หวั่นโดนล้วงข้อมูล หลังพบกูเกิลจดสิทธิบัตร “ตุ๊กตาหมีไฮเทค”

Post Reply
brid.ladawan
Posts: 7045
Joined: 29 Mar 2013, 13:36

หวั่นโดนล้วงข้อมูล หลังพบกูเกิลจดสิทธิบัตร “ตุ๊กตาหมีไฮเทค”

Post by brid.ladawan »

หวั่นโดนล้วงข้อมูล หลังพบกูเกิลจดสิทธิบัตร “ตุ๊กตาหมีไฮเทค”

หวั่นโดนล้วงข้อมูล หลังพบกูเกิลจดสิทธิบัตร “ตุ๊กตาหมีไฮเทค”
พบทีมวิจัยและพัฒนาของ “กูเกิล” (Google) จดสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์สุดอึ้ง กับแนวคิด “อุปกรณ์ในรูปตุ๊กตาที่สามารถฟังคำสั่งเจ้านาย และสามารถส่งคำสั่งนั้นไปยังเซิร์ฟเวอร์เพื่อควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านได้”

โดยสิทธิบัตรดังกล่าวได้ถูกจดทะเบียนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.2012 ก่อนที่จะมีบริษัทกฎหมายในแวดวงเทคโนโลยีอย่าง SmartUp ไปพบเข้า และได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับสิทธิบัตรดังกล่าวของกูเกิลว่า เป็นแนวคิดที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดแนวคิดหนึ่งของกูเกิลเลยทีเดียว

โดยสิทธิบัตรดังกล่าวเป็นข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่มีรูปร่างคล้ายตุ๊กตาของเล่นเด็กที่มาพร้อมไมโครโฟน ลำโพง กล้อง และมอเตอร์ รวมถึงสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายได้ นอกจากนั้น ยังสามารถกำหนดคำเฉพาะที่สามารถเรียกให้ตุ๊กตา “ตื่น” ขึ้นมา และหันมารับคำสั่งจากเจ้าของได้ด้วย

ในเอกสารยังระบุด้วยว่า การโต้ตอบของตุ๊กตาอาจมีทั้งการโต้ตอบด้วยเสียงพูด และการแสดงท่าทางเหมือนมนุษย์ เช่น การ สบตา กะพริบตา เงยหน้าขึ้น เกาหัวตัวเอง ฯลฯ

แผนภาพยังแสดงให้เห็นถึงตัวหุ่นยนต์ที่อาจพัฒนาในรูปร่างของตุ๊กตาหมี หรือกระต่าย พร้อมด้วยข้อความที่เสนอทางเลือกว่า อาจอยู่ในรูปของสัตว์ประหลาด หรือมังกรก็ได้ด้วย อย่างไรก็ดี ในสิทธิบัตรระบุด้วยว่า หากพัฒนาให้อุปกรณ์มีหน้าตาน่ารักจะช่วยให้สมาชิกตัวน้อยในบ้านหันมาสนใจเล่นกับอุปกรณ์ชิ้นนี้มากขึ้น

นอกจากนี้ ในเอกสารยังเสนอการใช้งานของเล่นดังกล่าวว่าอาจใช้ในการควบคุมอุปกรณ์ภายในบ้าน เช่น ทีวี เครื่องเล่นดีวีดี แสงไฟ เครื่องปรับอุณหภูมิในบ้าน ฯลฯ ด้วย

แม้มุมของนักพัฒนาอาจมองตุ๊กตาหมีในแง่ของของเล่นอัจฉริยะ แต่ในมุมของนักกฎหมายจาก SmartUp กลับคิดตรงกันข้าม โดยเขามองว่า มันคล้ายกับภาพยนตร์สยองขวัญมากกว่า และมีความน่ากังวลใจเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวจากการใช้งานของเล่นดังกล่าวสูง

หวั่นโดนล้วงข้อมูล หลังพบกูเกิลจดสิทธิบัตร “ตุ๊กตาหมีไฮเทค”
“สิ่งที่น่ากังวลคือ ความสามารถในการบันทึกบทสนทนาของตุ๊กตา และเป้าหมายในการพัฒนาที่มุ่งเจาะกลุ่มเด็ก ซึ่งเด็กอาจนำไปเล่นในห้องส่วนตัว และอาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวบางอย่างหลุดลอดออกไปได้” Emma Carr ผู้อำนวยการของบริษัท กล่าว

นอกจากนั้น กลุ่ม The Center for Democracy and Technology ซึ่งคอยสอดส่องดูแลการใช้งานกฎหมายปกป้องเด็กในสหรัฐอเมริกา ก็ออกมาให้ความเห็นด้วยว่า พ่อแม่ในยุคต่อไปควรให้ความสำคัญต่อเทคโนโลยีที่กำลังจะมาถึงเป็นพิเศษ ไม่ว่ากูเกิลจะพัฒนาตุ๊กตาของเล่นดังกล่าวออกมาวางจำหน่ายหรือไม่ก็ตาม

“โดยทั่วไปแล้วเมื่อเทคโนโลยีมีความก้าวหน้า ตลาดจะนำเทคโนโลยีที่มีความเสถียรแล้วใส่ลงในสินค้า และนำออกวางจำหน่าย แต่สำหรับประเด็นเรื่องความเป็นส่วนตัวมันเป็นคนละเรื่องเลยทีเดียว”

“บริษัทที่มีสำนึกรับผิดชอบจะเข้าใจดีว่า พวกเขาต้องอธิบายได้ว่า อุปกรณ์เหล่านั้นจะทำอย่างไรกับข้อมูลบ้าง” Jens-Henrik Jeppesen ผู้อำนวยการของหน่วยงานดังกล่าวเผย

ด้านตัวแทนจากกูเกิลได้ออกมาเผยถึงสิทธิบัตรดังกล่าวว่า ไม่สามารถยืนยันได้ว่าสิ่งที่จดสิทธิบัตรนั้นจะได้รับการพัฒนา และออกวางจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ เนื่องจากการจดสิทธิบัตรนั้นมาจากความหลากหลายทางไอเดียของพนักงานของกูเกิล และมีเพียงบางสิทธิบัตรเท่านั้นที่กลายมาเป็นสินค้า หรือบริการในชีวิตจริง ในขณะที่บางอย่างไม่สามารถทำได้

อย่างไรก็ดี กูเกิลไม่ใช่บริษัทแรกที่หันมาสนใจตลาดของเล่นในลักษณะดังกล่าว เพราะก่อนหน้านี้ Amazon ก็เคยส่งตุ๊กตา Echo ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ช่วยสั่งอาหาร เช็กสภาพอากาศได้มาแล้ว หรือในกรณี Hello Barbie ตุ๊กตาสำหรับเด็กผู้หญิงที่มีระบบ Voice recognition และรองรับการเชื่อมต่อไว-ไฟ จากค่ายแมทเทล (Mattel) ก็เคยมีปรากฏ นั่นจึงเกิดเป็นแคมเปญรณรงค์ให้บริษัทผู้ผลิตของเล่นยุติการพัฒนาของเล่นเด็กบนแนวคิดดังกล่าวแล้ว และปัจจุบันมีผู้ร่วมลงชื่อแล้วกว่า 42,000 รายด้วย

หวั่นโดนล้วงข้อมูล หลังพบกูเกิลจดสิทธิบัตร “ตุ๊กตาหมีไฮเทค”


ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 25 พฤษภาคม 2558
Post Reply

Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”