กสทช.ชี้ 22 พ.ค.นี้ ชี้ชะตาเลื่อนจ่ายค่าประมูลทีวีดิจิตอลรอบ
Posted: 21 May 2015, 17:17
กสทช.ชี้ 22 พ.ค.นี้ ชี้ชะตาเลื่อนจ่ายค่าประมูลทีวีดิจิตอลรอบ 2
กสทช.ชี้ 22 พ.ค.นี้ ชี้ชะตาเลื่อนจ่ายค่าประมูลทีวีดิจิตอลรอบ 2
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
กสทช.เผย 22 พ.ค.นี้ ประชุมบอร์ดนัดพิเศษชี้ชะตาเลื่อนจ่ายค่างวดทีวีดิจิตอลรอบ 2 หลังอัยการสูงสุด-สตง.ส่งหนังสือตอบกลับมาแล้ว
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ขณะนี้อัยการสูงสุด และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ส่งหนังสือตอบกลับมาแล้ว ซึ่งเนื้อหาเป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะยังต้องรอหนังสือจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ช.ช.) ตอบกลับมาด้วย ดังนั้น ที่ประชุม กสทช.จึงมีมติให้เลื่อนการพิจารณาเรื่องการขอขยายเวลาจ่ายค่าประมูลใบอนุญาตทีวีดิจิตอลงวดที่ 2 ซึ่งต้องมีการลงมติในครั้งนี้ออกไปจัดประชุมนัดพิเศษในวันที่ 22 พ.ค.58 แทน
ทั้งนี้ หากทีวีดิจิตอลช่องไหนพร้อมชำระค่างวดที่ 2 ตามกำหนดก็สามารถเข้ามาจ่ายได้ เนื่องจาก บริษัท กรุงเทพวิทยุและโทรทัศน์ จำกัด (ช่อง 7) ได้ชำระเงินค่าประมูลในงวดที่ 2 แล้ว ส่วนวันที่ 24 พ.ค.ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ ดังนั้น จึงสามารถมาจ่ายได้ถึงวันที่ 25 พ.ค.58 นี้ แต่สำหรับรายใดที่ยังไม่สามารถจ่ายได้นั้นให้ทำหนังสือส่งเข้ามาที่สำนักงาน กสทช.เพื่อชี้แจงเหตุผล และรายละเอียดที่ยังไม่สามารถจ่ายได้ตามกำหนด
ส่วนเรื่องงบประมาณในการทำประชาสัมพันธ์เพื่อเผยแพร่การรับชมทีวีดิจิตอลไปสู่ประชาชนนั้น มติ กสทช.ได้อนุมัติเงิน จำนวน 63 ล้านบาท โดยขั้นตอนต่อไปสำนักงาน กสทช. จะทำการเปิดให้บริษัทที่สนใจเข้าร่วมในวันจันทร์ที่ 25 พ.ค.58นี้ โดยจะใช้วิธีการประกวดราคาเพื่อหาบริษัทที่จะทำหน้าที่จัดการประชาสัมพันธ์ พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้มีมติให้ขยายโครงข่ายโดยเพิ่มสถานีย่อยเสริมจำนวน 132 แห่ง จากเดิมที่มีสถานีฐานอยู่แล้ว 39 แห่ง ซึ่งจะทำให้มีสถานีส่งสัญญาณทั้งหมด 171 แห่งทั่วประเทศ เพื่อรองรับในพื้นที่ที่เป็นจุดอับสัญญาณ และเพื่อครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น อีกทั้งในวันที่ 21 พ.ค.58 นี้ จะมีการแจกคูปองสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านทีวีดิจิตอลล็อตสุดท้าย จำนวน 5.4 ล้านครัวเรือน จากเดิมที่แจกคูปองไปแล้ว 8.7 ล้านครัวเรือน ทำให้จะครบจำนวนที่ต้องแจกทั้งหมด 14.1 ครัวเรือนภายในเดือนนี้
ส่วนความคืบหน้ากรณีของหุ้นเอสแอลซีนั้น มติที่ประชุมเห็นตามความคิดเห็นของคณะอนุกรรมการด้านกฎหมายที่ให้ กสทช.มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 ตามมาตรา 27(17) ที่กรรมการ กสทช.สามารถดำเนินการในการกำกับและกำหนดลักษณะการควบรวมกิจการ และการครองสิทธิข้ามสื่อได้ และ กสทช.สามารถมอบอำนาจการพิจารณาให้แก่กรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ได้ ดังนั้น มติที่ประชุม กสทช.ครั้งนี้ จึงมอบอำนาจให้กรรมการ กสท. พิจารณากรณีของหุ้นเอสแอลซีอีกครั้ง โดยให้เริ่มพิจารณาตั้งแต่เริ่มต้นใหม่ทั้งหมด เนื่องจากที่ผ่านมา กสท.ได้ลงมติ และเมื่อมีมติจาก กสท.ออกมาให้ถือเป็นที่สิ้นสุดไม่ต้องนำเสนอเข้าที่ประชุม กสทช.อีก
อนึ่ง สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ทำหนังสือตอบกลับมายัง กสทช. โดยระบุว่า หากอ้างอิงตามประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่ เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการธุรกิจระดับชาติ พ.ศ.2556 พบว่า ไม่สามารถเลื่อนจ่ายเงินค่าประมูลทีวีดิจิตอลในงวดที่ 2 ได้ แต่หาก กสทช. ต้องการเลื่อนจ่ายเงินค่าประมูลทีวีดิจิตอลในงวดที่ 2 ทาง กสทช. จะต้องดำเนินการออกประกาศฉบับใหม่ออกมา แต่การออกประกาศฉบับใหม่ที่ออกมาหลังเสร็จสิ้นการประมูลอาจเข้าข่ายเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทเอกชนบางราย ฉะนั้นจึงแนะนำให้ กสทช. ดำเนินการปรึกษาเรื่องดังกล่าวยังคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 20 พฤษภาคม 2558
กสทช.ชี้ 22 พ.ค.นี้ ชี้ชะตาเลื่อนจ่ายค่าประมูลทีวีดิจิตอลรอบ 2
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
กสทช.เผย 22 พ.ค.นี้ ประชุมบอร์ดนัดพิเศษชี้ชะตาเลื่อนจ่ายค่างวดทีวีดิจิตอลรอบ 2 หลังอัยการสูงสุด-สตง.ส่งหนังสือตอบกลับมาแล้ว
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ขณะนี้อัยการสูงสุด และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ส่งหนังสือตอบกลับมาแล้ว ซึ่งเนื้อหาเป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะยังต้องรอหนังสือจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ช.ช.) ตอบกลับมาด้วย ดังนั้น ที่ประชุม กสทช.จึงมีมติให้เลื่อนการพิจารณาเรื่องการขอขยายเวลาจ่ายค่าประมูลใบอนุญาตทีวีดิจิตอลงวดที่ 2 ซึ่งต้องมีการลงมติในครั้งนี้ออกไปจัดประชุมนัดพิเศษในวันที่ 22 พ.ค.58 แทน
ทั้งนี้ หากทีวีดิจิตอลช่องไหนพร้อมชำระค่างวดที่ 2 ตามกำหนดก็สามารถเข้ามาจ่ายได้ เนื่องจาก บริษัท กรุงเทพวิทยุและโทรทัศน์ จำกัด (ช่อง 7) ได้ชำระเงินค่าประมูลในงวดที่ 2 แล้ว ส่วนวันที่ 24 พ.ค.ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ ดังนั้น จึงสามารถมาจ่ายได้ถึงวันที่ 25 พ.ค.58 นี้ แต่สำหรับรายใดที่ยังไม่สามารถจ่ายได้นั้นให้ทำหนังสือส่งเข้ามาที่สำนักงาน กสทช.เพื่อชี้แจงเหตุผล และรายละเอียดที่ยังไม่สามารถจ่ายได้ตามกำหนด
ส่วนเรื่องงบประมาณในการทำประชาสัมพันธ์เพื่อเผยแพร่การรับชมทีวีดิจิตอลไปสู่ประชาชนนั้น มติ กสทช.ได้อนุมัติเงิน จำนวน 63 ล้านบาท โดยขั้นตอนต่อไปสำนักงาน กสทช. จะทำการเปิดให้บริษัทที่สนใจเข้าร่วมในวันจันทร์ที่ 25 พ.ค.58นี้ โดยจะใช้วิธีการประกวดราคาเพื่อหาบริษัทที่จะทำหน้าที่จัดการประชาสัมพันธ์ พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้มีมติให้ขยายโครงข่ายโดยเพิ่มสถานีย่อยเสริมจำนวน 132 แห่ง จากเดิมที่มีสถานีฐานอยู่แล้ว 39 แห่ง ซึ่งจะทำให้มีสถานีส่งสัญญาณทั้งหมด 171 แห่งทั่วประเทศ เพื่อรองรับในพื้นที่ที่เป็นจุดอับสัญญาณ และเพื่อครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น อีกทั้งในวันที่ 21 พ.ค.58 นี้ จะมีการแจกคูปองสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านทีวีดิจิตอลล็อตสุดท้าย จำนวน 5.4 ล้านครัวเรือน จากเดิมที่แจกคูปองไปแล้ว 8.7 ล้านครัวเรือน ทำให้จะครบจำนวนที่ต้องแจกทั้งหมด 14.1 ครัวเรือนภายในเดือนนี้
ส่วนความคืบหน้ากรณีของหุ้นเอสแอลซีนั้น มติที่ประชุมเห็นตามความคิดเห็นของคณะอนุกรรมการด้านกฎหมายที่ให้ กสทช.มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 ตามมาตรา 27(17) ที่กรรมการ กสทช.สามารถดำเนินการในการกำกับและกำหนดลักษณะการควบรวมกิจการ และการครองสิทธิข้ามสื่อได้ และ กสทช.สามารถมอบอำนาจการพิจารณาให้แก่กรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ได้ ดังนั้น มติที่ประชุม กสทช.ครั้งนี้ จึงมอบอำนาจให้กรรมการ กสท. พิจารณากรณีของหุ้นเอสแอลซีอีกครั้ง โดยให้เริ่มพิจารณาตั้งแต่เริ่มต้นใหม่ทั้งหมด เนื่องจากที่ผ่านมา กสท.ได้ลงมติ และเมื่อมีมติจาก กสท.ออกมาให้ถือเป็นที่สิ้นสุดไม่ต้องนำเสนอเข้าที่ประชุม กสทช.อีก
อนึ่ง สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ทำหนังสือตอบกลับมายัง กสทช. โดยระบุว่า หากอ้างอิงตามประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่ เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการธุรกิจระดับชาติ พ.ศ.2556 พบว่า ไม่สามารถเลื่อนจ่ายเงินค่าประมูลทีวีดิจิตอลในงวดที่ 2 ได้ แต่หาก กสทช. ต้องการเลื่อนจ่ายเงินค่าประมูลทีวีดิจิตอลในงวดที่ 2 ทาง กสทช. จะต้องดำเนินการออกประกาศฉบับใหม่ออกมา แต่การออกประกาศฉบับใหม่ที่ออกมาหลังเสร็จสิ้นการประมูลอาจเข้าข่ายเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทเอกชนบางราย ฉะนั้นจึงแนะนำให้ กสทช. ดำเนินการปรึกษาเรื่องดังกล่าวยังคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 20 พฤษภาคม 2558