“POMO Kidswatch” ติดตามตัวป้องกันเด็กหาย
Posted: 15 May 2015, 14:55
“POMO Kidswatch” ติดตามตัวป้องกันเด็กหาย
“POMO Kidswatch” ติดตามตัวป้องกันเด็กหาย
POMOHOUSE เปิดตัว POMO Kidswatch เป็นได้ทั้งนาฬิกาอัจฉริยะ และ GPS tracker ติดตามพฤติกรรมลูกรักตลอดวัน ทั้งยังป้องกันเด็กหายได้อย่างดี มาพร้อม 10 ฟังก์ชันเด่น ตอบรับความต้องการพ่อแม่ที่ต้องการสื่อสารกับลูกได้ตลอดเวลา
สุปรียา กณิกนันต์ กรรมการบริหาร บริษัท POMOHOUSE ผู้ทำตลาด POMO KidsWatch กล่าวว่า จากประสบการณ์จริงที่เกือบจะต้องพลัดหลงกับลูกสาวในขณะเดินทางท่องเที่ยว จึงต้องการเครื่องมือที่จะมาช่วยดูแลลูก จึงได้มีการรวบรวมทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านซอฟต์แวร์สำหรับกลุ่มเด็ก และครอบครัวโดยเฉพาะ เพื่อช่วยกันคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่สามารถป้องกันปัญหาเด็กหายจากต้นเหตุ
ด้วยงบลงทุนกว่า 30 ล้านบาท และความร่วมมือกับทีมงานที่ไต้หวันพัฒนาขึ้นเป็น “POMO KidsWatch” เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของเด็ก และผู้ปกครองยุคใหม่ที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ดูแลลูกๆ ได้ตลอดเวลา ขณะเดียวกัน ก็ยังสามารถป้องกันปัญหาการติดสมาร์ทโฟนของเด็กๆ ก่อนวัยอันควรอีกด้วย โดยคาดว่าในปีแรกจะมีส่วนแบ่งในตลาดนี้ประมาณ 80%
ณัฐพล ตันติไพบูลย์ กรรมการบริษัท POMOHOUSE กล่าวว่า จุดเด่นของ POMO KidsWatch คือ จะเป็นทั้งโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์ติดตามตัวในเครื่องเดียวกัน ซึ่งทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน POMO Kids ซึ่งถูกออกแบบโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของเด็ก และความพอดีในการใช้งานเป็นสำคัญ
“POMO Kidswatch” ติดตามตัวป้องกันเด็กหาย
POMO Kidswatch มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งาน 10 ฟังก์ชันที่ตอบสนอง และความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ใช้งานง่ายเพียงแค่ใส่ซิมการ์ด และเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่านแอปพลิเคชัน POMO Kids ผู้ใช้สามารถตั้งค่าการใช้งานส่วนตัวได้เองโดยคำนึงถึงชีวิตประจำวันของพ่อแม่ และไม่รบกวนเวลาเรียนรู้ของเด็กไม่ว่าจะเป็นเวลาเรียน หรือทำกิจกรรม
คุณสมบัติที่น่าสนใจของ POMO Kidswatch คือ 1.ทั้งรับ และโทร.ได้ในเครื่องเดียว (Voice Calling) โดยสามารถกำหนดเบอร์โทรศัพท์คนในครอบครัวให้สามารถโทร.หา POMO Kidswatch ได้สูงสุด 8 เบอร์ ในขณะที่นาฬิกาสามารถกดโทร.ออกไปยังเบอร์โทรศัพท์คนในครอบครัวที่ตั้งค่าไว้ได้สูงสุด 3 เบอร์ ตามปุ่มบนนาฬิกา
2.ระบบ GPS ติดตามนาฬิกา (Smart Locator) ถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกันระหว่าง GPS และระบบ 3G ดังนั้น ผู้ปกครองสามารถค้นหาสถานที่ของนาฬิกา และยังสามารถค้นหาสถานที่ของเด็กได้ทีละหลายคนพร้อมกัน 3.พื้นที่ปลอดภัยที่กำหนดเอง (Safe Zone) เริ่มต้นใช้งานฟังก์ชัน Safezone ได้หลังจากที่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน POMO Kids และเชื่อมต่อสัญญาณผ่าน network 3G ฟังก์ชันนี้จะช่วยให้กำหนดพื้นที่ปลอดภัยของเด็กให้เหมาะสมต่อกิจกรรมต่างๆ เช่น พื้นที่ในบริเวณโรงเรียน การทำกิจกรรมนอกชั้นเรียน ร้านหนังสือ หรือแม้กระทั่งอยู่ที่บ้าน เมื่อเด็กออกนอกพื้นที่ปลอดภัยที่กำหนดไว้ก็จะได้รับสัญญาณแจ้งเตือนทางโทรศัพท์มือถือ และทราบทันทีว่าขณะนี้เด็กกำลังอยู่ในส่วนไหนของแผนที่
4.รายงานอุบัติเหตุได้ทันท่วงที ด้วย Accident Report กรณีที่เด็กได้รับอุบัติเหตุหรือหกล้ม ก็จะได้รับสัญญาณแจ้งเตือนทางโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ความช่วยเหลือเด็กได้อย่างทันท่วงที 5.เซ็นเซอร์ตรวจจับนาฬิกาหลุด (Watch fall off alarm) กรณีที่นาฬิกาถูกถอดออกจากไปจากข้อมือของเด็ก หรือหลุดโดยบังเอิญจากการทำกิจกรรม พ่อแม่จะได้รับสัญญาณแจ้งเตือนทางโทรศัพท์มือถือ และสามารถให้ความความช่วยเหลือได้ทันทีในกรณีที่เด็กถูกลักพาตัว
“POMO Kidswatch” ติดตามตัวป้องกันเด็กหาย
6.เชื่อมต่อผ่านบลูทูธ (Anti-lost alarm in short-distance travel) การเดินทางไปท่องเที่ยวกับเด็กในสถานที่ที่ไม่มีสัญญาอินเทอร์เน็ต ก็ยังสามารถเชื่อมต่อนาฬิกากับโทรศัพท์มือถือไว้ด้วยกันผ่านบลูทูธ เมื่อเด็กห่างจากผู้ปกครองไป 20 เมตร ก็จะได้รับสัญญาณแจ้งเตือนทางโทรศัพท์มือถือ 7.ส่งข้อความเสียงสั้นๆ ฉับไว (Voice Messageing) สามารถส่งข้อความเสียงสั้นๆ ไปยังนาฬิกาได้โดยที่ไม่ต้องกดโทร.ออก
8.ปุ่ม SOS เมื่อมีเหตุฉุกเฉิน (Intelligent Emergency) อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา เมื่อเด็กต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนแค่เพียงกดปุ่ม “SOS” นาฬิกาจะทำการโทร.ออกไปยังเบอร์โทรศัพท์ตามลำดับตั้งแต่หมายเลขโทรศัพท์ ที่ตั้งค่าไว้ หลังจากโทร.ออกเรียบร้อยแล้ว นาฬิกาจะทำการอัปเดตสถานที่ของนาฬิกาในขณะนั้นทุก 60 วินาที ผ่านระบบ SMS มายังโทรศัพท์มือถือทุกเบอร์เพื่อไม่ให้พลาดความเคลื่อนไหวที่อาจเป็นอันตรายต่อเด็ก
9.เครื่องนับก้าว (Pedometer) สามารถตรวจสอบการออกกำลังกายของเด็กๆ จากจำนวนการก้าวเดินของเด็กๆ ในแต่ละวัน ผ่านฟีเจอร์ Pedometer และ 10.กันยุงก็ได้หายห่วง (Mosquito repellent) POMO สามารถป้องกันยุงได้ด้วยเทคโนโลยีคลื่นเสียงพิเศษที่ปล่อยออกมาที่ 16-20 KHg
ในส่วนการทำตลาดจำหน่ายที่ราคาเรือนละ 3,990 บาท สามารถดาวน์โหลดได้ 2 ระบบ คือ iOS Version 7 ขึ้นไป และ Android 4.0 ice cream sandwich ขึ้นไป ปัจจุบันวางจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทาง TG Fone, Power Buy และตัวแทนจัดจำหน่ายในกรุงเทพฯ รวมมากกว่า 100 แห่ง หรือเว็บไซต์ pomohouse.com, iTrueMart.com อีกทั้งขณะนี้บริษัทได้ร่วมมือกับเซ็นทรัลมอบสิทธิพิเศษให้แก่สมาชิกบัตร The One Card โดยสามารถนำคะแนนมาแลกรับส่วนลดในการซื้อ POMO KidsWatch ได้อีกด้วย
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 14 พฤษภาคม 2558
“POMO Kidswatch” ติดตามตัวป้องกันเด็กหาย
POMOHOUSE เปิดตัว POMO Kidswatch เป็นได้ทั้งนาฬิกาอัจฉริยะ และ GPS tracker ติดตามพฤติกรรมลูกรักตลอดวัน ทั้งยังป้องกันเด็กหายได้อย่างดี มาพร้อม 10 ฟังก์ชันเด่น ตอบรับความต้องการพ่อแม่ที่ต้องการสื่อสารกับลูกได้ตลอดเวลา
สุปรียา กณิกนันต์ กรรมการบริหาร บริษัท POMOHOUSE ผู้ทำตลาด POMO KidsWatch กล่าวว่า จากประสบการณ์จริงที่เกือบจะต้องพลัดหลงกับลูกสาวในขณะเดินทางท่องเที่ยว จึงต้องการเครื่องมือที่จะมาช่วยดูแลลูก จึงได้มีการรวบรวมทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านซอฟต์แวร์สำหรับกลุ่มเด็ก และครอบครัวโดยเฉพาะ เพื่อช่วยกันคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่สามารถป้องกันปัญหาเด็กหายจากต้นเหตุ
ด้วยงบลงทุนกว่า 30 ล้านบาท และความร่วมมือกับทีมงานที่ไต้หวันพัฒนาขึ้นเป็น “POMO KidsWatch” เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของเด็ก และผู้ปกครองยุคใหม่ที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ดูแลลูกๆ ได้ตลอดเวลา ขณะเดียวกัน ก็ยังสามารถป้องกันปัญหาการติดสมาร์ทโฟนของเด็กๆ ก่อนวัยอันควรอีกด้วย โดยคาดว่าในปีแรกจะมีส่วนแบ่งในตลาดนี้ประมาณ 80%
ณัฐพล ตันติไพบูลย์ กรรมการบริษัท POMOHOUSE กล่าวว่า จุดเด่นของ POMO KidsWatch คือ จะเป็นทั้งโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์ติดตามตัวในเครื่องเดียวกัน ซึ่งทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน POMO Kids ซึ่งถูกออกแบบโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของเด็ก และความพอดีในการใช้งานเป็นสำคัญ
“POMO Kidswatch” ติดตามตัวป้องกันเด็กหาย
POMO Kidswatch มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งาน 10 ฟังก์ชันที่ตอบสนอง และความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ใช้งานง่ายเพียงแค่ใส่ซิมการ์ด และเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่านแอปพลิเคชัน POMO Kids ผู้ใช้สามารถตั้งค่าการใช้งานส่วนตัวได้เองโดยคำนึงถึงชีวิตประจำวันของพ่อแม่ และไม่รบกวนเวลาเรียนรู้ของเด็กไม่ว่าจะเป็นเวลาเรียน หรือทำกิจกรรม
คุณสมบัติที่น่าสนใจของ POMO Kidswatch คือ 1.ทั้งรับ และโทร.ได้ในเครื่องเดียว (Voice Calling) โดยสามารถกำหนดเบอร์โทรศัพท์คนในครอบครัวให้สามารถโทร.หา POMO Kidswatch ได้สูงสุด 8 เบอร์ ในขณะที่นาฬิกาสามารถกดโทร.ออกไปยังเบอร์โทรศัพท์คนในครอบครัวที่ตั้งค่าไว้ได้สูงสุด 3 เบอร์ ตามปุ่มบนนาฬิกา
2.ระบบ GPS ติดตามนาฬิกา (Smart Locator) ถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกันระหว่าง GPS และระบบ 3G ดังนั้น ผู้ปกครองสามารถค้นหาสถานที่ของนาฬิกา และยังสามารถค้นหาสถานที่ของเด็กได้ทีละหลายคนพร้อมกัน 3.พื้นที่ปลอดภัยที่กำหนดเอง (Safe Zone) เริ่มต้นใช้งานฟังก์ชัน Safezone ได้หลังจากที่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน POMO Kids และเชื่อมต่อสัญญาณผ่าน network 3G ฟังก์ชันนี้จะช่วยให้กำหนดพื้นที่ปลอดภัยของเด็กให้เหมาะสมต่อกิจกรรมต่างๆ เช่น พื้นที่ในบริเวณโรงเรียน การทำกิจกรรมนอกชั้นเรียน ร้านหนังสือ หรือแม้กระทั่งอยู่ที่บ้าน เมื่อเด็กออกนอกพื้นที่ปลอดภัยที่กำหนดไว้ก็จะได้รับสัญญาณแจ้งเตือนทางโทรศัพท์มือถือ และทราบทันทีว่าขณะนี้เด็กกำลังอยู่ในส่วนไหนของแผนที่
4.รายงานอุบัติเหตุได้ทันท่วงที ด้วย Accident Report กรณีที่เด็กได้รับอุบัติเหตุหรือหกล้ม ก็จะได้รับสัญญาณแจ้งเตือนทางโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ความช่วยเหลือเด็กได้อย่างทันท่วงที 5.เซ็นเซอร์ตรวจจับนาฬิกาหลุด (Watch fall off alarm) กรณีที่นาฬิกาถูกถอดออกจากไปจากข้อมือของเด็ก หรือหลุดโดยบังเอิญจากการทำกิจกรรม พ่อแม่จะได้รับสัญญาณแจ้งเตือนทางโทรศัพท์มือถือ และสามารถให้ความความช่วยเหลือได้ทันทีในกรณีที่เด็กถูกลักพาตัว
“POMO Kidswatch” ติดตามตัวป้องกันเด็กหาย
6.เชื่อมต่อผ่านบลูทูธ (Anti-lost alarm in short-distance travel) การเดินทางไปท่องเที่ยวกับเด็กในสถานที่ที่ไม่มีสัญญาอินเทอร์เน็ต ก็ยังสามารถเชื่อมต่อนาฬิกากับโทรศัพท์มือถือไว้ด้วยกันผ่านบลูทูธ เมื่อเด็กห่างจากผู้ปกครองไป 20 เมตร ก็จะได้รับสัญญาณแจ้งเตือนทางโทรศัพท์มือถือ 7.ส่งข้อความเสียงสั้นๆ ฉับไว (Voice Messageing) สามารถส่งข้อความเสียงสั้นๆ ไปยังนาฬิกาได้โดยที่ไม่ต้องกดโทร.ออก
8.ปุ่ม SOS เมื่อมีเหตุฉุกเฉิน (Intelligent Emergency) อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา เมื่อเด็กต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนแค่เพียงกดปุ่ม “SOS” นาฬิกาจะทำการโทร.ออกไปยังเบอร์โทรศัพท์ตามลำดับตั้งแต่หมายเลขโทรศัพท์ ที่ตั้งค่าไว้ หลังจากโทร.ออกเรียบร้อยแล้ว นาฬิกาจะทำการอัปเดตสถานที่ของนาฬิกาในขณะนั้นทุก 60 วินาที ผ่านระบบ SMS มายังโทรศัพท์มือถือทุกเบอร์เพื่อไม่ให้พลาดความเคลื่อนไหวที่อาจเป็นอันตรายต่อเด็ก
9.เครื่องนับก้าว (Pedometer) สามารถตรวจสอบการออกกำลังกายของเด็กๆ จากจำนวนการก้าวเดินของเด็กๆ ในแต่ละวัน ผ่านฟีเจอร์ Pedometer และ 10.กันยุงก็ได้หายห่วง (Mosquito repellent) POMO สามารถป้องกันยุงได้ด้วยเทคโนโลยีคลื่นเสียงพิเศษที่ปล่อยออกมาที่ 16-20 KHg
ในส่วนการทำตลาดจำหน่ายที่ราคาเรือนละ 3,990 บาท สามารถดาวน์โหลดได้ 2 ระบบ คือ iOS Version 7 ขึ้นไป และ Android 4.0 ice cream sandwich ขึ้นไป ปัจจุบันวางจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทาง TG Fone, Power Buy และตัวแทนจัดจำหน่ายในกรุงเทพฯ รวมมากกว่า 100 แห่ง หรือเว็บไซต์ pomohouse.com, iTrueMart.com อีกทั้งขณะนี้บริษัทได้ร่วมมือกับเซ็นทรัลมอบสิทธิพิเศษให้แก่สมาชิกบัตร The One Card โดยสามารถนำคะแนนมาแลกรับส่วนลดในการซื้อ POMO KidsWatch ได้อีกด้วย
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 14 พฤษภาคม 2558