ลดเป้าหมายเติบโตดัชนีหุ้นไทย
Posted: 26 May 2015, 10:17
ลดเป้าหมายเติบโตดัชนีหุ้นไทย
นางภรณี ทองเย็น อุปนายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน เปิดเผยผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์และผู้ลงทุนสถาบัน เกี่ยวกับแนวโน้มการลงทุน ว่า นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนีหุ้นไทยเดือน พ.ค.-ก.ค.จะอยู่ที่ 1,519 จุด และปรับขึ้นไปที่ 1,612 จุดในสิ้นปีนี้ นับว่าต่ำกว่าการคาดการณ์ครั้งก่อนเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา และคาดว่าในสิ้นปีนี้ ดัชนีหุ้นจะอยู่ที่ 1,670 จุด และสิ้นปี 2559 จะขึ้นไปอยู่ที่ 1,707 จุด ต่ำกว่าการสำรวจครั้งก่อนที่ว่าจะไปได้ถึง 1,804 จุด ส่วนการคาดการณ์ดัชนีหุ้น เป็นจุดสูงสุดของปีนี้ จะอยู่ที่เฉลี่ย 1,662 จุด ต่ำกว่าที่คาดการณ์ครั้งที่แล้วที่ 1,728 จุด ส่วนจุดต่ำสุดปีนี้ จะอยู่ที่ 1,423 จุด
ทั้งนี้ ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้น โดยปัจจัยบวกมาจากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐ แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย สภาพคล่องในตลาดเงิน ส่วนปัจจัยลบ คือการเมืองในประเทศ 83.3% ขณะที่เรื่องการประเมินกำไรต่อหุ้นของบริษัทจดทะเบียนเฉลี่ยปีนี้ และ ปีหน้า อยู่ที่ 96.8 บาท (ลดลงจากประมาณการครั้งก่อนที่ 107.0 บาท) และ 109.5 บาท ส่วนอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) ปีนี้ อยู่ที่เฉลี่ย 22.1% สูงกว่าคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 15.0% สำหรับปีหน้า คาดว่าอยู่ที่ 13%.
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 26 พ.ค. 2558
นางภรณี ทองเย็น อุปนายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน เปิดเผยผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์และผู้ลงทุนสถาบัน เกี่ยวกับแนวโน้มการลงทุน ว่า นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนีหุ้นไทยเดือน พ.ค.-ก.ค.จะอยู่ที่ 1,519 จุด และปรับขึ้นไปที่ 1,612 จุดในสิ้นปีนี้ นับว่าต่ำกว่าการคาดการณ์ครั้งก่อนเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา และคาดว่าในสิ้นปีนี้ ดัชนีหุ้นจะอยู่ที่ 1,670 จุด และสิ้นปี 2559 จะขึ้นไปอยู่ที่ 1,707 จุด ต่ำกว่าการสำรวจครั้งก่อนที่ว่าจะไปได้ถึง 1,804 จุด ส่วนการคาดการณ์ดัชนีหุ้น เป็นจุดสูงสุดของปีนี้ จะอยู่ที่เฉลี่ย 1,662 จุด ต่ำกว่าที่คาดการณ์ครั้งที่แล้วที่ 1,728 จุด ส่วนจุดต่ำสุดปีนี้ จะอยู่ที่ 1,423 จุด
ทั้งนี้ ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้น โดยปัจจัยบวกมาจากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐ แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย สภาพคล่องในตลาดเงิน ส่วนปัจจัยลบ คือการเมืองในประเทศ 83.3% ขณะที่เรื่องการประเมินกำไรต่อหุ้นของบริษัทจดทะเบียนเฉลี่ยปีนี้ และ ปีหน้า อยู่ที่ 96.8 บาท (ลดลงจากประมาณการครั้งก่อนที่ 107.0 บาท) และ 109.5 บาท ส่วนอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) ปีนี้ อยู่ที่เฉลี่ย 22.1% สูงกว่าคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 15.0% สำหรับปีหน้า คาดว่าอยู่ที่ 13%.
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 26 พ.ค. 2558