รุกตลาดตะวันออกกลาง ททท.วางจุดขายไทยแหล่งท่องเที่ยวมุสลิม

Post Reply
brid.ladawan
Posts: 7045
Joined: 29 Mar 2013, 13:36

รุกตลาดตะวันออกกลาง ททท.วางจุดขายไทยแหล่งท่องเที่ยวมุสลิม

Post by brid.ladawan »

รุกตลาดตะวันออกกลาง ททท.วางจุดขายไทยแหล่งท่องเที่ยวมุสลิม



การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เปิดกลยุทธ์ใหม่ สร้างภาพพจน์ให้ประเทศไทยเป็น “มุสลิม เฟรนด์ลี่ เดสติเนชั่น” หรือจุดหมายปลาโดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 15 พ.ค. 2558 06:01
ยทางที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวมุสลิม จังหวะของการจัดงานส่งเสริมการขายสินค้าท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง “อราเบียน ทราเวล มาร์เก็ต หรือเอทีเอ็ม 2015” ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 4-7 พ.ค.ที่ผ่านมา จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะได้ทดสอบความรู้สึกของนักท่องเที่ยวมุสลิมในตะวันออกกลาง ต่อมุมมองที่มีกับประเทศไทย

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเดินทางเข้าร่วมงาน “อราเบียน ทราเวล มาร์เก็ต หรือเอทีเอ็ม 2015” และเป็นประธานในงาน “Discover Thainess 2015 Networking Lunch” ที่ ททท.จัดขึ้นเพื่อเป็นเจ้าภาพเลี้ยงบรรดาผู้ประกอบการท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในภูมิภาคตะวันออกกลาง ได้ให้ความเห็นถึงการทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวมุสลิม หรือเป็นตลาดท่องเที่ยวฮาลาล ว่า จริงๆขณะนี้ก็เป็นอยู่แล้ว เพราะประเทศไทยมีหลายสิ่งที่คนมุสลิมชอบมาก เพียงแต่ยังไม่ใช่เบอร์หนึ่ง

ฉะนั้น จึงต้องหันมาพัฒนามาตรฐานสินค้าต่างๆในการรองรับตลาดมุสลิม โดยเฉพาะการผลิตอาหารฮาลาล ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยมีความใส่ใจในธุรกิจฮาลาล โดยเข้าไปสร้างมาตรฐานฮาลาลในโรงแรมและสถานประกอบการต่างๆ นอกเหนือจากนั้น จังหวัดกระบี่ได้ประกาศเป็น “ดรีม เดสติเนชั่น ออฟ มุสลิม” หรือดินแดนในฝันของชาวมุสลิม ขณะที่จังหวัดภูเก็ตประกาศเป็นศูนย์อาหารฮาลาล จึงมีความมั่นใจว่าประเทศไทยจะเป็น “มุสลิม เฟรนด์ลี่เดสติเนชั่น” ได้

“นักท่องเที่ยวในภูมิภาคตะวันออกกลางถือเป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพ ชอบช็อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม ตลอดจนสินค้าอุปโภคบริโภค อีกทั้งประเทศไทยยังมีสวนสนุก สวนน้ำ ภูเก็ตแฟนตาซี ซาฟารีเวิลด์ ที่รองรับนักท่องเที่ยวที่มาเป็นครอบครัวได้ เหตุผลนี้จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางซ้ำในอัตราสูง และยังมีกลุ่มที่เดินทางมาเพื่อใช้บริการรักษาพยาบาล ทำให้ธุรกิจเมดิคัล ทัวริสซึ่ม มีอัตราการเติบโตสูง เนื่องจากประเทศไทยสามารถให้การรักษาในระดับเวิลด์คลาสได้”

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางมากที่สุดที่รองรับเที่ยวบินจากภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยมีเที่ยวบินจากตะวันออกกลางที่บินเข้าไทยทุกวัน เช่น สายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ มี 6 เที่ยวบินต่อวันเข้ากรุงเทพฯ สายการบินเอทิฮัด แอร์เวย์ มี 3 เที่ยวบินต่อวันเข้ากรุงเทพฯ และ 1 เที่ยวบินเข้าภูเก็ต และกาตาร์ แอร์เวย์ 4 เที่ยวบินต่อวันเป็นต้น ขณะที่ชาวตะวันออกกลางในบางประเทศไม่ต้องขอวีซ่าเข้าไทยและสามารถอยู่ได้ 90 วัน หรือบางประเทศสามารถมาทำ visa on arrival ที่สนามบินในไทยได้

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ ผู้อำนวยการภูมิภาคยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง กล่าวว่า จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการไทยที่มาออกบูธเพื่อขายสินค้าท่องเที่ยวให้กับลูกค้าชาวตะวันออกกลางทุกคนสามารถทำยอดขายได้ดี มีการตอบรับที่ค่อนข้างสูง เป็นที่สังเกตว่าผู้ประกอบการหลายราย ที่เข้าร่วมในงานเอทีเอ็ม 2015 เป็นโรงแรมหรูเกิน 5 ดาว ที่เรียกกันว่า “ลักชัวรี่ โฮเต็ล” บางคนบอกว่าโรงแรมของเขา “ไม่มีสตาร์ มีแต่สไตล์” และมีโรงแรมที่นำสินค้าแบบ “พูล วิลล่า” มาเสนอขายกันมาก เนื่องจากนักท่องเที่ยวตลาดนี้ค่อนข้างกระเป๋าหนัก

ในโอกาสเดียวกันนี้ ที่ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาได้เดินทางมาร่วมงานเอทีเอ็ม 2015 ได้มีความตกลงร่วมมือกับผู้บริหารของ 2 สายการบิน คือ เอมิเรตส์ แอร์ไลน์ และเอทิฮัด แอร์เวย์ เพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยงให้กับประเทศไทยด้วย โดยจะร่วมมือกับเอมิเรตส์ แอร์ไลน์จัดโครงการ “7 bloggers 7 days 7 destinations in Amazing Thailand” ช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.นี้ นำบล็อกเกอร์ 7 คน ที่มีชื่อเสียงในพื้นที่ตะวันออกกลาง มีผู้ติดตามไม่ต่ำกว่า 20,000 คน ต่อ 1 บล็อกเกอร์ มาเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย 7 วัน ใน 7 แหล่งท่องเที่ยว เพื่อเป็นสื่อในการเจาะตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มอารบิกนิวเจน ซึ่งมีอายุ 21 ถึง 35 ปี

ส่วนเอทิฮัด แอร์เวย์ ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ได้มีการจัดกิจกรรมร่วมกันกับ ททท.มากมายอยู่แล้ว ในครั้งนี้ได้เชิญ ททท.เข้าไปร่วมออกบูธภายในพาวิลเลี่ยน ของเอทิฮัด แอร์เวย์ ในงานเอ็กซ์โป 2015 ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 16-22 ก.ค.2558 เพื่อส่งเสริมการเดินทางเข้าประเทศไทย และตกลงทำโปรโมชั่นร่วมกัน ที่จะใช้เมืองอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นฐานการบินในการรับนักท่องเที่ยวจากยุโรป อเมริกา และอเมริกาใต้เข้ามาประเทศไทย โดยผู้บริหารของเอทิฮัด แอร์เวย์ระบุว่าจะทำให้มีพวกผู้โดยสารเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวจากปัจจุบันที่มีปีละ 740,000 คน

นายเฉลิมศักดิ์ สุรนันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานดูไบ ททท. กล่าวว่า ได้มีการหารือกันอย่างเป็นทางการว่า อีก 5 ปีข้างหน้า หรือปี 2563 จะพยายามทำให้นักท่องเที่ยวจากตลาดตะวันออกกลางแตะ 1 ล้านคน แม้ว่าในปีที่ผ่านมา มีจำนวนเดินทางเข้าไทย 643,632 คน ลดลง 5.5% จากปีก่อนหน้า นำรายได้เข้าประเทศ 40,567 ล้านบาท ลดลง 4.3% แต่เมื่อมองอัตราการเติบโตเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวตั้งแต่ปี 2550-2557 พบว่า มีอัตราการขยายตัว 5% ขณะที่รายได้ขยายตัว 12% รวมทั้งคาดว่า ปี 2558 จะมีนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นเป็น 696,400 คน เพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อนหน้าและนำรายได้เข้าประเทศ 45,480 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12%

นายอับดุล ราฮิม อลาวาดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัล อลาวาดี ทราเวล จำกัด ผู้ประกอบการที่นำนักท่องเที่ยวจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เข้าไทย เปิดเผยว่า ชื่นชอบประเทศไทยอย่างมาก ชอบวิถีไทย อาหารไทยและน้ำใจของคนไทย ที่ให้บริการดี โดยลูกค้านิยมไปเที่ยวกรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ พร้อมระบุว่า คนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นิยมไปเที่ยวอังกฤษเป็นอันดับหนึ่ง รองมาคือ เยอรมนี ส่วนอันดับสามเท่ากันคือ ไทยและตุรกี และมีลูกค้าจำนวนมากที่เข้ามาตรวจร่างกายและรักษาพยาบาลในไทย นิยมโรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เป็นลำดับแรก.


ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 15 พ.ค. 2558
Post Reply

Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”