ญี่ปุ่นยืดอายุนักบินเป็น 67 ปีแก้ขาดแคลน
Posted: 24 Apr 2015, 13:58
ญี่ปุ่นยืดอายุนักบินเป็น 67 ปีแก้ขาดแคลน
เมื่อ 23 เม.ย.กระทรวงคมนาคมแห่งญี่ปุ่นประกาศขยายอายุเกษียณของกัปตันและนักบินผู้ช่วยของสายการบินพาณิชย์ในประเทศ จากเดิมที่ 65 ปี เพิ่มเป็น 67 ปี โดยให้ขึ้นบินได้จนถึงวันเกิดครบรอบ 68 ปี ทั้งนี้ เพื่อลดการขาดแคลนนักบิน และให้มีผลบังคับใช้ทันที ทำให้นักบินในญี่ปุ่นมีวัยเกษียณสูงที่สุดชาติหนึ่งในโลก ขณะที่นักบินของญี่ปุ่นปัจจุบันมีราว 5,900 ราย อายุเฉลี่ย 40 ปี และอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป มีราว 500 ราย แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสายการบินเตือนว่าญี่ปุ่นจะประสบปัญหาขาดแคลนนักบินอีกครั้งใน พ.ศ.2573โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 24 เม.ย. 2558 06:00
ช่วงที่นักบินส่วนใหญ่ถึงวัยเกษียณ
นอกจากนี้ นายดัก พาร์คเกอร์ ประธานบริหารบริษัทอเมริกันแอร์ไลน์ สายการบินหลักของสหรัฐฯ ประกาศงดรับเงินเดือน โบนัส และค่าตอบแทนเป็น เงินสด มูลค่ารวมประมาณ 12.3 ล้านดอลลาร์ ตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย.เป็นต้นไป และขอเปลี่ยนผลตอบแทนทั้งหมดเป็นเงินปันผลจากหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้นักวิจัยด้านธรรมาภิบาลของสหรัฐฯ ชมเชยการตัดสินใจของนายพาร์คเกอร์ว่าเป็นการแสดงความจริงใจต่อผู้ถือหุ้นของบริษัท เนื่องจากผู้บริหารขอรับผลตอบแทนโดยอ้างอิงผลประกอบการของบริษัทเช่นเดียวกับผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ ขณะที่ผู้บริหารบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ จำนวนมากรับผลตอบแทนเป็นเงินสดก้อนโต สวนทางกับผลประกอบการในแต่ละปี.
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 24 เม.ย. 2558
เมื่อ 23 เม.ย.กระทรวงคมนาคมแห่งญี่ปุ่นประกาศขยายอายุเกษียณของกัปตันและนักบินผู้ช่วยของสายการบินพาณิชย์ในประเทศ จากเดิมที่ 65 ปี เพิ่มเป็น 67 ปี โดยให้ขึ้นบินได้จนถึงวันเกิดครบรอบ 68 ปี ทั้งนี้ เพื่อลดการขาดแคลนนักบิน และให้มีผลบังคับใช้ทันที ทำให้นักบินในญี่ปุ่นมีวัยเกษียณสูงที่สุดชาติหนึ่งในโลก ขณะที่นักบินของญี่ปุ่นปัจจุบันมีราว 5,900 ราย อายุเฉลี่ย 40 ปี และอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป มีราว 500 ราย แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสายการบินเตือนว่าญี่ปุ่นจะประสบปัญหาขาดแคลนนักบินอีกครั้งใน พ.ศ.2573โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 24 เม.ย. 2558 06:00
ช่วงที่นักบินส่วนใหญ่ถึงวัยเกษียณ
นอกจากนี้ นายดัก พาร์คเกอร์ ประธานบริหารบริษัทอเมริกันแอร์ไลน์ สายการบินหลักของสหรัฐฯ ประกาศงดรับเงินเดือน โบนัส และค่าตอบแทนเป็น เงินสด มูลค่ารวมประมาณ 12.3 ล้านดอลลาร์ ตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย.เป็นต้นไป และขอเปลี่ยนผลตอบแทนทั้งหมดเป็นเงินปันผลจากหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้นักวิจัยด้านธรรมาภิบาลของสหรัฐฯ ชมเชยการตัดสินใจของนายพาร์คเกอร์ว่าเป็นการแสดงความจริงใจต่อผู้ถือหุ้นของบริษัท เนื่องจากผู้บริหารขอรับผลตอบแทนโดยอ้างอิงผลประกอบการของบริษัทเช่นเดียวกับผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ ขณะที่ผู้บริหารบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ จำนวนมากรับผลตอบแทนเป็นเงินสดก้อนโต สวนทางกับผลประกอบการในแต่ละปี.
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 24 เม.ย. 2558