จีนลดภาษีนำเข้าสินค้าสำหรับผู้บริโภค ผ้าอ้อม ครีมบำรุงผิวราค

[brid.ladawan]

จีนลดภาษีนำเข้าสินค้าสำหรับผู้บริโภค ผ้าอ้อม ครีมบำรุงผิวราคาถูกลงเดือนหน้า

จีนลดภาษีนำเข้าสินค้าสำหรับผู้บริโภค ผ้าอ้อม ครีมบำรุงผิวราคาถูกลงเดือนหน้า
ผู้บริโภคในจีนจ่ายเงินซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยมากกว่าผู้บริโภคในยุโรปถึงราวร้อยละ 20 – รอยเตอร์
เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - จีนเตรียมลดภาษีนำเข้าสินค้าสำหรับผู้บริโภค อาทิ ครีมบำรุงผิว เสื้อผ้าจากตะวันตก และผ้าอ้อม โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2558 เป็นต้นไป

จากการแถลงของกระทรวงการคลังจีนเมื่อวันจันทร์ ( 25 พ.ค.) จะมีการปรับลดการจัดเก็บภาษีนำเข้าโดยเฉลี่ยกว่าร้อยละ 50 ซึ่งเป็นการตัดสินใจ ภายหลังจากรัฐบาลประกาศเมื่อเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา ว่าจะลดสินค้าสำหรับผู้บริโภคบางประเภท เพื่อกระตุ้นการบริโภคบนแดนมังกร และเร่งหนุนเศรษฐกิจ ที่ยังซบเซา ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งมีฐานะร่ำรวย พากันใช้จ่ายเงินทองอย่างฟุ่มเฟือยในต่างประเทศ

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้น หลังจากอัตราการเติบโตช่วงไตรมาสแรกในปีนี้ของเศรษฐกิจจีน ซึ่งมีขนาดใหญ่อันดับ 2 ในโลก ชะลอต่ำสุดในรอบ 6 ปีมาอยู่ที่ร้อยละ 7 ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะซบเซาในตลาดอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งในด้านการลงทุนและการผลิต

บริษัทที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าว เช่นบริษัทพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล ซึ่งเป็นผู้ผลิตผ้าอ้อม บริษัทยูนิชาร์มของญี่ปุ่น บริษัทผู้ผลิตรองเท้าไนกี้ของสหรัฐฯ และบริษัทเครื่องสำอางลอรีอัล

ทั้งนี้ ผู้บริโภคจีนมักบ่นเรื่องที่ต้องซื้อสินค้าจากต่างประเทศในราคาแพงกว่าในตลาดอื่น ซึ่งส่วนหนึ่งมีสาเหตุจากการเก็บภาษีนำเข้าในอัตราที่สูง โดยนักวิเคราะห์ชี้ว่า ผู้บริโภคในจีนต้องจ่ายเงินซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยมากกว่าผู้บริโภคในยุโรปถึงราวร้อยละ 20

กระทรวงการคลังของจีนระบุว่า นับจากนี้ ภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าเสื้อผ้าและเสื้อขนสัตว์จากชาติตะวันตกจะลดลงเหลือระหว่างร้อยละ 7-10 จากปัจจุบันร้อยละ 14-23 รองเท้าบูทหุ้มข้อและรองเท้ากีฬาปรับลดลงครึ่งหนึ่งเหลือร้อยละ 12 ส่วนผ้าอ้อมและครีมบำรุงผิวลดเหลือร้อยละ 2 จากร้อยละ 7.5 และร้อยละ 5 ตามลำดับ

นอกจากนั้น กระทรวงการคลังยังทิ้งท้ายด้วยว่า สินค้าเหล่านี้ผู้บริโภคชาวจีนที่ไปต่างประเทศพากันหาซื้อเป็นจำนวนมาก และเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคต้องการซื้ออย่างยิ่ง ฉะนั้น การปรับลดอัตราภาษีนำเข้าจึงน่าจะส่งผลดีในการเพิ่มการนำเข้า และช่วยพัฒนาการบริโภคภายในประเทศจีนอีกด้วย


ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 27 พฤษภาคม 2558