บล.ซีมิโก้ Q1 ฟื้นกำไรผลจาก บ.ย่อยหนุน

[brid.ladawan]

บล.ซีมิโก้ Q1 ฟื้นกำไรผลจาก บ.ย่อยหนุน

บล.ซีมิโก้ ไตรมาสแรกปีนี้ฟื้นกำไร ผลดีจาก “เคที ซีมิโก้” มีผลงานเยี่ยม และดอกเบี้ยเงินฝากสถาบันการเงิน เงินลงทุนตราสารหนี้ และเงินปันผล ขณะมีค่าใช้จ่ายรวมลดลง


นายชัยภัทร ศรีวิสารวาจา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ ZMICO แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปี 58 สิ้นสุด 31 มีนาคม 58 ว่า บริษัท และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 15.40 ล้านบาท ขณะที่งวดนี้ปีก่อนมีผลขาดทุนสุทธิ 1.47 ล้านบาท ส่วนงบเฉพาะกิจการมีกำไรสุทธิ 122.02 ล้านบาท เพิ่มจากงวดนี้ปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 54.05 ล้านบาทกำไรเพิ่มขึ้น 67.97 ล้านบาท คิดเป็น 126%

โดยตามงบการเงินเฉพาะก่อนสอบทานสำหรับไตรมาสนี้ บริษัทมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 48.98 ล้านบาท ผลจากการได้รับเงินปันผลจากบริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด (เคที ซีมิโก้) ในไตรมาสแรกปีนี้ 141.49 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนได้รับเงินปันผล 64.27 ล้านบาท เงินปันผลรับเพิ่มขึ้น 77.22 ล้านบาท

ขณะที่มีดอกเบี้ยรับเงินฝากสถาบันการเงิน เงินลงทุนในตราสารหนี้ และเงินปันผลจากการลงทุนในหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น และมีกำไรจากเงินลงทุนในหลักทรัพย์ลดลง ส่วนใหญ่เป็นขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการปรับมูลค่าตราสารทุน ทั้งนี้ ในไตรมาสนี้มีค่าใช้จ่ายรวมลดลง 73% เนื่องจากขาดทุนจากการด้อยค่าเงินลงทุนลดลง 15.21 ล้านบาท ทั้งการลดค่าเผื่อการด้อยค่าของเงินลงทุนในบริษัทหลักทรัพย์ Thanh Cong Securities J.S.C. (TCSC) (Thanh Cong) ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์ในประเทศเวียดนาม และการลดลงของค่าเผื่อการด้อยค่าในบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนโซ โดยค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ลดลง ขณะมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 98% เนื่องจากส่วนแบ่งกำไร/ขาดทุน จากบริษัทร่วมตามวิธีส่วนได้เสียเพิ่มขึ้น

สำหรับ เคที ซีมิโก้ มีผลกำไรสุทธิสำหรับไตรมาสแรก 72.96 ล้านบาท เทียบกับผลการดำเนินงานของงวดเดียวกันในปีก่อนที่มีผลกำไรสุทธิ 11.91 ล้านบาท กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 61.05 ล้านบาท หรือ 513% เนื่องจากรายได้เพิ่มขึ้น 56% จากรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่ม เพราะช่วงไตรมาสแรกปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้าทั่วไปเพิ่มสูงขึ้น

นอกจากนี้ ดอกเบี้ยรับจากเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ก็เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของธุรกรรมเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ อีกทั้งยังมีดอกเบี้ย และเงินปันผลเพิ่มขึ้น ขณะมีค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น 34% จากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ ส่งผลให้ค่าธรรมเนียม และบริการจ่ายเพิ่มขึ้น


ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 30 เมษายน 2558