เกษตรใช้งบ คชก.พยุงกุ้ง 1.6 พันล้าน
Posted: 30 Apr 2015, 16:31
เกษตรใช้งบ คชก.พยุงกุ้ง 1.6 พันล้าน
ย้ำจำเป็นหลังปริมาณเลี้ยงต่ำเกินจะทน
นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมรับเรื่องแก้ไขปัญหาราคากุ้งว่า ได้ประชุมร่วมกับผู้แทนกุ้งจาก 3 สมาคมที่เข้าร้องเรียนขอให้รัฐช่วยเหลือด้านราคา ประกอบด้วย สมาพันธ์เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งไทย สมาคมกุ้งไทยและสมาคมการค้าปัจจัยการผลิตสัตว์น้ำไทย โดยผู้ประกอบการขอให้รัฐพยุงราคากุ้งขนาด 100 ตัวต่อ 1 กิโลกรัม (กก.) ไว้ที่ 120 บาท จากปัจจุบัน กก.ละ 105 บาท แต่ขณะนี้ยังตกลงกันไม่ได้ เพราะต้นทุนกุ้งของกรมประมงกับของผู้ประกอบการยังไม่ตรงกัน แต่ภาครัฐจะให้ความช่วยเหลือเกษตรกร โดยจะเสนอขอรับงบประมาณสนับสนุนจากคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) จำนวน 1,200-1,600 ล้านบาท ช่วยรับซื้อกุ้งเดือนละประมาณ 20,000 ตัน เป็นเวลา 3-4 เดือน
“รายละเอียดหลักเกณฑ์โครงการให้กรมประมงกับผู้ประกอบการไปหารือกัน โดยเหตุผลที่ต้องช่วยเหลือผู้เลี้ยงกุ้งครั้งนี้ เนื่องจากปริมาณผลผลิตกุ้งลดลงอย่างมากจากโรคตายด่วน (อีเอ็มเอส) ระบาด และการลงเลี้ยงกุ้งของประเทศขณะนี้มีต่ำเป็นประวัติการณ์ โดยในไตรมาสแรกมีการลงเลี้ยงกุ้งทั้งระบบประมาณ 2,000 ล้านตัวเท่านั้น จากปกติ 3,000-4,000 ล้านตัว หากปล่อยให้ราคาตกต่ำโดยไม่ดูแล ผู้เลี้ยงก็จะยิ่งไม่มั่นใจลดการลงเลี้ยงลูกกุ้งอีก ผลผลิตจะต่ำมาก ผู้ส่งออกเสียความมั่นใจ จึงอาจหันไปนำเข้ากุ้งจากต่างประเทศแทนทำให้ไทยเสียความเป็นผู้นำ”.
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 30 เม.ย. 2558
ย้ำจำเป็นหลังปริมาณเลี้ยงต่ำเกินจะทน
นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมรับเรื่องแก้ไขปัญหาราคากุ้งว่า ได้ประชุมร่วมกับผู้แทนกุ้งจาก 3 สมาคมที่เข้าร้องเรียนขอให้รัฐช่วยเหลือด้านราคา ประกอบด้วย สมาพันธ์เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งไทย สมาคมกุ้งไทยและสมาคมการค้าปัจจัยการผลิตสัตว์น้ำไทย โดยผู้ประกอบการขอให้รัฐพยุงราคากุ้งขนาด 100 ตัวต่อ 1 กิโลกรัม (กก.) ไว้ที่ 120 บาท จากปัจจุบัน กก.ละ 105 บาท แต่ขณะนี้ยังตกลงกันไม่ได้ เพราะต้นทุนกุ้งของกรมประมงกับของผู้ประกอบการยังไม่ตรงกัน แต่ภาครัฐจะให้ความช่วยเหลือเกษตรกร โดยจะเสนอขอรับงบประมาณสนับสนุนจากคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) จำนวน 1,200-1,600 ล้านบาท ช่วยรับซื้อกุ้งเดือนละประมาณ 20,000 ตัน เป็นเวลา 3-4 เดือน
“รายละเอียดหลักเกณฑ์โครงการให้กรมประมงกับผู้ประกอบการไปหารือกัน โดยเหตุผลที่ต้องช่วยเหลือผู้เลี้ยงกุ้งครั้งนี้ เนื่องจากปริมาณผลผลิตกุ้งลดลงอย่างมากจากโรคตายด่วน (อีเอ็มเอส) ระบาด และการลงเลี้ยงกุ้งของประเทศขณะนี้มีต่ำเป็นประวัติการณ์ โดยในไตรมาสแรกมีการลงเลี้ยงกุ้งทั้งระบบประมาณ 2,000 ล้านตัวเท่านั้น จากปกติ 3,000-4,000 ล้านตัว หากปล่อยให้ราคาตกต่ำโดยไม่ดูแล ผู้เลี้ยงก็จะยิ่งไม่มั่นใจลดการลงเลี้ยงลูกกุ้งอีก ผลผลิตจะต่ำมาก ผู้ส่งออกเสียความมั่นใจ จึงอาจหันไปนำเข้ากุ้งจากต่างประเทศแทนทำให้ไทยเสียความเป็นผู้นำ”.
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 30 เม.ย. 2558