สอท.จี้ลดค่าเอฟที15สต.
Posted: 20 Apr 2015, 15:36
สอท.จี้ลดค่าเอฟที15สต.
เอกชน จี้เรกูเลเตอร์ลดค่าเอฟทีขั้นต่ำ 15 สต.ต่อหน่วย หวังกระตุ้นกำลังซื้อประชาชน ลดต้นทุนเอกชน หลังราคาก๊าซธรรมชาติต้นทุนหลักผลิตไฟฟ้าลดต่อเนื่อง
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ภาคเอกชนต้องการให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) หรือเรกูเลเตอร์ พิจารณาปรับลดค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) งวดใหม่เดือนพ.ค.-ส.ค. ที่จะพิจารณาปลายเดือนนี้อย่างต่ำ 15 สตางค์ต่อหน่วย เนื่องจากแนวโน้มราคาน้ำมันลดลงต่อเนื่อง ส่งผลให้ก๊าซธรรมชาติ เป็นต้นทุนหลักในการผลิตไฟฟ้าปรับลดลงแล้วเช่นกัน หากค่าเอฟทีปรับลดลงขั้นต่ำ 15 สต.ต่อหน่วย จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจแน่นอน เพราะจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อของภาคประชาชน และลดต้นทุนการผลิตของภาคเอกชน
"ค่าเอฟทีงวดที่ผ่านมา ม.ค. - เม.ย. ปรับลดค่าเอฟทีแค่ 10 สตางค์ต่อหน่วยถือว่า น้อยเกินไป เมื่อเทียบกับราคาน้ำมันที่ปรับลดลงต่อเนื่อง งวดนี้จึงอยากเห็นค่าเอฟทีขั้นต่ำต้องลดลง 15 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อเศราฐกิจอย่างมาก ส่วนนหึ่งก็เป็นผลทางด้านจิตวิทยากับประชาชน เห็นรายจ่ายครัวเรือนลดลง ก็ช่วยเพิ่มกำลังซื้อประชาชนได้อีกที และยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถภาคเอกชน เพราะช่วยลดต้นทุนค่าไฟ ซึ่งถือเป็นต้นทุนหลักในการผลิตสินค้า"
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 19 เมษายน 2558
เอกชน จี้เรกูเลเตอร์ลดค่าเอฟทีขั้นต่ำ 15 สต.ต่อหน่วย หวังกระตุ้นกำลังซื้อประชาชน ลดต้นทุนเอกชน หลังราคาก๊าซธรรมชาติต้นทุนหลักผลิตไฟฟ้าลดต่อเนื่อง
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ภาคเอกชนต้องการให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) หรือเรกูเลเตอร์ พิจารณาปรับลดค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) งวดใหม่เดือนพ.ค.-ส.ค. ที่จะพิจารณาปลายเดือนนี้อย่างต่ำ 15 สตางค์ต่อหน่วย เนื่องจากแนวโน้มราคาน้ำมันลดลงต่อเนื่อง ส่งผลให้ก๊าซธรรมชาติ เป็นต้นทุนหลักในการผลิตไฟฟ้าปรับลดลงแล้วเช่นกัน หากค่าเอฟทีปรับลดลงขั้นต่ำ 15 สต.ต่อหน่วย จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจแน่นอน เพราะจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อของภาคประชาชน และลดต้นทุนการผลิตของภาคเอกชน
"ค่าเอฟทีงวดที่ผ่านมา ม.ค. - เม.ย. ปรับลดค่าเอฟทีแค่ 10 สตางค์ต่อหน่วยถือว่า น้อยเกินไป เมื่อเทียบกับราคาน้ำมันที่ปรับลดลงต่อเนื่อง งวดนี้จึงอยากเห็นค่าเอฟทีขั้นต่ำต้องลดลง 15 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อเศราฐกิจอย่างมาก ส่วนนหึ่งก็เป็นผลทางด้านจิตวิทยากับประชาชน เห็นรายจ่ายครัวเรือนลดลง ก็ช่วยเพิ่มกำลังซื้อประชาชนได้อีกที และยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถภาคเอกชน เพราะช่วยลดต้นทุนค่าไฟ ซึ่งถือเป็นต้นทุนหลักในการผลิตสินค้า"
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 19 เมษายน 2558