Page 1 of 1

ไอซีทีตั้งคณะกรรมการเขียนสัญญาใหม่กำหนดสถานะไอพีสตาร์

Posted: 27 May 2015, 09:06
by brid.ladawan
ไอซีทีตั้งคณะกรรมการเขียนสัญญาใหม่กำหนดสถานะไอพีสตาร์

ไอซีทีตั้งคณะกรรมการเขียนสัญญาใหม่กำหนดสถานะไอพีสตาร์
นายพรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)
'พรชัย' ตั้งคณะกรรมการเจรจาสางปัญหาดาวเทียมร่วมกับไทยคมแล้ว 3 คน ตั้งรักษาการปลัดไอซีที นั่งหัวโต๊ะ ชี้ต้องเร่งเคลียร์สถานะไทยคม 4 ให้จบ ภายในกลางปี พร้อมเขียนสัญญาใหม่บนสัมปทาน รองรับการจ่ายส่วนแบ่งรายได้ต้องไม่น้อยกว่าเดิม

นายพรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เซ็นแต่งตั้งผู้แทนจากกระทรวงไอซีทีจำนวน 3 คนโดยมีรักษาการปลัดกระทรวงไอซีที คนใหม่นางทรงพร โกมลสุรเดช ทำหน้าที่เป็นประธาน ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้มีหน้าที่เจรจาปัญหาดาวเทียมทั้งหมดที่ไอซีทีดำเนินการร่วมกับ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรอทางไทยคมส่งผู้แทนมาร่วมอีก 3 คนก็จะครบองค์ประชุมและสามารถดำเนินการได้เจรจาได้ทันที คาดว่าภายในครึ่งปีแรกจะได้ข้อสรุป

ปัญหาเบื้องต้นที่ไอซีทีต้องการให้ได้ข้อยุติร่วมกันโดยเร็วที่สุดคือ กรณีของดาวเทียมไทยคม 4 (ไอพีสตาร์) ซึ่งยังมีการแก้ไขไม่เรียบร้อย กรณีสัมปทานดาวเทียม หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบผลการดำเนินงานหลังคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีการดำเนินงานให้เป็นไปตามสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 58 ที่ผ่านมา มีประเด็นในการดำเนินการ 3 เรื่อง ได้แก่ 1. กรณีเงินค่าสินไหมทดแทนจากการที่ดาวเทียมไทยคม 3 เกิดความเสียหาย จำนวน 6,765,299 ดอลลาร์สหรัฐ มีข้อยุติตามความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุดว่า กระทรวงไอซีทีและไทยคมปฏิบัติถูกต้องตามสัญญา 2. กรณีอนุมัติดาวเทียมไอพีสตาร์โดยมิชอบ และ 3. กรณีการอนุมัติแก้ไขสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมฯ ครั้งที่ 5 โดยลดสัดส่วนการถือหุ้นของอินทัช กรุ๊ป หรือ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในครั้งนั้น จากไม่น้อยกว่า 51% เป็นไม่น้อยกว่า 40%

ทั้งนี้ ปัญหาของไอพีสตาร์ที่ผ่านมามีการโต้แย้งมาตลอดว่าไอพีสตาร์ไม่ใช่ดาวเทียมสำรองไทยคม 3 เพราะสเป็กของดาวเทียมต่างกันจึงทำให้มีสถานะเป็นดาวเทียมนอกสัญญามาตลอด แต่ในขณะเดียวกัน กระทรวงไอซีทีก็รับส่วนแบ่งรายได้ที่ไอพีสตาร์ส่งให้ทุกปีในอัตรา 20% ของรายได้จนถึงขณะนี้คาดว่าอยู่ที่ 2,000 ล้านบาทแล้ว ดังนั้น ไอซีทีจึงต้องการทำให้สถานะของไอพีสตาร์ชัดเจนมากขึ้น โดยต้องการให้เป็นดาวเทียมอีกดวงในสัมทปาน ส่วนเรื่องส่วนแบ่งรายได้ตามสัญญาสัมปทานเดิมที่ต้องจ่ายให้กับไอซีทีก็จะเขียนสัญญาขึ้นมาใหม่ให้อยู่ในอัตราที่ไม่น้อยกว่าเดิมที่เคยจ่ายให้ไอซีที ซึ่งไอพีสตาร์จะมีสัญญากับไอซีทีไปจนถึงปี 2564

สำหรับแนวทางในการหารือของคณะกรรมการชุดดังกล่าว เพื่อไปจัดทำแผนกิจการอวกาศโดยแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ 1.กำหนดทิศทางการบริหารวงโคจรดาวเทียมที่ปัจจุบันมีอยู่ทั้งสิ้น 6 วงโคจร ซึ่งมีทั้งที่ใช้งานอยู่และหมดอายุไปแล้ว โดยคณะกรรมการที่ร่างแผนงานนั้นจะพิจารณาดูว่าจะมีวิธีใดที่ทำให้ประเทศได้ประโยชน์สูงสุด 2.แนวทางการจัดการกับดาวเทียมไอพีสตาร์ตามที่เคยมีคำสั่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่เคยพิพากษาให้เป็นดาวเทียมนอกสัญญาสัมปทานเพราะเป็นดาวเทียมที่สร้างมาทดแทนไทยคม 3 ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการสรุปว่าจะทำอย่างไรกับดาวเทียมดวงดังกล่าว จึงต้องการหาข้อสรุปให้ได้เร็วที่สุด และ 3.การจัดทำดาวเทียมสื่อสารแห่งชาติ เพื่อให้บริการความมั่นคงและบริการสาธารณะโดยมอบหมายให้คณะกรรมการกิจการอวกาศแห่งชาติไปศึกษาความเป็นไปได้ของการสร้างดาวเทียมภาครัฐ 1 ดวง เพื่อให้บริการความมั่นคง และสาธารณะ


ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 27 พฤษภาคม 2558