ไมโครซอฟท์ติวเข้มร้านค้าปลีก ปรับเกมรุกก่อนคลอด'วินโดว์ส 8'
Posted: 06 Apr 2013, 15:07
ladawan
Hero Member
*****
Posts: 824
View Profile Email
ไมโครซอฟท์ติวเข้มร้านค้าปลีก ปรับเกมรุกก่อนคลอด'วินโดว์ส 8'
« on: November 28, 2012, 09:27:25 am »
ไมโครซอฟท์ติวเข้มร้านค้าปลีก ปรับเกมรุกก่อนคลอด'วินโดว์ส 8'
วันพุธที่ 24 ตุลาคม 2012 เวลา 12:32 น. กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ เศรษฐกิจโลก - คอลัมน์ : ตลาดต่างประเทศ
โดย ปกติแล้วที่ผ่านมา เมื่อไมโครซอฟท์พัฒนาซอฟต์แวร์ออกวางตลาด ไมโครซอฟท์จะปล่อยเรื่องของการขายให้เป็นการตัดสินใจของร้านค้าปลีก แต่ในครั้งนี้ สำหรับซอฟต์แวร์วินโดว์สเวอร์ชันใหม่ล่าสุด "วินโดว์ส 8"
ที่มีกำหนดออกวางตลาดในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ไมโครซอฟท์เลือกที่จะเข้ามาวางกลยุทธ์การขายคอมพิวเตอร์ด้วยตนเอง ทั้งวิธีการจัดวางสินค้าในร้าน ไปจนถึงวิธีการนำเสนอและอธิบายแก่ผู้บริโภค
นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังเร่งขยายสาขาร้านค้าปลีกของตนเพิ่มขึ้นถึงสองเท่าตัวเพื่อขาย สินค้าให้กับผู้บริโภคโดยตรง โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาไมโครซอฟท์เปิดร้านค้าแบบ "ป๊อปอัพ" ขึ้นถึง 34 แห่งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งโดยมากอยู่ในช็อปปิ้งมอลล์ เพื่อจัดแสดงผลิตภัณฑ์ในระบบวินโดว์ส 8 ซึ่งหนึ่งในจำนวนดังกล่าวคือแท็บเลตรุ่นใหม่จากไมโครซอฟท์ "เซอร์เฟซ" (Surface) ด้วย
ส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ค้าปลีกของไมโครซอฟท์สำหรับอุปกรณ์ระบบวินโดว์ส 8 คือ คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่จัดแสดงอยู่ในร้านค้าปลีกต่างๆ ในสหรัฐฯ จะต้องโชว์อี-เมล์ รูปถ่ายครอบครัว และข้อมูลการติดต่อของ "อัลลิสัน บราวน์" ซึ่งเป็นตัวละครที่ไมโครซอฟท์สร้างขึ้นมาเพื่อทำให้คอมพิวเตอร์ระบบวินโดว์ส ให้ความรู้สึกที่เป็นส่วนตัว
ไมโครซอฟท์และหุ้นส่วนทางธุรกิจอย่างอินเทล ได้ช่วยฝึกอบรมพนักงานขายในร้านค้าปลีกเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับฟีเจอร์ต่างๆ ของระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 8 ขณะเดียวกันไมโครซอฟท์ทำงานร่วมกับกับเบสต์บาย เชนค้าปลีกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของสหรัฐฯ ในด้านการจัดแสดงสินค้า เพื่อชักจูงให้ลูกค้าเข้ามาชมและทดลองอุปกรณ์ใหม่เพิ่มมากขึ้น เบสต์บายกล่าวว่า ได้ขยายพื้นที่ร้านสำหรับจัดแสดงคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นประมาณ 7-12%
วินโดว์ส 8 มีหน้าตาและการทำงานที่แตกต่างไปจากวินโดว์สเวอร์ชันก่อนๆ โดยผลิตภัณฑ์ระบบวินโดว์ส 8 จะมีความหลากหลายทางด้านฮาร์ดแวร์มากขึ้น ซึ่งรวมถึงคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปและเดสก์ท็อปที่มาพร้อมหน้าจอทัชสกรีน แท็บเลตลักษณะคล้ายกับไอแพด รวมถึงอุปกรณ์ลูกผสมที่สามารถหมุนหรือถอดคีย์บอร์ดออกจากหน้าจอได้ เป็นต้น ซึ่งทางเลือกใหม่ๆ ที่แตกต่างออกไปเหล่านี้ทำให้ต้องมีการจัดการแสดงสินค้าหน้าร้านใหม่
คริส แคพอสเซลา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของไมโครซอฟท์ กล่าวว่าบริษัทเรียนรู้จากความล้มเหลวที่เกิดขึ้นกับร้านค้าปลีกของตนเอง ที่เคยจัดเรียงคอมพิวเตอร์ตามลำดับขนาดหน้าจอ ซึ่งเป็นลักษณะการจัดวางสินค้าที่ไม่ถูกใจผู้บริโภค เวลานี้ในร้านค้าปลีกบางแห่ง คอมพิวเตอร์ระบบไมโครซอฟท์จะถูกจัดวางโดยแบ่งกลุ่มตามลักษณะการใช้งาน เช่น คอมพิวเตอร์สำหรับเล่นเกม ซึ่งจะมีโพรเซสเซอร์ที่เร็วกว่าคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานทั่วไป คอมพิวเตอร์สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ซึ่งมีราคาขายไม่แพงมากและมีเป้าหมายเป็นกลุ่มลูกค้าครอบครัว เป็นต้น
แม้ว่าการช็อปปิ้งสินค้าทางอินเตอร์เน็ตจะกำลังได้รับความนิยม แต่ผลการวิจัยจากไอดีซีพบว่า ประมาณ 58% ของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (พีซี) ในสหรัฐฯ ที่จำหน่ายเมื่อปีก่อนเป็นการจำหน่ายผ่านทางร้านค้า ไมโครซอฟท์และพันธมิตรทางธุรกิจเชื่อว่า อุปกรณ์ใหม่ที่จะมาพร้อมกับวินโดว์ส 8 จะต้องนำมาแสดงให้ผู้บริโภคได้เห็น สัมผัส และอธิบายกันจริงๆ
เบสต์บายกล่าวว่าได้ทุ่มเทเวลาประมาณ 50,000 ชั่วโมงในการฝึกอบรมพนักงานขายและพนักงานฝ่ายบริการด้านเทคนิคในการใช้งาน วินโดว์ส 8 ร้านค้าแต่ละแห่งของเบสต์บายจะมีพนักงานผู้เชี่ยวชาญอย่างน้อยหนึ่งคนที่ ผ่านการฝึกอบรมอย่างลึกซึ้งกว่าพนักงานทั่วไป นอกจากนี้ประมาณ 20% ของร้านค้า 1,100 สาขาในสหรัฐฯ จะมีพนักงานจากไมโครซอฟท์มาประจำการอยู่ด้วย
"อาจจะมีลูกค้าที่หงุดหงิดใจมากขึ้นเพราะความไม่คุ้นเคยกับอุปกรณ์ แต่พนักงานของเราจะอยู่ตรงนั้นเพื่อให้คำแนะนำแก่พวกเขา" เจสัน บอนฟิก รองประธานฝ่ายคอมพิวเตอร์ของเบสต์บาย กล่าว ขณะที่ไมโครซอฟท์ได้ตั้งข้อกำหนดไว้ว่า ถ้าพนักงานขายมีเวลาเพียง 3 นาทีกับลูกค้า พนักงานขายจะต้องแนะนำฟีเจอร์ในวินโดว์ส 8 ที่ลูกค้าไม่คุ้นเคยให้ได้ 4-5 ฟีเจอร์
ไมโครซอฟท์ยังตามหลังคู่แข่งอย่าง แอปเปิล อยู่มากในเรื่องของการสร้างเครือข่ายร้านค้าปลีกของตนเอง โดยนับตั้งแต่ปี 2552 ไมโครซอฟท์เปิดร้านค้า 27 แห่ง และกำลังอยู่ในขั้นตอนการวางแผนอีก 4 แห่ง ส่วนแอปเปิลมีร้านค้าปลีก 393 สาขา ทำรายได้ให้กับบริษัทในช่วงเดือนตุลาคม 2554 ถึงมิถุนายน 2555 เป็นมูลค่า 1.46 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 12% ของรายได้รวมของบริษัทในช่วงดังกล่าว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 32 ฉบับที่ 2,786 วันที่ 25-27 ตุลาคม พ.ศ. 2555
Hero Member
*****
Posts: 824
View Profile Email
ไมโครซอฟท์ติวเข้มร้านค้าปลีก ปรับเกมรุกก่อนคลอด'วินโดว์ส 8'
« on: November 28, 2012, 09:27:25 am »
ไมโครซอฟท์ติวเข้มร้านค้าปลีก ปรับเกมรุกก่อนคลอด'วินโดว์ส 8'
วันพุธที่ 24 ตุลาคม 2012 เวลา 12:32 น. กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ เศรษฐกิจโลก - คอลัมน์ : ตลาดต่างประเทศ
โดย ปกติแล้วที่ผ่านมา เมื่อไมโครซอฟท์พัฒนาซอฟต์แวร์ออกวางตลาด ไมโครซอฟท์จะปล่อยเรื่องของการขายให้เป็นการตัดสินใจของร้านค้าปลีก แต่ในครั้งนี้ สำหรับซอฟต์แวร์วินโดว์สเวอร์ชันใหม่ล่าสุด "วินโดว์ส 8"
ที่มีกำหนดออกวางตลาดในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ไมโครซอฟท์เลือกที่จะเข้ามาวางกลยุทธ์การขายคอมพิวเตอร์ด้วยตนเอง ทั้งวิธีการจัดวางสินค้าในร้าน ไปจนถึงวิธีการนำเสนอและอธิบายแก่ผู้บริโภค
นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังเร่งขยายสาขาร้านค้าปลีกของตนเพิ่มขึ้นถึงสองเท่าตัวเพื่อขาย สินค้าให้กับผู้บริโภคโดยตรง โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาไมโครซอฟท์เปิดร้านค้าแบบ "ป๊อปอัพ" ขึ้นถึง 34 แห่งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งโดยมากอยู่ในช็อปปิ้งมอลล์ เพื่อจัดแสดงผลิตภัณฑ์ในระบบวินโดว์ส 8 ซึ่งหนึ่งในจำนวนดังกล่าวคือแท็บเลตรุ่นใหม่จากไมโครซอฟท์ "เซอร์เฟซ" (Surface) ด้วย
ส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ค้าปลีกของไมโครซอฟท์สำหรับอุปกรณ์ระบบวินโดว์ส 8 คือ คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่จัดแสดงอยู่ในร้านค้าปลีกต่างๆ ในสหรัฐฯ จะต้องโชว์อี-เมล์ รูปถ่ายครอบครัว และข้อมูลการติดต่อของ "อัลลิสัน บราวน์" ซึ่งเป็นตัวละครที่ไมโครซอฟท์สร้างขึ้นมาเพื่อทำให้คอมพิวเตอร์ระบบวินโดว์ส ให้ความรู้สึกที่เป็นส่วนตัว
ไมโครซอฟท์และหุ้นส่วนทางธุรกิจอย่างอินเทล ได้ช่วยฝึกอบรมพนักงานขายในร้านค้าปลีกเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับฟีเจอร์ต่างๆ ของระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 8 ขณะเดียวกันไมโครซอฟท์ทำงานร่วมกับกับเบสต์บาย เชนค้าปลีกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของสหรัฐฯ ในด้านการจัดแสดงสินค้า เพื่อชักจูงให้ลูกค้าเข้ามาชมและทดลองอุปกรณ์ใหม่เพิ่มมากขึ้น เบสต์บายกล่าวว่า ได้ขยายพื้นที่ร้านสำหรับจัดแสดงคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นประมาณ 7-12%
วินโดว์ส 8 มีหน้าตาและการทำงานที่แตกต่างไปจากวินโดว์สเวอร์ชันก่อนๆ โดยผลิตภัณฑ์ระบบวินโดว์ส 8 จะมีความหลากหลายทางด้านฮาร์ดแวร์มากขึ้น ซึ่งรวมถึงคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปและเดสก์ท็อปที่มาพร้อมหน้าจอทัชสกรีน แท็บเลตลักษณะคล้ายกับไอแพด รวมถึงอุปกรณ์ลูกผสมที่สามารถหมุนหรือถอดคีย์บอร์ดออกจากหน้าจอได้ เป็นต้น ซึ่งทางเลือกใหม่ๆ ที่แตกต่างออกไปเหล่านี้ทำให้ต้องมีการจัดการแสดงสินค้าหน้าร้านใหม่
คริส แคพอสเซลา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของไมโครซอฟท์ กล่าวว่าบริษัทเรียนรู้จากความล้มเหลวที่เกิดขึ้นกับร้านค้าปลีกของตนเอง ที่เคยจัดเรียงคอมพิวเตอร์ตามลำดับขนาดหน้าจอ ซึ่งเป็นลักษณะการจัดวางสินค้าที่ไม่ถูกใจผู้บริโภค เวลานี้ในร้านค้าปลีกบางแห่ง คอมพิวเตอร์ระบบไมโครซอฟท์จะถูกจัดวางโดยแบ่งกลุ่มตามลักษณะการใช้งาน เช่น คอมพิวเตอร์สำหรับเล่นเกม ซึ่งจะมีโพรเซสเซอร์ที่เร็วกว่าคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานทั่วไป คอมพิวเตอร์สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ซึ่งมีราคาขายไม่แพงมากและมีเป้าหมายเป็นกลุ่มลูกค้าครอบครัว เป็นต้น
แม้ว่าการช็อปปิ้งสินค้าทางอินเตอร์เน็ตจะกำลังได้รับความนิยม แต่ผลการวิจัยจากไอดีซีพบว่า ประมาณ 58% ของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (พีซี) ในสหรัฐฯ ที่จำหน่ายเมื่อปีก่อนเป็นการจำหน่ายผ่านทางร้านค้า ไมโครซอฟท์และพันธมิตรทางธุรกิจเชื่อว่า อุปกรณ์ใหม่ที่จะมาพร้อมกับวินโดว์ส 8 จะต้องนำมาแสดงให้ผู้บริโภคได้เห็น สัมผัส และอธิบายกันจริงๆ
เบสต์บายกล่าวว่าได้ทุ่มเทเวลาประมาณ 50,000 ชั่วโมงในการฝึกอบรมพนักงานขายและพนักงานฝ่ายบริการด้านเทคนิคในการใช้งาน วินโดว์ส 8 ร้านค้าแต่ละแห่งของเบสต์บายจะมีพนักงานผู้เชี่ยวชาญอย่างน้อยหนึ่งคนที่ ผ่านการฝึกอบรมอย่างลึกซึ้งกว่าพนักงานทั่วไป นอกจากนี้ประมาณ 20% ของร้านค้า 1,100 สาขาในสหรัฐฯ จะมีพนักงานจากไมโครซอฟท์มาประจำการอยู่ด้วย
"อาจจะมีลูกค้าที่หงุดหงิดใจมากขึ้นเพราะความไม่คุ้นเคยกับอุปกรณ์ แต่พนักงานของเราจะอยู่ตรงนั้นเพื่อให้คำแนะนำแก่พวกเขา" เจสัน บอนฟิก รองประธานฝ่ายคอมพิวเตอร์ของเบสต์บาย กล่าว ขณะที่ไมโครซอฟท์ได้ตั้งข้อกำหนดไว้ว่า ถ้าพนักงานขายมีเวลาเพียง 3 นาทีกับลูกค้า พนักงานขายจะต้องแนะนำฟีเจอร์ในวินโดว์ส 8 ที่ลูกค้าไม่คุ้นเคยให้ได้ 4-5 ฟีเจอร์
ไมโครซอฟท์ยังตามหลังคู่แข่งอย่าง แอปเปิล อยู่มากในเรื่องของการสร้างเครือข่ายร้านค้าปลีกของตนเอง โดยนับตั้งแต่ปี 2552 ไมโครซอฟท์เปิดร้านค้า 27 แห่ง และกำลังอยู่ในขั้นตอนการวางแผนอีก 4 แห่ง ส่วนแอปเปิลมีร้านค้าปลีก 393 สาขา ทำรายได้ให้กับบริษัทในช่วงเดือนตุลาคม 2554 ถึงมิถุนายน 2555 เป็นมูลค่า 1.46 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 12% ของรายได้รวมของบริษัทในช่วงดังกล่าว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 32 ฉบับที่ 2,786 วันที่ 25-27 ตุลาคม พ.ศ. 2555