รู้ทันมะเร็ง : ฝังแร่รักษามะเร็ง
Posted: 25 Apr 2015, 15:23
รู้ทันมะเร็ง : ฝังแร่รักษามะเร็ง
รู้ทันมะเร็ง : ฝังแร่รักษามะเร็ง : นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ
เรื่องร้อนๆ ในวงการมะเร็งบ้านเราเวลานี้ หนีไม่พ้นเรื่องผู้ป่วยมะเร็งคนไทยถูกหลอกไปรักษามะเร็งที่เมืองจีน จริงๆ แล้วไม่ใช่ประเทศเราประเทศเดียวที่ตกเป็นเหยื่อ ยังมีผู้ป่วยที่มีอันจะกินอีกหลายประเทศที่ออกมาแฉความจริงในโลกออนไลน์ ส่วนใหญ่ตกอยู่ในสภาพเดียวกันคือได้รับการรักษาเฉพาะที่เฉพาะบางจุด ทั้งๆ ที่ตัวโรคได้ลุกลามไปมากมายหลายอวัยวะ เสียค่าใช้จ่ายหลายแสนหลายล้านบาทต่อราย แต่ในที่สุดอยู่ได้ไม่นานขึ้นกว่ากลุ่มที่รักษาด้วยวิธีการอื่น และหนึ่งในการรักษาที่โหมโฆษณาอย่างหนักและมีคนป่วยหลงเชื่อจำนวนมากนั่นก็คือการฝังแร่รักษามะเร็ง
ลำพังหากการรักษามะเร็งไม่ว่าวิธีใดก็ตาม ถ้าไม่ส่งผลกระทบด้านสุขภาพกับคนรอบข้างก็คงไม่เป็นปัญหาอะไรมาก แต่การฝังแร่แล้วปล่อยให้ผู้ป่วยที่ยังมีปริมาณการแผ่รังสีสูงอยู่ ออกมาเดินทางขึ้นเครื่องบินกลับประเทศไทยโดยไม่ให้คำแนะนำอะไร นับเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ในทางการแพทย์และไม่มีโรงพยาบาลไหนในโลกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานแล้วเค้าทำกัน เพราะรังสีในปริมาณที่สูงนั้นมีอันตรายต่อคนรอบข้างที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ โดยเฉพาะเด็กและสตรีมีครรภ์ ขณะนี้หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งดำเนินการเรื่องนี้อย่างแข็งขัน
วกกลับมาเรื่อง การฝังแร่รักษามะเร็ง โดยทั่วไปแบ่งเป็น 2 รูปแบบหลักคือ ฝังแร่แบบชั่วคราวและแบบฝังถาวร การฝังแร่แบบชั่วคราวก็ใส่แร่ไปในอวัยวะที่เป็นมะเร็งโดยตรงหรือใกล้เคียงกับอวัยวะนั้น เพื่อให้ตัวแร่ปล่อยรังสีออกมาตามระยะเวลาที่กำหนดแล้วดึงแร่ออก ตัวแร่ที่ใช้ฝังกันในการรักษามะเร็งอวัยวะต่างๆ ที่ใช้กันบ่อยก็เช่น อิริเดียม 192 โคบอลท์ 60 ซีเซียม 137 พาเลเดียม 103 มีทั้งการฝังไปที่ตัวก้อนโดยตรง ฝังผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ช่องคลอด ช่องปากและทางเดินอาหาร ส่วนใหญ่ของการฝังแร่รักษามะเร็งจะอยู่ในกลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม มะเร็งผิวหนัง มะเร็งสมอง มะเร็งลูกนัยน์ตา มะเร็งบริเวณศีรษะและลำคอ มะเร็งของระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินอาหาร มะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน
ตรงข้ามกับ การฝังแร่แบบถาวรที่ตัวแร่ยังค้างอยู่ในอวัยวะและปล่อยรังสีช้าๆ อย่างต่อเนื่อง และแร่จะเสื่อมสลายตัวลงตามเวลาครึ่งชีวิตของแร่ประเภทนั้น ที่ได้รับการยอมรับก็คือ การฝังแร่ไอโอดีน 125 แบบถาวรในการรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก ส่วนกรณีที่จะนำแร่ไปฝังในมะเร็งอวัยวะอื่นแบบถาวรนั้น จำเป็นต้องให้คำอธิบายแก่ผู้ป่วยและญาติอย่างชัดเจน เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์เชิงประจักษ์ว่าใช้ได้ผลจริง นอกจากนั้นยังมีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของทั้งตัวผู้ป่วยเองและผู้คนรอบข้าง และที่สำคัญคือการให้ข้อมูลเรื่องผลการรักษา ว่าจะช่วยเพิ่มการรอดชีวิตได้จริงหรือไม่ ถ้ายังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนต้องให้ผู้ป่วยยินยอมเพื่อเข้ารับการรักษาในรูปแบบงานวิจัย
เทคโนโลยีการฝังแร่ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น โรงพยาบาลของไทยเราทั่วประเทศทั้งของรัฐบาลและเอกชนไม่ต่ำกว่า 20 แห่งมีมานานหลายปีแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปรักษาถึงต่างประเทศแต่อย่างใด ก็ต้องขอเตือนว่า ก่อนตัดสินใจเดินทางไปรักษาในต่างประเทศ ศึกษาหาข้อมูลให้รอบด้านเสียก่อน อย่างโรงพยาบาลเมืองจีนที่ตกเป็นข่าว คนไข้ที่มาใช้บริการส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ แต่คนป่วยของประเทศเขาเองส่วนใหญ่กลับไม่ใช้บริการของโรงพยาบาลนี้นะครับ...ขอบอก
ที่มา คมชัดลึกออนไลน์
วันที่ 24 เมษายน 2558
รู้ทันมะเร็ง : ฝังแร่รักษามะเร็ง : นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ
เรื่องร้อนๆ ในวงการมะเร็งบ้านเราเวลานี้ หนีไม่พ้นเรื่องผู้ป่วยมะเร็งคนไทยถูกหลอกไปรักษามะเร็งที่เมืองจีน จริงๆ แล้วไม่ใช่ประเทศเราประเทศเดียวที่ตกเป็นเหยื่อ ยังมีผู้ป่วยที่มีอันจะกินอีกหลายประเทศที่ออกมาแฉความจริงในโลกออนไลน์ ส่วนใหญ่ตกอยู่ในสภาพเดียวกันคือได้รับการรักษาเฉพาะที่เฉพาะบางจุด ทั้งๆ ที่ตัวโรคได้ลุกลามไปมากมายหลายอวัยวะ เสียค่าใช้จ่ายหลายแสนหลายล้านบาทต่อราย แต่ในที่สุดอยู่ได้ไม่นานขึ้นกว่ากลุ่มที่รักษาด้วยวิธีการอื่น และหนึ่งในการรักษาที่โหมโฆษณาอย่างหนักและมีคนป่วยหลงเชื่อจำนวนมากนั่นก็คือการฝังแร่รักษามะเร็ง
ลำพังหากการรักษามะเร็งไม่ว่าวิธีใดก็ตาม ถ้าไม่ส่งผลกระทบด้านสุขภาพกับคนรอบข้างก็คงไม่เป็นปัญหาอะไรมาก แต่การฝังแร่แล้วปล่อยให้ผู้ป่วยที่ยังมีปริมาณการแผ่รังสีสูงอยู่ ออกมาเดินทางขึ้นเครื่องบินกลับประเทศไทยโดยไม่ให้คำแนะนำอะไร นับเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ในทางการแพทย์และไม่มีโรงพยาบาลไหนในโลกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานแล้วเค้าทำกัน เพราะรังสีในปริมาณที่สูงนั้นมีอันตรายต่อคนรอบข้างที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ โดยเฉพาะเด็กและสตรีมีครรภ์ ขณะนี้หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งดำเนินการเรื่องนี้อย่างแข็งขัน
วกกลับมาเรื่อง การฝังแร่รักษามะเร็ง โดยทั่วไปแบ่งเป็น 2 รูปแบบหลักคือ ฝังแร่แบบชั่วคราวและแบบฝังถาวร การฝังแร่แบบชั่วคราวก็ใส่แร่ไปในอวัยวะที่เป็นมะเร็งโดยตรงหรือใกล้เคียงกับอวัยวะนั้น เพื่อให้ตัวแร่ปล่อยรังสีออกมาตามระยะเวลาที่กำหนดแล้วดึงแร่ออก ตัวแร่ที่ใช้ฝังกันในการรักษามะเร็งอวัยวะต่างๆ ที่ใช้กันบ่อยก็เช่น อิริเดียม 192 โคบอลท์ 60 ซีเซียม 137 พาเลเดียม 103 มีทั้งการฝังไปที่ตัวก้อนโดยตรง ฝังผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ช่องคลอด ช่องปากและทางเดินอาหาร ส่วนใหญ่ของการฝังแร่รักษามะเร็งจะอยู่ในกลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม มะเร็งผิวหนัง มะเร็งสมอง มะเร็งลูกนัยน์ตา มะเร็งบริเวณศีรษะและลำคอ มะเร็งของระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินอาหาร มะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน
ตรงข้ามกับ การฝังแร่แบบถาวรที่ตัวแร่ยังค้างอยู่ในอวัยวะและปล่อยรังสีช้าๆ อย่างต่อเนื่อง และแร่จะเสื่อมสลายตัวลงตามเวลาครึ่งชีวิตของแร่ประเภทนั้น ที่ได้รับการยอมรับก็คือ การฝังแร่ไอโอดีน 125 แบบถาวรในการรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก ส่วนกรณีที่จะนำแร่ไปฝังในมะเร็งอวัยวะอื่นแบบถาวรนั้น จำเป็นต้องให้คำอธิบายแก่ผู้ป่วยและญาติอย่างชัดเจน เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์เชิงประจักษ์ว่าใช้ได้ผลจริง นอกจากนั้นยังมีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของทั้งตัวผู้ป่วยเองและผู้คนรอบข้าง และที่สำคัญคือการให้ข้อมูลเรื่องผลการรักษา ว่าจะช่วยเพิ่มการรอดชีวิตได้จริงหรือไม่ ถ้ายังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนต้องให้ผู้ป่วยยินยอมเพื่อเข้ารับการรักษาในรูปแบบงานวิจัย
เทคโนโลยีการฝังแร่ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น โรงพยาบาลของไทยเราทั่วประเทศทั้งของรัฐบาลและเอกชนไม่ต่ำกว่า 20 แห่งมีมานานหลายปีแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปรักษาถึงต่างประเทศแต่อย่างใด ก็ต้องขอเตือนว่า ก่อนตัดสินใจเดินทางไปรักษาในต่างประเทศ ศึกษาหาข้อมูลให้รอบด้านเสียก่อน อย่างโรงพยาบาลเมืองจีนที่ตกเป็นข่าว คนไข้ที่มาใช้บริการส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ แต่คนป่วยของประเทศเขาเองส่วนใหญ่กลับไม่ใช้บริการของโรงพยาบาลนี้นะครับ...ขอบอก
ที่มา คมชัดลึกออนไลน์
วันที่ 24 เมษายน 2558