สปช.ประเมินหมอกควันกระทบเศรษฐกิจ6พันล้าน
Posted: 05 May 2015, 13:59
สปช.ประเมินหมอกควันกระทบเศรษฐกิจ6พันล้าน
สปช. สรุปข้อมูลปัญหาหมอกควันในภาคเหนือ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ 6,000 ล้านบาท
คณะกรรมการปฎิรูปเศรษฐกิจการเงินและการคลัง สภาปฎิรูปแห่งชาติ จัดประชุมสรุปปัญหาเศรษฐกิจไทยและเกษรตรพันธสัญญา วิเคราะห์ปัญหาหมอกควันที่เรื้อรัง เพื่อเตรียมเข้าสู่กระบวนการปฎิรูปในข้อกฎหมาย ให้หน่วยงานร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
ในช่วงบ่าย วันนี้ (2 พ.ค.) ที่ห้องประชุมทองกวาว สำนักบริการวิชาการมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดประชุมเรื่องการปฎิรูปเศรษฐกิจไทยและระบบเกษตรพันธะสัญญาและปัญหาหมอกควันเพื่อเป็นแนวทางปฎิรูปจากการวิเคราะห์ถึงปัญหา โดยคณะกรรมการปฎิรูปเศรษฐกิจการเงินและการคลัง สภาปฎิรูปแห่งชาติ นำโดย นายสมชัย ฤชุพันธ์ ประธานกรรมาธิการปฎิรูปเศรษฐกิจการเงินและการคลัง นายชาลี ตั้งจีรวงษ์ สมช.เศรษฐกิจการเงินและการคลัง สภาปฎิรูปแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้
นายสมชัย กล่าวว่า ในด้านเกษตรพันธสัญญาถือเป็นรูปแบบการประกอบการทางการเกษตรรูปแบบใหม่ ที่มีประโยชน์ ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มมากขึ้น มีคุณภาพมากขึ้นหากมีการดำเนินที่ดีจะทำให้มีการกระจายรายได้เพิ่มมากขึ้น เกษตรพันธสัญญาไม่ควรที่จะยกเลิก แต่ควรจะมีการกำกับดูแลปรับแต่งให้เกิดความยุติธรรมและนำเกษตรพันธสัญญามาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาเศรษฐกิจ ทำให้ไทยมีบทบาททางการเกษตรในอนาคต ในด้านเกษตรพันธะสัญญานี้สามารถที่จะควบคุมกำหนดทิศทาง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่จะส่งผลกระบจต่อประเทศชาติได้
ทางด้านนาย ชาลี กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้เป็นการประชุมชุดใหญ่ของคณะสภาปฎิรูป โดยประการสำคัญในการแก้ไขปัญหาหมอกควันในพื้นที่9 จังหวัดภาคเหนือที่ยังเป็นปัญหาที่เรื้อรังมานานตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน เนื่องจากปัญหาหมอกควันส่งผลกระทบต่อทางด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญคือสุขภาพร่างกายของประชาชนเป็นอย่างมากโดยจากการวิเคราะห์ถึงปัญหาหมอกควันพบว่า สาเหตุหลักๆมาจากการเผา โดยเฉพาะการเผาในพื้นที่เกษตกรรม โดยมีการเผาในพื้นที่การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีพื้นที่กว่า 5 ล้านไร่ในพื้นที่ภาคเหนือ โดยแบ่งออกเป็นพื้นที่ป่าสงวน 3ล้านไร่ และพื้นที่นอกป่าสงวนอีก 2 ล้านไร่ โดยปัญหาหลักเกิดจากการเผาพื้นที่เกษตรกรรม เพื่อเตรียมการเพาะปลูกเนื่องจากจะเป็นการลดต้นทุนการทำลายตอซังข้าวโพด เพราะการเผาเป็นวิธีที่ประหยัดและสะดวกรวดเร็วมากที่สุด เป็นการลดต้นทุนการทำลายต่อซังข้าวโพด
โดยผลกระทบจากปํญหาหมอกควันนี้ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเป็นอย่างมากและสุขภาพ ซึ่งประเมินมูลค่าความเสียหายในช่าวงที่ประสบวิกฤตหมอกควันเสียหายประมาณ6,000 ล้านบาท ยังไม่รวมถึงผลกระทบทางด้านอื่นๆที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ ทั้งนี้ จากความเสียหายดังกล่าวจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นที่หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวขช้องต้องมีการดำเนินการอย่างจริงจรังโดยในฐานะคณะปฎิรูปการเงินและการคลังได้มีความตระหนักถึงเรื่องนี้ โดยจะได้มีการนำปํยหานี้มาวิเคราะห์เพื่อปฎิรูปแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นเรื้อรังมานาน โดยจะมีการผลักดันในเรื่องข้อกฎหมายต่างๆเพื่อให้หน่วยงานทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างจริงใจในการแก้ไขปํญหานี้
- See more at: http://www.bangkokbiznews.com/news/deta ... GfvAd.dpuf
ที่มา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 02 พฤษภาคม 2558
สปช. สรุปข้อมูลปัญหาหมอกควันในภาคเหนือ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ 6,000 ล้านบาท
คณะกรรมการปฎิรูปเศรษฐกิจการเงินและการคลัง สภาปฎิรูปแห่งชาติ จัดประชุมสรุปปัญหาเศรษฐกิจไทยและเกษรตรพันธสัญญา วิเคราะห์ปัญหาหมอกควันที่เรื้อรัง เพื่อเตรียมเข้าสู่กระบวนการปฎิรูปในข้อกฎหมาย ให้หน่วยงานร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
ในช่วงบ่าย วันนี้ (2 พ.ค.) ที่ห้องประชุมทองกวาว สำนักบริการวิชาการมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดประชุมเรื่องการปฎิรูปเศรษฐกิจไทยและระบบเกษตรพันธะสัญญาและปัญหาหมอกควันเพื่อเป็นแนวทางปฎิรูปจากการวิเคราะห์ถึงปัญหา โดยคณะกรรมการปฎิรูปเศรษฐกิจการเงินและการคลัง สภาปฎิรูปแห่งชาติ นำโดย นายสมชัย ฤชุพันธ์ ประธานกรรมาธิการปฎิรูปเศรษฐกิจการเงินและการคลัง นายชาลี ตั้งจีรวงษ์ สมช.เศรษฐกิจการเงินและการคลัง สภาปฎิรูปแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้
นายสมชัย กล่าวว่า ในด้านเกษตรพันธสัญญาถือเป็นรูปแบบการประกอบการทางการเกษตรรูปแบบใหม่ ที่มีประโยชน์ ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มมากขึ้น มีคุณภาพมากขึ้นหากมีการดำเนินที่ดีจะทำให้มีการกระจายรายได้เพิ่มมากขึ้น เกษตรพันธสัญญาไม่ควรที่จะยกเลิก แต่ควรจะมีการกำกับดูแลปรับแต่งให้เกิดความยุติธรรมและนำเกษตรพันธสัญญามาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาเศรษฐกิจ ทำให้ไทยมีบทบาททางการเกษตรในอนาคต ในด้านเกษตรพันธะสัญญานี้สามารถที่จะควบคุมกำหนดทิศทาง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่จะส่งผลกระบจต่อประเทศชาติได้
ทางด้านนาย ชาลี กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้เป็นการประชุมชุดใหญ่ของคณะสภาปฎิรูป โดยประการสำคัญในการแก้ไขปัญหาหมอกควันในพื้นที่9 จังหวัดภาคเหนือที่ยังเป็นปัญหาที่เรื้อรังมานานตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน เนื่องจากปัญหาหมอกควันส่งผลกระทบต่อทางด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญคือสุขภาพร่างกายของประชาชนเป็นอย่างมากโดยจากการวิเคราะห์ถึงปัญหาหมอกควันพบว่า สาเหตุหลักๆมาจากการเผา โดยเฉพาะการเผาในพื้นที่เกษตกรรม โดยมีการเผาในพื้นที่การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีพื้นที่กว่า 5 ล้านไร่ในพื้นที่ภาคเหนือ โดยแบ่งออกเป็นพื้นที่ป่าสงวน 3ล้านไร่ และพื้นที่นอกป่าสงวนอีก 2 ล้านไร่ โดยปัญหาหลักเกิดจากการเผาพื้นที่เกษตรกรรม เพื่อเตรียมการเพาะปลูกเนื่องจากจะเป็นการลดต้นทุนการทำลายตอซังข้าวโพด เพราะการเผาเป็นวิธีที่ประหยัดและสะดวกรวดเร็วมากที่สุด เป็นการลดต้นทุนการทำลายต่อซังข้าวโพด
โดยผลกระทบจากปํญหาหมอกควันนี้ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเป็นอย่างมากและสุขภาพ ซึ่งประเมินมูลค่าความเสียหายในช่าวงที่ประสบวิกฤตหมอกควันเสียหายประมาณ6,000 ล้านบาท ยังไม่รวมถึงผลกระทบทางด้านอื่นๆที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ ทั้งนี้ จากความเสียหายดังกล่าวจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นที่หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวขช้องต้องมีการดำเนินการอย่างจริงจรังโดยในฐานะคณะปฎิรูปการเงินและการคลังได้มีความตระหนักถึงเรื่องนี้ โดยจะได้มีการนำปํยหานี้มาวิเคราะห์เพื่อปฎิรูปแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นเรื้อรังมานาน โดยจะมีการผลักดันในเรื่องข้อกฎหมายต่างๆเพื่อให้หน่วยงานทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างจริงใจในการแก้ไขปํญหานี้
- See more at: http://www.bangkokbiznews.com/news/deta ... GfvAd.dpuf
ที่มา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 02 พฤษภาคม 2558