“เทสโก้ โลตัส” อัดงบลงทุนสูงสุดในไทย สยบข่าวลือขายกิจการ
Posted: 24 Apr 2015, 10:00
“เทสโก้ โลตัส” อัดงบลงทุนสูงสุดในไทย สยบข่าวลือขายกิจการ
“เทสโก้ โลตัส” อัดงบลงทุนสูงสุดในไทย สยบข่าวลือขายกิจการ
“จอห์น คริสตี้” ประธานกรรมการบริหาร “เทสโก้ โลตัส”
“เทสโก้ โลตัส” ย้ำไทยยังเป็นฐานยุทธศาสตร์โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
23 เมษายน 2558 03:35 น. (แก้ไขล่าสุด 23 เมษายน 2558 09:34 น.)สำคัญในการดำเนินธุรกิจ เดินหน้าขยาย 50 สาขา “เอ็กซ์เพรส” พร้อม 5 สาขาขนาดใหญ่ทั่วประเทศและขยายธุรกิจออนไลน์ร่วมกับ “ลาซาด้า” รับเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ เผยปี 58 ใช้งบลงทุนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ร่วม 600 ล้านบาท เดินหน้าแคมเปญ “โรลแบ็ค” ลดราคาสินค้าช่วยเหลือคนไทยในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
นายจอห์น คริสตี้ ประธานกรรมการบริหาร “เทสโก้ โลตัส” เปิดเผยว่า ประเทศไทยยังคงเป็นตลาดยุทธศาสตร์สำคัญของกลุ่มเทสโก้ที่มีโอกาสในการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาการดำเนินงานกว่า 20 ปีที่ผ่านมา จนปัจจุบัน “เทสโก้ โลตัส” มีร้านค้าประมาณ 1.8 พันสาขาทั่วประเทศใน 5 รูปแบบ คือ ดีพาร์ตเมนต์สโตร์, ไฮเปอร์มาร์เกต, เอ็กซ์ตรา, ตลาด และเอ็กซ์เพรส ซึ่งมีจำนวนมากที่สุดประมาณ 1.4 พันสาขา
ในปี 2558-2559 “กลุ่มเทสโก้” จะยังคงลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการเติบโตของธุรกิจด้วยการขยายสาขาขนาดใหญ่ 5 แห่งกระจายทั่วทุกภาคของประเทศไทยเพื่อให้บริการลูกค้าที่อยู่ในหัวเมืองต่างจังหวัดที่กำลังเติบโต เช่น สุรินทร์, นครศรีธรรมราช เป็นต้น พร้อมกันนั้นยังจะเปิดร้าน “เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส” อีกประมาณ 50 สาขา เพื่อรองรับพฤติกรรมของลูกค้าที่เริ่มนิยมจับจ่ายซื้อสินค้าใกล้บ้านมากขึ้น โดยส่วนใหญ่ 80% จะเป็นการเปิดในต่างจังหวัดทั่วทุกภาค ส่วนอีก 20% จะเปิดในกรุงเทพฯ
นอกจากนี้ ยังจะมีการปรับพื้นที่ในสาขาเดิมให้ตอบรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เปลี่ยนไป รวมทั้งจะยกระดับพื้นที่ร้านค้าเช่าของให้เป็นแหล่งชอปปิ้งมอลล์สำหรับครอบครัวเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างครอบคลุมทั้งร้านอาหาร แฟชั่น บันเทิง และอื่นๆ
นายจอห์น คริสตี้ กล่าวด้วยว่า “เทสโก้ โลตัส” ถือเป็นธุรกิจค้าปลีกรายแรกที่จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคและอาหารสดผ่านทางออนไลน์กว่า 2 หมื่นรายการ จึงยังคงมีการขยายธุรกิจชอปปิ้งออนไลน์ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้ลงทุนและมีสินค้าของ “เทสโก้ โลตัส” กว่า 5 พันรายการจำหน่ายบนเว็บไซต์ของลาซาด้าซึ่งถือเป็นอีคอมเมิร์ซชั้นนำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ล่าสุดยังได้ลงทุนถึง 2.5 พันล้านบาทในการพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าชั้นแนวหน้าที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขนาด 5.2 หมื่นตารางเมตร เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจและให้บริการลูกค้าในภาคใต้ให้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับทำให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่อีกเกือบ 700 อัตรา
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา “เทสโก้ โลตัส” ได้ลงทุนมหาศาลเพื่อช่วยให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ประหยัดค่าครองชีพ โดยเฉพาะการลงทุนในแคมเปญตัดราคา “โรลแบ็ค” เป็นมูลค่ารวมกว่า 4 พันล้านบาทซึ่งยังคงดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2558 ได้ตั้งงบลงทุนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 600 ล้านบาทเพื่อตัดราคาสินค้า ทั้งอาหารสด สินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าจำเป็นสำหรับครัวเรือนให้มีราคาต่ำสุดเท่าที่เคยขายมา เพื่อแบ่งเบาภาระของผู้บริโภคที่ต้องเผชิญกับความท้าทายของภาวะเศรษฐกิจ
“เรามั่นใจว่าแผนการลงทุนนี้จะสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจของเทสโก้ โลตัส ในฐานะผู้นำตลาดค้าปลีกสมัยใหม่ ขณะเดียวกันเราจะยังคงเดินหน้าพัฒนาธุรกิจของคู่ค้าผู้ประกอบการชาวไทยให้เติบโตไปด้วยกัน เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้ผู้บริโภคชาวไทยอย่างทั่วถึง” นายจอห์น คริสตี้ กล่าวในตอนท้าย
อนึ่ง ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา เอเอฟพี/รอยเตอร์ รายงานว่า “กลุ่มเทสโก้” ห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่สัญชาติสหราชอาณาจักรที่ครองตลาดมายาวนานหลายทศวรรษ เปิดเผยถึงผลประกอบการประจำปีว่า ขาดทุนถึง 6.4 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในตัวเลขขาดทุนสูงสุดในประวัติศาสตร์ 96 ปีของบริษัทฯ ที่ต้องเผชิญกับมลทินจากกรณีอื้อฉาวตกแต่งบัญชี
รายงานข่าวแจ้งว่า การขาดทุนดังกล่าวเป็นผลมาจากการดำเนินงานในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นยอดขายที่ตกต่ำ, การขาดทุนของกองทุนบำเหน็จบำนาญที่พอกพูนขึ้นเรื่อยๆ, สินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ลดลง, ค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างที่แทรกเข้ามา และจำนวนเงินที่ต้องจ่ายเพื่อโปะผลกำไรเกินจริง โดยก่อนหน้านี้ต้องปรับลดมูลค่าธุรกิจลง 7 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 3.4 แสนล้านบาท) หลังจากได้รับผลกระทบจากสงครามราคาในอุตสาหกรรมค้าปลีกอันเป็นผลมาจากการดำเนินงานของเครือข่ายค้าปลีก “อัลดี” และ “ลิดล์” จากประเทศเยอรมนี
ทั้งนี้ เมื่อหนึ่งปีก่อนหน้านี้ “กลุ่มเทสโก้” มีผลกำไรก่อนหักภาษี 2.26 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 1.1 แสนล้านบาท)
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 23 เมษายน 2558
“เทสโก้ โลตัส” อัดงบลงทุนสูงสุดในไทย สยบข่าวลือขายกิจการ
“จอห์น คริสตี้” ประธานกรรมการบริหาร “เทสโก้ โลตัส”
“เทสโก้ โลตัส” ย้ำไทยยังเป็นฐานยุทธศาสตร์โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
23 เมษายน 2558 03:35 น. (แก้ไขล่าสุด 23 เมษายน 2558 09:34 น.)สำคัญในการดำเนินธุรกิจ เดินหน้าขยาย 50 สาขา “เอ็กซ์เพรส” พร้อม 5 สาขาขนาดใหญ่ทั่วประเทศและขยายธุรกิจออนไลน์ร่วมกับ “ลาซาด้า” รับเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ เผยปี 58 ใช้งบลงทุนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ร่วม 600 ล้านบาท เดินหน้าแคมเปญ “โรลแบ็ค” ลดราคาสินค้าช่วยเหลือคนไทยในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
นายจอห์น คริสตี้ ประธานกรรมการบริหาร “เทสโก้ โลตัส” เปิดเผยว่า ประเทศไทยยังคงเป็นตลาดยุทธศาสตร์สำคัญของกลุ่มเทสโก้ที่มีโอกาสในการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาการดำเนินงานกว่า 20 ปีที่ผ่านมา จนปัจจุบัน “เทสโก้ โลตัส” มีร้านค้าประมาณ 1.8 พันสาขาทั่วประเทศใน 5 รูปแบบ คือ ดีพาร์ตเมนต์สโตร์, ไฮเปอร์มาร์เกต, เอ็กซ์ตรา, ตลาด และเอ็กซ์เพรส ซึ่งมีจำนวนมากที่สุดประมาณ 1.4 พันสาขา
ในปี 2558-2559 “กลุ่มเทสโก้” จะยังคงลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการเติบโตของธุรกิจด้วยการขยายสาขาขนาดใหญ่ 5 แห่งกระจายทั่วทุกภาคของประเทศไทยเพื่อให้บริการลูกค้าที่อยู่ในหัวเมืองต่างจังหวัดที่กำลังเติบโต เช่น สุรินทร์, นครศรีธรรมราช เป็นต้น พร้อมกันนั้นยังจะเปิดร้าน “เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส” อีกประมาณ 50 สาขา เพื่อรองรับพฤติกรรมของลูกค้าที่เริ่มนิยมจับจ่ายซื้อสินค้าใกล้บ้านมากขึ้น โดยส่วนใหญ่ 80% จะเป็นการเปิดในต่างจังหวัดทั่วทุกภาค ส่วนอีก 20% จะเปิดในกรุงเทพฯ
นอกจากนี้ ยังจะมีการปรับพื้นที่ในสาขาเดิมให้ตอบรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เปลี่ยนไป รวมทั้งจะยกระดับพื้นที่ร้านค้าเช่าของให้เป็นแหล่งชอปปิ้งมอลล์สำหรับครอบครัวเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างครอบคลุมทั้งร้านอาหาร แฟชั่น บันเทิง และอื่นๆ
นายจอห์น คริสตี้ กล่าวด้วยว่า “เทสโก้ โลตัส” ถือเป็นธุรกิจค้าปลีกรายแรกที่จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคและอาหารสดผ่านทางออนไลน์กว่า 2 หมื่นรายการ จึงยังคงมีการขยายธุรกิจชอปปิ้งออนไลน์ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้ลงทุนและมีสินค้าของ “เทสโก้ โลตัส” กว่า 5 พันรายการจำหน่ายบนเว็บไซต์ของลาซาด้าซึ่งถือเป็นอีคอมเมิร์ซชั้นนำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ล่าสุดยังได้ลงทุนถึง 2.5 พันล้านบาทในการพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าชั้นแนวหน้าที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขนาด 5.2 หมื่นตารางเมตร เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจและให้บริการลูกค้าในภาคใต้ให้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับทำให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่อีกเกือบ 700 อัตรา
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา “เทสโก้ โลตัส” ได้ลงทุนมหาศาลเพื่อช่วยให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ประหยัดค่าครองชีพ โดยเฉพาะการลงทุนในแคมเปญตัดราคา “โรลแบ็ค” เป็นมูลค่ารวมกว่า 4 พันล้านบาทซึ่งยังคงดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2558 ได้ตั้งงบลงทุนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 600 ล้านบาทเพื่อตัดราคาสินค้า ทั้งอาหารสด สินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าจำเป็นสำหรับครัวเรือนให้มีราคาต่ำสุดเท่าที่เคยขายมา เพื่อแบ่งเบาภาระของผู้บริโภคที่ต้องเผชิญกับความท้าทายของภาวะเศรษฐกิจ
“เรามั่นใจว่าแผนการลงทุนนี้จะสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจของเทสโก้ โลตัส ในฐานะผู้นำตลาดค้าปลีกสมัยใหม่ ขณะเดียวกันเราจะยังคงเดินหน้าพัฒนาธุรกิจของคู่ค้าผู้ประกอบการชาวไทยให้เติบโตไปด้วยกัน เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้ผู้บริโภคชาวไทยอย่างทั่วถึง” นายจอห์น คริสตี้ กล่าวในตอนท้าย
อนึ่ง ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา เอเอฟพี/รอยเตอร์ รายงานว่า “กลุ่มเทสโก้” ห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่สัญชาติสหราชอาณาจักรที่ครองตลาดมายาวนานหลายทศวรรษ เปิดเผยถึงผลประกอบการประจำปีว่า ขาดทุนถึง 6.4 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในตัวเลขขาดทุนสูงสุดในประวัติศาสตร์ 96 ปีของบริษัทฯ ที่ต้องเผชิญกับมลทินจากกรณีอื้อฉาวตกแต่งบัญชี
รายงานข่าวแจ้งว่า การขาดทุนดังกล่าวเป็นผลมาจากการดำเนินงานในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นยอดขายที่ตกต่ำ, การขาดทุนของกองทุนบำเหน็จบำนาญที่พอกพูนขึ้นเรื่อยๆ, สินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ลดลง, ค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างที่แทรกเข้ามา และจำนวนเงินที่ต้องจ่ายเพื่อโปะผลกำไรเกินจริง โดยก่อนหน้านี้ต้องปรับลดมูลค่าธุรกิจลง 7 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 3.4 แสนล้านบาท) หลังจากได้รับผลกระทบจากสงครามราคาในอุตสาหกรรมค้าปลีกอันเป็นผลมาจากการดำเนินงานของเครือข่ายค้าปลีก “อัลดี” และ “ลิดล์” จากประเทศเยอรมนี
ทั้งนี้ เมื่อหนึ่งปีก่อนหน้านี้ “กลุ่มเทสโก้” มีผลกำไรก่อนหักภาษี 2.26 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 1.1 แสนล้านบาท)
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 23 เมษายน 2558