Page 1 of 1

ทีวีดิจิตอล 16 ช่องจ่ายเงินค่าประมูลงวด 2 แล้ว หลังกสทช.มีมต

Posted: 23 May 2015, 09:47
by brid.ladawan
ทีวีดิจิตอล 16 ช่องจ่ายเงินค่าประมูลงวด 2 แล้ว หลังกสทช.มีมติไม่เลื่อน

ทีวีดิจิตอล 16 ช่องจ่ายเงินค่าประมูลงวด 2 แล้ว หลังกสทช.มีมติไม่เลื่อน
16 ช่องทีวีดิจิตอล แห่จ่ายค่าใบอนุญาตงวดที่ 2 จำนวน 6,647.375 ล้านบาท หลังกสทช.มีมติไม่ให้เลื่อนจ่าย ทำให้ทุกช่องต้องจ่ายภายในวันที่ 25 พ.ค. ด้าน ‘อดิศักดิ์’ เผยผู้ประกอบการเกินครึ่งจ่ายจริงแต่ขอสงวนสิทธิ์ฟ้องร้องเพื่อขอการเยียวยาในฐานะที่ กสทช.ไม่ทำตามแผนแม่บทในการส่งเสริมผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ผลการประชุมกรรมการกสทช.วาระพิเศษ ในวันที่ 22 พ.ค. 58 มีมติไม่ให้เลื่อนจ่ายค่าประมูลทีวีดิจิตอลงวดที่ 2 ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดและสำนักงานตรวจเงินแผนดิน (สตง.) ตอบหนังสือกลับมา

โดยผู้ประกอบการทั้ง 24 ช่อง จะต้องยื่นชำระภายในวันที่ 25 พ.ค.58 ซึ่งหากยังมีผู้ประกอบการที่ไม่ดำเนินการชำระภายในวันดังกล่าว สำนักงาน กสทช.จะดำเนินการส่งหนังสือทวงถามไปยังผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล และจะต้องชำระเบี้ยปรับ 7.5% ต่อปี ซึ่งหลังจากนี้หากผู้ประกอบการยังไม่ดำเนินการชำระภายในระยะเวลาครบรอบ 1 ปี ในวันที่ 25 พ.ค.59 สำนักงาน กสทช.จะเสนอต่อที่ประชุมเพื่อพิจารณามาตรการขั้นต่อไป

ขณะเดียวกัน กสทช.เตรียมจะทำเรื่องเสนอต่อคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) เพื่อส่งต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ( คสช.) ขอดำเนินการเรื่องการจ่ายคูปองดิจิตอลที่ตกสำรวจคือบ้านที่ไม่มีเจ้าบ้านแต่มีคนอาศัย เช่น บ้านเช่า ด้วย ทำให้จากเดิมที่กสทช.แจกคูปองดิจิตอลครบแล้ว 14.1 ล้านใบ จะเพิ่มเป็น 22.8 ล้านใบ

‘ตอนนี้ คสช.อนุมัติ ขยายระยะหมดอายุของคูปองดิจิตอลที่แจกไปเมื่อเดือนต.ค.57 จากเดิมที่จะหมดอายุในวันที่ 31 พ.ค. 58 ให้ขยายระยะเวลาออกไปถึง 31 ก.ค. ดังนั้นจะทำให้ประชาชนที่ยังไม่ได้แลกอีกเกือบครึ่งจากที่เราแจกในล็อตนั้นไป 4.64 ล้านใบสามารถรอแลกกล่องไฮบริดที่จะวางตลาดในเดือนมิ.ย.นี้ได้’

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีทีวีดิจิตอล จำนวน 16 ช่อง เข้ามาชำระค่าประมูลงวด 2 แล้ว รวมมูลค่า 6,647.375 ล้านบาท ได้แก่ ช่องรายการทั่วไปความคมชัดสูง หรือ เอชดี ได้แก่ บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด (3HD) จำนวน 700.85 ล้านบาท ,บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด (PPTV) จำนวน 693.36 ล้านบาท ,บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด (7HD) จำนวน 683.730 ล้านบาท ,บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) (MCOT HD) จำนวน 680.52 ล้านบาท ,บริษัท อมรินทร์ เทเลวิชั่น จำกัด (อัมรินทร์ทีวี) จำนวน 678.38 ล้านบาท และบริษัท จีเอ็มเอ็ม เอชดี ดิจิทัล ทีวี จำกัด (One) จำนวน 678.38 ล้านบาท

ช่องรายการทั่วไปความคมชัดมาตรฐาน หรือ เอสดี ได้แก่ บริษัท ไทย บรอดคาสติ้ง จำกัด (Workpoint TV) จำนวน 333.30 ล้านบาท ,บริษัท ทรู ดีทีที จำกัด (True4u) จำนวน 329.02 ล้านบาท ,บริษัท จีเอ็มเอ็ม เอสดี ดิจิทัล ทีวี จำกัด (GMM 25) จำนวน 326.35 ล้านบาท ,บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด (3SD) จำนวน 324.74 ล้านบาท ,บริษัท โมโน บรอดคาซท์ จำกัด (Mono29) จำนวน 322.07 ล้านบาท ,บริษัท แบงคอก บิสสิเนส บรอดแคสติ้ง จำกัด (Now) จำนวน 316.72 ล้านบาท

ช่องข่าวสารและสาระ ได้แก่ บริษัท เอ็นบีซี เน็กซ์ วิชั่น จำกัด (เนชั่นทีวี) จำนวน 190.24 ล้านบาท และบริษัท ไทย นิวส์ เน็ตเวิร์ค จำกัด (TNN24) จำนวน 187.892 ล้านบาท ส่วนช่องเด็ก ครอบครัว และเยาวชน ได้แก่ บริษัท บีอีซี มัลติมีเดีย จำกัด (3 Family) จำนวน 101.22 ล้านบาท และบริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) (MCOT Family) จำนวน 100.58 ล้านบาท

ด้านนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม้ว่าผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลยินยอมจ่ายค่าประมูลตามกำหนดแต่ผู้ประกอบการเกินครึ่งต่างขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการฟ้องร้องกสทช.ต่อศาลปกครองต่อไปด้วย เนื่องจาก กสทช.ไม่ได้ดำเนินการตามแผนแม่บทที่ กสทช.กำหนด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขยายโครงข่าย การแจกคูปองดิจิตอล รวมถึงปัญหาการเรียงช่อง ที่ไม่เป็นไปตามแผน คาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์นี้แต่ละช่องอาจจะไปฟ้องที่ศาลปกครอง

ขณะที่นายปรีย์มน ปิ่นสกุล ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทขอสงวนสิทธิ์เพื่อดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลปกครอง เนื่องจากกสทช.ไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขและแผนแม่บทตามที่กสทช.กำหนด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขยายโครงข่าย การแจกคูปองดิจิตอล ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย โดยปัจจุบันบริษัทต้องแบกรับภาระดอกเบี้ย 60 ล้านบาท

ทีวีดิจิตอล 16 ช่องจ่ายเงินค่าประมูลงวด 2 แล้ว หลังกสทช.มีมติไม่เลื่อน


ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 22 พฤษภาคม 2558