ผู้บริหารสไตล์คุณชายเนี้ยบ ชนินทร์ ชูพจน์เจริญ จุดพลุมังกรบา
Posted: 13 May 2015, 14:00
ผู้บริหารสไตล์คุณชายเนี้ยบ ชนินทร์ ชูพจน์เจริญ จุดพลุมังกรบาร์บีกอน สู่ ไก่ทอดฮ็อท สตาร์...ฮอตสมชื่อ!!
หนุ่มไฟแรงในวงการอาหาร ที่สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการอีกครั้ง โดยลูกค้าต้องต่อคิวยาวเพื่อรอซื้อสินค้านานกว่า 30 นาที ชนินทร์ ชูพจน์เจริญ ผู้บริหารแบรนด์ “Hot Star” นำประสบการณ์จากการทำงานที่อเมริกา มาต่อยอดกิจการของครอบครัวเปิดธุรกิจไก่ทอดไซส์ XXL ขนาดเท่าหน้าคน จนเป็นที่เล่าลือไปทั่วโลกออนไลน์
ชนินทร์ ลูกชายคนเดียววัย 29 ปี และเป็นลูกคนสุดท้องในจำนวน 3 คน ของ ชูพงศ์–นิภานันท์ ชูพจน์เจริญ เจ้าของและผู้ก่อตั้งร้านอาหารบาร์บีคิว พลาซ่า ที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักกันดีจากตัวมาสคอตมังกรบาร์บีกอน ซึ่งเข้ามาช่วยธุรกิจของที่บ้าน โดยนั่งเก้าอี้บริหาร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ของ บริษัท เดอะ บาร์บีคิวพลาซ่า จำกัด ป้อง–ชนินทร์ เล่าว่า ครอบครัวของเขาทั้งคุณพ่อและคุณแม่จะชอบรับประทานและชอบทำอาหาร เมื่อก่อนคุณพ่อเคยทำธุรกิจโรงแรม ซึ่งเป็นของคุณปู่ ส่วนคุณแม่ทำงานธนาคาร จนเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว คุณพ่อได้สูตรน้ำจิ้มปิ้งย่างมา เลยออกมาทำเองตั้งร้านบาร์บีคิว พลาซ่า เริ่มสาขาแรกที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว ทั้งคุณพ่อคุณแม่ก็ออกมาช่วยกันทำ ตอนเด็กๆ ทั้งครอบครัวเลยต้องมาดู มาช่วยขลุกกันอยู่ที่ร้าน แล้วโรงงานเตรียมของและออฟฟิศก็อยู่ใกล้บ้าน เลยได้เห็นมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นพอเรียนจบจากโรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี ตนจึงไปเรียนต่อทางด้านสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร ที่มหาวิทยาลัยคอร์แนล ประเทศสหรัฐอเมริกา
“ทั้งพ่อและแม่ไม่เคยบังคับให้เรียน หรือมาทำงานของที่บ้านเลย อยากจะให้ลูกๆได้มีประสบการณ์ในองค์กรอื่นมากกว่า ซึ่งผมก็เคยทำงานตำแหน่ง Test Kitchen Assistant ที่บริษัท Brinker International ที่เท็กซัส สหรัฐฯ อยู่ครึ่งปี พอดีช่วงนั้นที่บ้านกำลังมีโปรเจกต์สร้างโรงงานผลิตอาหารที่นวนคร เขาต้องการผู้จัดการโรงงาน ผมเลยคิดว่าเราน่าจะกลับมาช่วย ตอนนั้นอายุ 23-24 ปี ก็ได้มาจับโปรเจกต์ใหญ่ เป็นการเรียนรู้งานควบคู่ไปกับการทำงานเลยทีเดียว คือ เราต้องเอาการคิดแบบวิทยาศาสตร์และข้อมูล มาประกอบการทำงาน ประสานให้โปรเจกต์ดำเนินไปตามที่ตั้งเป้าหมาย ใช้เวลาเกือบ 2 ปีการทำงานทุกอย่างจึงลุล่วง ผมเลยอยากไปหาประสบการณ์ด้านการบริหาร จึงไปเรียน MBA ที่สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แล้วได้ฝึกงานในตำแหน่งนักวิเคราะห์ ที่ศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาที่ Sasin Management Consulting จากนั้นพี่สาวเลยชวนให้กลับมาช่วยกันทำงานที่บ้านต่อ ผมเลยมองความสามารถของบาร์บีคิว พลาซ่า ว่ายังมี เราเลยคิดที่จะขยายสินค้าใหม่ๆ จึงได้ไปเซอร์เวย์กันที่ไต้หวัน และติดต่อไก่ทอด “ฮ็อท สตาร์” ที่ดังมากว่า 20 ปี เข้ามาในเมืองไทย โดยผมและทีมงานต้องไปเรียนการแล่ไก่ ทอดไก่อยู่เป็นอาทิตย์ บอกได้เลยครับว่า ไก่ฮ็อท สตาร์ ที่มีขนาดใหญ่เป็นไก่ชิ้นเดียว ไม่มีการต่อ ปะ อยู่ที่เทคนิคในการทำครับ ซึ่งทุกที่รวมทั้งเมืองไทย ต้องเข้าคิวซื้อกันทุกที่” คุณป้องเล่าถึงธุรกิจใหม่ให้ฟัง
นอกจากนี้ ป้องยังเผยถึงหัวใจหลักของการทำงานให้ประสบความสำเร็จด้วยว่า การบริหารคนเป็นสิ่งสำคัญของธุรกิจร้านอาหาร เพราะเป็นธุรกิจที่ต้องใช้กำลังคนเยอะ ซึ่งถ้าเขาไม่ไปด้วยกับเรา เราก็จะทำงานลำบาก การทำงานจึงต้องใช้หลักเอาใจเขามาใส่ใจเรา ต้องเชื่อใจคนทำงานในทีม เปิดกว้าง และให้โอกาสแต่ละคนทำงาน สไตล์การทำงานของตนไม่ดุ แต่ละเอียด ต้องเนี้ยบ จึงจะผ่าน...เฉียบทั้งงานทั้งกึ๋นแบบนี้ถึงประสบความสำเร็จนั่นเอง!
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 13 พ.ค. 2558
หนุ่มไฟแรงในวงการอาหาร ที่สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการอีกครั้ง โดยลูกค้าต้องต่อคิวยาวเพื่อรอซื้อสินค้านานกว่า 30 นาที ชนินทร์ ชูพจน์เจริญ ผู้บริหารแบรนด์ “Hot Star” นำประสบการณ์จากการทำงานที่อเมริกา มาต่อยอดกิจการของครอบครัวเปิดธุรกิจไก่ทอดไซส์ XXL ขนาดเท่าหน้าคน จนเป็นที่เล่าลือไปทั่วโลกออนไลน์
ชนินทร์ ลูกชายคนเดียววัย 29 ปี และเป็นลูกคนสุดท้องในจำนวน 3 คน ของ ชูพงศ์–นิภานันท์ ชูพจน์เจริญ เจ้าของและผู้ก่อตั้งร้านอาหารบาร์บีคิว พลาซ่า ที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักกันดีจากตัวมาสคอตมังกรบาร์บีกอน ซึ่งเข้ามาช่วยธุรกิจของที่บ้าน โดยนั่งเก้าอี้บริหาร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ของ บริษัท เดอะ บาร์บีคิวพลาซ่า จำกัด ป้อง–ชนินทร์ เล่าว่า ครอบครัวของเขาทั้งคุณพ่อและคุณแม่จะชอบรับประทานและชอบทำอาหาร เมื่อก่อนคุณพ่อเคยทำธุรกิจโรงแรม ซึ่งเป็นของคุณปู่ ส่วนคุณแม่ทำงานธนาคาร จนเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว คุณพ่อได้สูตรน้ำจิ้มปิ้งย่างมา เลยออกมาทำเองตั้งร้านบาร์บีคิว พลาซ่า เริ่มสาขาแรกที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว ทั้งคุณพ่อคุณแม่ก็ออกมาช่วยกันทำ ตอนเด็กๆ ทั้งครอบครัวเลยต้องมาดู มาช่วยขลุกกันอยู่ที่ร้าน แล้วโรงงานเตรียมของและออฟฟิศก็อยู่ใกล้บ้าน เลยได้เห็นมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นพอเรียนจบจากโรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี ตนจึงไปเรียนต่อทางด้านสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร ที่มหาวิทยาลัยคอร์แนล ประเทศสหรัฐอเมริกา
“ทั้งพ่อและแม่ไม่เคยบังคับให้เรียน หรือมาทำงานของที่บ้านเลย อยากจะให้ลูกๆได้มีประสบการณ์ในองค์กรอื่นมากกว่า ซึ่งผมก็เคยทำงานตำแหน่ง Test Kitchen Assistant ที่บริษัท Brinker International ที่เท็กซัส สหรัฐฯ อยู่ครึ่งปี พอดีช่วงนั้นที่บ้านกำลังมีโปรเจกต์สร้างโรงงานผลิตอาหารที่นวนคร เขาต้องการผู้จัดการโรงงาน ผมเลยคิดว่าเราน่าจะกลับมาช่วย ตอนนั้นอายุ 23-24 ปี ก็ได้มาจับโปรเจกต์ใหญ่ เป็นการเรียนรู้งานควบคู่ไปกับการทำงานเลยทีเดียว คือ เราต้องเอาการคิดแบบวิทยาศาสตร์และข้อมูล มาประกอบการทำงาน ประสานให้โปรเจกต์ดำเนินไปตามที่ตั้งเป้าหมาย ใช้เวลาเกือบ 2 ปีการทำงานทุกอย่างจึงลุล่วง ผมเลยอยากไปหาประสบการณ์ด้านการบริหาร จึงไปเรียน MBA ที่สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แล้วได้ฝึกงานในตำแหน่งนักวิเคราะห์ ที่ศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาที่ Sasin Management Consulting จากนั้นพี่สาวเลยชวนให้กลับมาช่วยกันทำงานที่บ้านต่อ ผมเลยมองความสามารถของบาร์บีคิว พลาซ่า ว่ายังมี เราเลยคิดที่จะขยายสินค้าใหม่ๆ จึงได้ไปเซอร์เวย์กันที่ไต้หวัน และติดต่อไก่ทอด “ฮ็อท สตาร์” ที่ดังมากว่า 20 ปี เข้ามาในเมืองไทย โดยผมและทีมงานต้องไปเรียนการแล่ไก่ ทอดไก่อยู่เป็นอาทิตย์ บอกได้เลยครับว่า ไก่ฮ็อท สตาร์ ที่มีขนาดใหญ่เป็นไก่ชิ้นเดียว ไม่มีการต่อ ปะ อยู่ที่เทคนิคในการทำครับ ซึ่งทุกที่รวมทั้งเมืองไทย ต้องเข้าคิวซื้อกันทุกที่” คุณป้องเล่าถึงธุรกิจใหม่ให้ฟัง
นอกจากนี้ ป้องยังเผยถึงหัวใจหลักของการทำงานให้ประสบความสำเร็จด้วยว่า การบริหารคนเป็นสิ่งสำคัญของธุรกิจร้านอาหาร เพราะเป็นธุรกิจที่ต้องใช้กำลังคนเยอะ ซึ่งถ้าเขาไม่ไปด้วยกับเรา เราก็จะทำงานลำบาก การทำงานจึงต้องใช้หลักเอาใจเขามาใส่ใจเรา ต้องเชื่อใจคนทำงานในทีม เปิดกว้าง และให้โอกาสแต่ละคนทำงาน สไตล์การทำงานของตนไม่ดุ แต่ละเอียด ต้องเนี้ยบ จึงจะผ่าน...เฉียบทั้งงานทั้งกึ๋นแบบนี้ถึงประสบความสำเร็จนั่นเอง!
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 13 พ.ค. 2558