Page 1 of 1

บลจ.อมุนดิชี้เป้าบอนด์โรตี แนะปรับกลยุทธ์ลงทุน

Posted: 04 Jun 2015, 17:07
by brid.ladawan
บลจ.อมุนดิชี้เป้าบอนด์โรตี แนะปรับกลยุทธ์ลงทุน

บลจ.อมุนดิชี้เป้าบอนด์โรตี แนะปรับกลยุทธ์ลงทุน
รูปประกอบจากอินเตอร์เน็ต
“อมุนดิ” บิ๊กบริษัทจัดการลงทุนฝรั่งเศส แนะปรับลงทุนตราสารหนี้ ลดน้ำหนักสหรัฐฯ-อังกฤษ ระบุต้องปรับกลยุทธ์ลงทุนเพิ่มหุ้นกู้และอัตราแลกเปลี่ยนหลังอัตราดอกเบี้ยทรงตัวในระดับต่ำ ขณะที่การลงทุนเอเชียน่าสน อินเดียนำโด่งมีส่วนต่างทำกำไรตราสารหนี้ได้ ส่วนไทยอาจปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25%

มร.เอเดรียน เบนเดอร์ ผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์ตราสารหนี้โลกและอัตราแลกเปลี่ยนบริษัทจัดการลงทุน (บลจ.) อมุนดิ ฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาวะตลาดตราสารหนี้โลกมีการเปลี่ยนแปลงและถือว่าเป็นช่วงยากลำบากสำหรับนักลงทุนในการสร้างผลตอบแทนได้สูงเหมือนในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งหากดูตัวเลขผลตอบแทนตราสารหนี้ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วจะเห็นได้ว่ามีอัตราผลตอบแทนติดลบหากนักลงทุนถือจนครบอายุตราสารหนี้

ทั้งนี้ หากดูจากการลงทุนตราสารหนี้ของประเทศเยอรมนีและสเปน ซึ่งจากเดิมประมาณ 2-3 ปีถ้าลงทุนในมันนีมาร์เกตจะได้ผลตอบแทนประมาณ 2-3% ซึ่งเมื่อรวมกับราคาของตราสารที่เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1% แล้วผลตอบแทนรวมจะอยู่ที่ประมาณ 4% แต่ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยแค่ 2% จึงเป็นเรื่องยากที่จะหากำไรจากราคาตราสารหนี้อีก 2% เพื่อให้ได้ผลตอบแทนเท่าที่ผ่านมา

“การลงทุนในช่วงนี้จึงต้องมีการปรับกลยุทธ์มากขึ้น และจะต้องหาหนทางเพิ่มผลตอบแทนมากกว่าการเป็นผู้ถือบอนด์ธรรมดา”

มร.เอเดรียน กล่าวอีกว่า สำหรับกลยุทธ์ที่กองทุนเราใช้อยู่ปัจจุบันจะแบ่งออกเป็น 3 ด้าน คือ 1. การเลือกบอนด์ 2. การหาส่วนต่างของบอนด์ 3. การลงทุนในอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งจะสามารถเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนได้ โดยการเลือกบอนด์จะเน้นลงทุนในประเทศที่มีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไม่มากนัก มีอัตราการว่างงานสูง และมีเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ ซึ่งจะเป็นที่มาของการลดอัตราดอกเบี้ย และส่งผลให้ตราสารหนี้มีราคาเพิ่มขึ้นจากเดิม

“ตอนนี้พอร์ตที่เราลงทุนจะลดน้ำหนักสหรัฐฯ และอังกฤษน้อยลง เนื่องจากมีแนวโน้มในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่เราจะให้น้ำหนักประเทศที่มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างออสเตรเลีย และแคนาดา ซึ่งจะส่งผลให้แนวโน้มของราคาตราสารหนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปด้วย”

นอกจากการเลือกลงทุนและหาผลตอบแทนจากส่วนต่างของบอนด์แล้วกองทุนยังต้องเพิ่มการเลือกบอนด์ด้วยการเพิ่มการลงทุนในหุ้นกู้เอกชนมากขึ้น เนื่องจากหุ้นกู้เอกชนบางตัวจะมีราคาถูกกว่าในอันดับความน่าเชื่อถือเดียวกัน เช่น หุ้นกู้ของบริษัทในสหรัฐอเมริกาที่มีความน่าเชื่อถือในระดับสูงแต่ไปออกในสกุลยูโร เป็นต้น

ส่วนการลงทุนในอัตราแลกเปลี่ยนนั้นถึงแม้จะมีความเสี่ยงแต่กองทุนที่เราดูจะเน้นลงทุนในสกุลเงินที่มีสภาพคล่องสูง และมีทางเลือกให้ลงทุนหลากหลาย ซึ่งเราจะวิเคราะห์ตามแนวโน้มของค่าเงิน โดยจะดูเป็นรายประเทศ เนื่องจากบางประเทศอาจจะมีแนวโน้มของการลดอัตราดอกเบี้ย แต่ค่าเงินอาจอ่อนค่าในอนาคตบริษัทก็จะต้องทำการป้องกันความเสี่ยงไว้ ซึ่งแสดงว่าบางครั้งการลงทุนของเราอาจชอบบอนด์แต่ไม่ชอบค่าเงิน หรือชอบแนวโน้มของค่าเงินแต่ไม่ชอบบอนด์ที่ลงทุนก็ได้

ด้าน มร.เรย์มอนด์ ลิม ผู้อำนวยการและหัวหน้าฝ่ายตราสารหนี้เอเชีย บริษัทจัดการลงทุน (บลจ.) อมุนดิ เอเชีย กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศในกลุ่มเอเชียที่น่าสนใจลงทุนในตราสารหนี้ประกอบด้วย อินเดีย จีน และอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจที่ดี และมีแนวโน้มในการลดดอกเบี้ยลงอีก

ส่วนไทยถึงแม้จะมีแนวโน้มการลดดอกเบี้ยแต่คาดว่าจะไม่สามารถปรับลดลงไปได้มากกว่านี้แล้วทำให้โอกาสในการทำกำไรจากราคาตราสารหนี้ไม่สูงมากนัก ซึ่งคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับลดลงได้อีกประมาณ 0.25% และอาจปรับลดทันทีในการประชุมของธนาคารกลางครั้งถัดไป

อย่างไรก็ตาม สำหรับ 3 ประเทศที่กล่าวไปข้างต้น บริษัทจะให้น้ำหนักการลงทุนตราสารหนี้ของประเทศอินเดียมากสุด เนื่องจากมองว่าอินเดียมีโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้อีกมาก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันยังอยู่ในระดับสูง และอัตราเงินเฟ้อเริ่มปรับตัวลดลงแล้วจากเดิมที่เคยอยู่สูงถึงระดับ 10% นอกจากนี้ยังพบว่าเศรษฐกิจของอินเดียกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องหลังจากปรับตัวลดลงในปี 2013

“เรามองอยู่ว่าจะปรับเพิ่มพอร์ตการลงทุนในอินเดีย เพราะนอกจากจะได้เรื่องของเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยที่น่าจะปรับตัวลดลงแล้ว ด้านค่าเงินรูปีเองยังมีแนวโน้มแข็งค่ากว่าค่าเงินในภูมิภาคเดียวกันจากความได้เปรียบด้านทุนสำรองระหว่างประเทศที่มีอยู่ในระดับสูง”


ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 2 มิถุนายน 2558