กพช.อนุมัติแผนพัฒนาไฟฟ้า
Posted: 15 May 2015, 10:18
กพช.อนุมัติแผนพัฒนาไฟฟ้า
นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน เห็นชอบแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ พ.ศ.2558-79 หรือแผนพีดีพี 2015 ซึ่งเป็นแผนจัดหาไฟฟ้าระยะยาว 21 ปี โดยปรับลดค่าพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าให้สอดคล้องกับทิศทางการขยายตัวเศรษฐกิจที่ลดเหลือ 3.94% จากเดิมขยายตัว 4.41% รวมทั้งให้สอดคล้องกับแผนอนุรักษ์พลังงาน และแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก โดยตามแผนที่ปรับใหม่ได้กำหนดกำลังการผลิตไฟฟ้าจากสิ้นปี 57 อยู่ที่ 37,612 เมกะวัตต์ เพิ่มเป็น 70,335 เมกะวัตต์ ในปี 79 โดยมีกำลังผลิตไฟฟ้าใหม่ 57,459 เมกะวัตต์ และกำลังผลิตที่ปลดออก 24,736 เมกะวัตต์
สำหรับการจัดทำแผนพีดีพี 2015 พิจารณาหลักสำคัญ 3 ด้านคือ 1.ความมั่นคงของระบบไฟฟ้าประเทศ โดยคำนึงถึงการกระจายแหล่งและชนิดเชื้อเพลิง เพื่อลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติที่ปัจจุบันสูงถึง 65% ให้เหลือไม่เกิน 40% ในปี 79 โดยเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนจาก 8% เป็น 15-20% ถ่านหินสะอาดเพิ่มจาก 19% เป็น 20-25% และการรับซื้อไฟฟ้าพลังน้ำจากเพื่อนบ้านเพิ่มสัดส่วนจาก 7% เป็น 15-20% และไฟฟ้าจากนิวเคลียร์ในช่วงสิ้นแผนพีดีพีจะอยู่ที่ 0-5% ขณะที่สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าสำรองของประเทศไม่ต่ำกว่า 15% ของปริมาณความต้องการไฟฟ้าสูงสุด 2.ด้านสิ่งแวดล้อมโดยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุปัญหาโลกร้อนลง 37% ในปี 79 ส่งผลให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าลดลงถึง 89,672 ล้านหน่วย (GWh) ในปี 79 3.ด้านเศรษฐกิจ กำหนดให้ราคาค่าไฟฟ้ามีความเหมาะสม สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงและบริหารระบบผลิต ระบบส่งและระบบจำหน่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนน้อยที่สุด ทั้งนี้ ราคาค่าไฟฟ้าเฉลี่ยตลอดอายุของแผนพีดีพีอยู่ที่ 4.587 บาท/หน่วย เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 1.9% ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นห่วงว่าค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจะกระทบกับผู้มีรายได้น้อย กระทรวงพลังงานได้ชี้แจงว่า มีโครงการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าน้อยกว่า 90 หน่วยต่อเดือน โดยภาคอุตสาหกรรมจะใช้ไฟแพงกว่าภาคครัวเรือน และเพื่อให้สอดคล้องกับแผนพีดีพี ได้เห็นชอบแผนโครงสร้างพื้นฐานก๊าซธรรมชาติ โครงการลงทุนระยะที่ 1 ของโครงข่ายระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ โดยให้ ปตท.เป็นผู้ดำเนินการ 3 โครงการ วงเงินลงทุน 13,900 ล้านบาท.
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 15 พฤษภาคม 2558
นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน เห็นชอบแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ พ.ศ.2558-79 หรือแผนพีดีพี 2015 ซึ่งเป็นแผนจัดหาไฟฟ้าระยะยาว 21 ปี โดยปรับลดค่าพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าให้สอดคล้องกับทิศทางการขยายตัวเศรษฐกิจที่ลดเหลือ 3.94% จากเดิมขยายตัว 4.41% รวมทั้งให้สอดคล้องกับแผนอนุรักษ์พลังงาน และแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก โดยตามแผนที่ปรับใหม่ได้กำหนดกำลังการผลิตไฟฟ้าจากสิ้นปี 57 อยู่ที่ 37,612 เมกะวัตต์ เพิ่มเป็น 70,335 เมกะวัตต์ ในปี 79 โดยมีกำลังผลิตไฟฟ้าใหม่ 57,459 เมกะวัตต์ และกำลังผลิตที่ปลดออก 24,736 เมกะวัตต์
สำหรับการจัดทำแผนพีดีพี 2015 พิจารณาหลักสำคัญ 3 ด้านคือ 1.ความมั่นคงของระบบไฟฟ้าประเทศ โดยคำนึงถึงการกระจายแหล่งและชนิดเชื้อเพลิง เพื่อลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติที่ปัจจุบันสูงถึง 65% ให้เหลือไม่เกิน 40% ในปี 79 โดยเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนจาก 8% เป็น 15-20% ถ่านหินสะอาดเพิ่มจาก 19% เป็น 20-25% และการรับซื้อไฟฟ้าพลังน้ำจากเพื่อนบ้านเพิ่มสัดส่วนจาก 7% เป็น 15-20% และไฟฟ้าจากนิวเคลียร์ในช่วงสิ้นแผนพีดีพีจะอยู่ที่ 0-5% ขณะที่สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าสำรองของประเทศไม่ต่ำกว่า 15% ของปริมาณความต้องการไฟฟ้าสูงสุด 2.ด้านสิ่งแวดล้อมโดยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุปัญหาโลกร้อนลง 37% ในปี 79 ส่งผลให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าลดลงถึง 89,672 ล้านหน่วย (GWh) ในปี 79 3.ด้านเศรษฐกิจ กำหนดให้ราคาค่าไฟฟ้ามีความเหมาะสม สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงและบริหารระบบผลิต ระบบส่งและระบบจำหน่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนน้อยที่สุด ทั้งนี้ ราคาค่าไฟฟ้าเฉลี่ยตลอดอายุของแผนพีดีพีอยู่ที่ 4.587 บาท/หน่วย เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 1.9% ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นห่วงว่าค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจะกระทบกับผู้มีรายได้น้อย กระทรวงพลังงานได้ชี้แจงว่า มีโครงการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าน้อยกว่า 90 หน่วยต่อเดือน โดยภาคอุตสาหกรรมจะใช้ไฟแพงกว่าภาคครัวเรือน และเพื่อให้สอดคล้องกับแผนพีดีพี ได้เห็นชอบแผนโครงสร้างพื้นฐานก๊าซธรรมชาติ โครงการลงทุนระยะที่ 1 ของโครงข่ายระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ โดยให้ ปตท.เป็นผู้ดำเนินการ 3 โครงการ วงเงินลงทุน 13,900 ล้านบาท.
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 15 พฤษภาคม 2558