ดบ.สูงดันบาทแข็ง “ธีระชัย” ชี้เป็นปัจจัยฉุดทำให้เศรษฐกิจไทยไ
Posted: 20 Apr 2015, 10:00
ดบ.สูงดันบาทแข็ง “ธีระชัย” ชี้เป็นปัจจัยฉุดทำให้เศรษฐกิจไทยไม่ฟื้น
“ธีระชัย” หนุนความเห็นเอกชนกรณีนโยบายดอกเบี้ยยังสูง ค่าเงินบาทแข็งเกินไป ชี้เป็นปัจจัยฉุดทำให้เศรษฐกิจไทยไม่ฟื้น แถมคนไทยที่มีเงินแห่ไปชอปปิ้งเมืองนอก ซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจเข้าไปอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thirachai Phuvanatnaranubala ระบุว่า เห็นด้วยต่อภาคเอกชนโดยเฉพาะผู้บริหารกลุ่มเซ็นทรัลที่ออกมาระบุว่า เมื่อเทียบกับหลายๆ ประเทศในขณะนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.คงดอกเบี้ยไว้ในระดับที่สูงเกินไป ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่า ขณะที่หลายประเทศผ่อนคลายดอกเบี้ยเพื่อให้ค่าเงินอ่อนลง
นายธีระชัย โพสต์ว่า “ผมเขียนหลายครั้งแล้วว่า กนง.คงดอกเบี้ยไว้สูงเกินไป ขณะที่หลายประเทศผ่อนคลายดอกเบี้ยเพื่อให้เงินของเขาอ่อนลงทำให้เงินบาทแข็งมากเมื่อเทียบกับยูโรและเงินเยน ข่าวไทยรัฐวันนี้ คุณทศ จิราธิวัฒน์ ผู้บริหารของกลุ่มเซ็นทรัล ก็ออกมาชี้ปัญหานี้ด้วย คุณทศ เขาเรียนจบเศรษฐศาสตร์จากลอนดอน สกูล ออฟ อีโคโนมิค มหาวิทยาลัยชั้นนำของอังกฤษ (ที่เดียวกับผม) ความเห็นของคุณทศ จึงเป็นแง่มุมของนักธุรกิจที่เข้าใจด้านวิชาการด้วย จึงต้องให้น้ำหนัก คุณทศ บอกว่า
1.จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง 2.อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทแข็งเกินไปเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น ที่ค่าเงินลดลง 30% ยุโรป ลดลง 30% รัสเซีย ลดลง 50% สิงค์โปร์ และมาเลซีย ลดลง 10% 3.คนไทยเดินทางออกไปใช้จ่ายเงินนอกประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ 3 ปัจจัยนี้ ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจ และการค้าปลีกของประเทศไทยยังดีขึ้นไม่มาก ผมเห็นด้วยอย่างแรงครับ
ค่าเงินบาทที่แข็งนั้นมีผลกระทบกว้างขวาง นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่มาไทย เพราะเมื่อเทียบเป็นเงินของเขาแล้วราคาแพง แต่นักท่องเที่ยวไทยได้เฮ ออกไปเที่ยวญี่ปุ่น ยุโรป รัสเซียได้ เพราะคิดเป็นบาทแล้วถูก คนไทยวางแผนเที่ยวกันคึกคัก ซื้อสินค้าแบรนด์เนมกันหนัก ราคารถจากญี่ปุ่น และยุโรปน่าใช้ไปหมด คนไทยกำลังใช้จ่ายเกินตัวก็เพราะเงินบาทแข็งนี้แหละ แต่การใช้จ่ายเหล่านี้ไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศเลย”
ก่อนหน้านี้ หรือเมื่อเดือนมีนาคม หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายจาก 2.00% เหลือ 1.75% นายธีระชัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า กรรมการนโยบายการเงินตัดสินใจลดดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.25 แล้ว “ผมเห็นว่าตัดสินใจถูกแล้ว แต่ยังลงได้อีกในการประชุมครั้งต่อๆ ไป”
ส่วนเนื้อหาที่ นายธีระชัย อ้างถึงครั้งล่าสุด นายทศ ยังระบุด้วยว่า แม้เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นแต่ก็ยังดูน้อยไปในแง่ของภาพรวม นายทศ อยากให้รัฐบาลดูแลอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท เพราะแข็งผิดปกติ ขณะที่ประเทศอื่นๆ แข่งกันลด
“หากยังนิ่งเฉยเงินบาทแข็ง นักท่องเที่ยวลดลง ส่งออกลดลง และคนไทยเดินทางออกไปใช้จ่ายเงินนอกประเทศมากขึ้น จบเห่แน่” นายทศ กล่าว
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 15 เมษายน 2558
“ธีระชัย” หนุนความเห็นเอกชนกรณีนโยบายดอกเบี้ยยังสูง ค่าเงินบาทแข็งเกินไป ชี้เป็นปัจจัยฉุดทำให้เศรษฐกิจไทยไม่ฟื้น แถมคนไทยที่มีเงินแห่ไปชอปปิ้งเมืองนอก ซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจเข้าไปอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thirachai Phuvanatnaranubala ระบุว่า เห็นด้วยต่อภาคเอกชนโดยเฉพาะผู้บริหารกลุ่มเซ็นทรัลที่ออกมาระบุว่า เมื่อเทียบกับหลายๆ ประเทศในขณะนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.คงดอกเบี้ยไว้ในระดับที่สูงเกินไป ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่า ขณะที่หลายประเทศผ่อนคลายดอกเบี้ยเพื่อให้ค่าเงินอ่อนลง
นายธีระชัย โพสต์ว่า “ผมเขียนหลายครั้งแล้วว่า กนง.คงดอกเบี้ยไว้สูงเกินไป ขณะที่หลายประเทศผ่อนคลายดอกเบี้ยเพื่อให้เงินของเขาอ่อนลงทำให้เงินบาทแข็งมากเมื่อเทียบกับยูโรและเงินเยน ข่าวไทยรัฐวันนี้ คุณทศ จิราธิวัฒน์ ผู้บริหารของกลุ่มเซ็นทรัล ก็ออกมาชี้ปัญหานี้ด้วย คุณทศ เขาเรียนจบเศรษฐศาสตร์จากลอนดอน สกูล ออฟ อีโคโนมิค มหาวิทยาลัยชั้นนำของอังกฤษ (ที่เดียวกับผม) ความเห็นของคุณทศ จึงเป็นแง่มุมของนักธุรกิจที่เข้าใจด้านวิชาการด้วย จึงต้องให้น้ำหนัก คุณทศ บอกว่า
1.จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง 2.อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทแข็งเกินไปเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น ที่ค่าเงินลดลง 30% ยุโรป ลดลง 30% รัสเซีย ลดลง 50% สิงค์โปร์ และมาเลซีย ลดลง 10% 3.คนไทยเดินทางออกไปใช้จ่ายเงินนอกประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ 3 ปัจจัยนี้ ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจ และการค้าปลีกของประเทศไทยยังดีขึ้นไม่มาก ผมเห็นด้วยอย่างแรงครับ
ค่าเงินบาทที่แข็งนั้นมีผลกระทบกว้างขวาง นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่มาไทย เพราะเมื่อเทียบเป็นเงินของเขาแล้วราคาแพง แต่นักท่องเที่ยวไทยได้เฮ ออกไปเที่ยวญี่ปุ่น ยุโรป รัสเซียได้ เพราะคิดเป็นบาทแล้วถูก คนไทยวางแผนเที่ยวกันคึกคัก ซื้อสินค้าแบรนด์เนมกันหนัก ราคารถจากญี่ปุ่น และยุโรปน่าใช้ไปหมด คนไทยกำลังใช้จ่ายเกินตัวก็เพราะเงินบาทแข็งนี้แหละ แต่การใช้จ่ายเหล่านี้ไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศเลย”
ก่อนหน้านี้ หรือเมื่อเดือนมีนาคม หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายจาก 2.00% เหลือ 1.75% นายธีระชัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า กรรมการนโยบายการเงินตัดสินใจลดดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.25 แล้ว “ผมเห็นว่าตัดสินใจถูกแล้ว แต่ยังลงได้อีกในการประชุมครั้งต่อๆ ไป”
ส่วนเนื้อหาที่ นายธีระชัย อ้างถึงครั้งล่าสุด นายทศ ยังระบุด้วยว่า แม้เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นแต่ก็ยังดูน้อยไปในแง่ของภาพรวม นายทศ อยากให้รัฐบาลดูแลอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท เพราะแข็งผิดปกติ ขณะที่ประเทศอื่นๆ แข่งกันลด
“หากยังนิ่งเฉยเงินบาทแข็ง นักท่องเที่ยวลดลง ส่งออกลดลง และคนไทยเดินทางออกไปใช้จ่ายเงินนอกประเทศมากขึ้น จบเห่แน่” นายทศ กล่าว
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 15 เมษายน 2558