหรัฐเรื่องการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ประมาณ 2 ปี” ผู้บริหารบลูโค้ทเผย
Tags : คลาวด์ • โจนาธาน แอนเดอร์สัน