รมว.ไอซีทีแจง 2 รัฐวิสาหกิจอย่าห่วงดาต้า เซ็นเตอร์แห่งชาติฉุ

[brid.ladawan]

รมว.ไอซีทีแจง 2 รัฐวิสาหกิจอย่าห่วงดาต้า เซ็นเตอร์แห่งชาติฉุดลูกค้า

รมว.ไอซีทีแจง 2 รัฐวิสาหกิจอย่าห่วงดาต้า เซ็นเตอร์แห่งชาติฉุดลูกค้า
นายพรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีว่โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

20 พฤษภาคม 2558าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที
“พรชัย” สั่งรื้อโครงการที่คั่งค้าง หลังปลัดไอซีทีถูกย้าย ชี้โครงการใหญ่ ปรับทัศนคติข้าราชการระดับสูงไม่เดินหน้า เร่งปรับงบจาก 38 ล้านบาท เป็น 60 ล้านบาท หาบริษัทที่ปรึกษาโดยด่วน พร้อมทุ่มเงินหลักแสนจ้าง ก.พ.ร.ปรับโครงสร้างหน่วยงาน เพื่อให้ทันตั้งกระทรวงใหม่ ส.ค.นี้ เผยช่วงนี้งานกระทรวงมีมาก พบมีคนแอบอ้างนำชื่อไปหากิน ลั่นหากจับได้มีความผิดร้ายแรง แจงโครงการดาต้า เซ็นเตอร์แห่งชาติ ไม่กระทบลูกค้า กสท โทรคมนาคม และ ทีโอที เปรย 2 องค์กร ต้องเร่งปรับปรุงคุณภาพรับรองไม่ตกขบวนโครงการระดับชาติ

นายพรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที กล่าวว่า ภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีคำสั่งย้ายนางเมธินี เทพมณี ปลัดกระทรวงไอซีที ไปช่วยงานราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนเองพบว่ายังมีโครงการที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน ซึ่งคั่งค้างมานานหลายโครงการ อาทิ โครงการการบริหารการเปลี่ยนแปลง (Change Management) เพื่อรองรับการเปลี่ยนโครงสร้างการทำงานของกระทรวงใหม่สอดรับกับนโยบาย Digital Economy ซึ่งได้สั่งให้ปลัดจ้างที่ปรึกษาเพื่อดำเนินโครงการดังกล่าวตั้งแต่เดือน ก.พ.เพื่อให้แล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา แต่กลับพบว่ายังไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด ขณะที่กฎหมายปรับปรุง กระทรวง ทบวง กรม คาดว่าจะผ่านสภานิติบัญญัติ (สนช.) ในเดือน มิ.ย. และจะประกาศใช้ในเดือน ส.ค.ซึ่งเท่ากับว่าชื่อกระทรวงใหม่และการปรับโครงสร้างก็ต้องเรียบร้อยด้วย

ดังนั้น จึงได้เร่งให้รื้อโครงการนี้มาดำเนินการใหม่อย่างเร่งด่วน จากเดิมที่วางกรอบงบประมาณไว้ที่ 38 ล้านบาท ให้เพิ่มเป็น 60 ล้านบาท เพื่อให้ได้บริษัทที่ปรึกษาโดยเร็วในการดำเนินการปรับเปลี่ยนทัศนคติการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อให้ข้าราชการระดับซี 6 ขึ้นไป มีความเข้าใจในการทำงานภายใต้กระทรวงใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ ยังเตรียมงบประมาณไว้อีกหลักแสนบาท เพื่อให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) มาดูเรื่องการปรับโครงสร้างกระทรวงอย่างจริงจังอีกด้วย โดยงบประมาณทั้งหมดเป็นงบของโครงการแท็บเล็ตเพื่อการศึกษาที่ไม่ได้ทำตั้งแต่สมัยรัฐบาลที่แล้ว และเหลืออยู่ประมาณ 3,700 ล้านบาท

“ตอนนี้กระทรวงมีโครงการที่ต้องเร่งดำเนินการหลายโครงการทั้งงานของกระทรวงเองและโครงการที่คณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ให้ดำเนินการ ทำให้มีข่าวเข้ามาหนาหูมากถึงการนำชื่อผมไปอ้างในการรับงานโครงการดังกล่าว ผมขอเตือนไว้ก่อนเลยว่าหากจับได้จะมีความผิดร้ายแรง และผมไม่เคยสั่งให้ใครไปรับงานใต้โต๊ะใดๆ ทั้งสิ้น”

สำหรับกระแสข่าวเรื่องโครงการดาต้า เซ็นเตอร์แห่งชาติ ที่ทำให้ 2 รัฐวิสาหกิจอย่าง บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ได้รับผลกระทบทำให้ลูกค้าที่กำลังจะเข้ามาใช้บริการชะลอการลงทุนเพื่อรอดูความชัดเจนของโครงการดาต้า เซ็นเตอร์แห่งชาติ ที่จะสร้างเสร็จพร้อมให้บริการในอีก 2 ปีข้างหน้านั้น ขออย่าให้ 2 องค์กรมีความกังวล เพราะการมีโครงการนี้จะทำให้ทั้ง 2 องค์กรมีแรงผลักดันในการปรับปรุงบริการหลังการขายตลอดจนมาตรฐานการให้บริการให้ตรงกับคุณสมบัติที่โครงการกำหนด เมื่อมีคุณภาพตามที่กำหนดแล้วหน่วยงานกลางอย่าง สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สรอ. ก็พร้อมที่จะเป็นหน่วยงานกลางในการบริหารจัดการให้ทั้ง 2 หน่วยงานนี้เข้าร่วมโครงการอยู่แล้ว เพราะเป็นบริษัทที่มีดาต้า เซ็นเตอร์อยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องสร้างใหม่ตามโครงการที่กำหนด

ด้านนายศักดิ์ เสกขุนทด ผู้อำนวยการ สรอ.กล่าวว่า ขณะนี้มีบริษัทที่สนใจเข้าร่วมโครงการแล้วประมาณ 10 ราย โดย กสท โทรคมนาคม เพิ่งลงทะเบียนแสดงความสนใจเข้าร่วมโครงการด้วย ส่วนการสำรวจข้อมูลดาต้า เซ็นเตอร์ภาครัฐที่เหลืออีกประมาณ 217 หน่วยงาน จากทั้งหมด 300 หน่วยงานนั้นคาดว่าจะสามารถสรุปข้อมูลได้ทันเข้าที่ประชุมดีอี ในเดือน มิ.ย.นี้แน่นอน

ขณะที่ พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการและรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม กล่าวว่า ลูกค้าที่ไม่แน่ใจและรอดูความชัดเจนของโครงการดาต้า เซ็นเตอร์แห่งชาตินั้นก็มีอยู่บ้าง แต่มั่นใจว่าดาต้า เซ็นเตอร์ของ กสท โทรคมนาคม มีมาตรฐานระดับสากลอยู่แล้ว

ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 20 พฤษภาคม 2558