รับเหมาตึกสูงขาดตลาด “เมเจอร์ฯ” ดึงอิสราเอลลุยก่อสร้าง
Posted: 04 Jun 2015, 17:13
รับเหมาตึกสูงขาดตลาด “เมเจอร์ฯ” ดึงอิสราเอลลุยก่อสร้าง
รับเหมาตึกสูงขาดตลาด “เมเจอร์ฯ” ดึงอิสราเอลลุยก่อสร้าง
MJD จับมือ Danya บริษัทก่อสร้าง อิสราเอล ตั้งบริษัทร่วมทุน “TMDC” บุกตลาดก่อสร้างอาคารสูงไทย ชี้โครงการอาคารสูงเกิดใหม่ในปัจจุบัน-อนาคตขยายตัวสูง ขณะที่บริษัทรับเหมาที่สามารถก่อสร้างโครงการสูงพิเศษในประเทศมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ แจง 3 ปีแรกเน้นรับงานน้อย หวังสร้างชื่อก่อนขยายตลาดในอนาคต ด้าน “แม่น้ำเรสซิเดนท์ฯ” จับมือ “แสงฟ้า” พัฒนามาตรฐานวงการก่อสร้างอาคารสูงพิเศษเทียบสากล พร้อมจัดทำห้องแล็บรูม (LAB Room) เปิดประสบการณ์การบริหารจัดการด้านวิศวกรรมต่อสาธารณะ
ดร.สุริยา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมเจอร์ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD ในฐานะกรรมการบริหาร บริษัท ทีเอ็มดีซี คอนสทรัคชั่น จำกัด กล่าวว่า ภายหลังจากเมเจอร์ฯ และบริษัท Danya Cebus Construction บริษัทรับเหมาก่อสร้างจากประเทศอิสราเอล ได้ร่วมกันศึกษาตลาดก่อสร้างในประเทศไทยนานกว่า 10 เดือน พบว่า ด้วยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศไทยที่มีความแข็งแกร่ง มีการขยายตัวที่ไม่ร้อนแรงเกินไป ดังนั้น เศรษฐกิจไทยจึงมีความมั่นคงสูง ซึ่งเป็นผลมาจากบทเรียนวิกฤตเศรษฐกิจในปี 40 ที่ผ่านมา ทำให้แนวโน้มอนาคตเศรษฐกิจไทยจะยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดงานก่อสร้างขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก
ดังนั้น เมเจอร์ฯ และ Danya จึงตกลงก่อตั้งบริษัทร่วมทุน ทีเอ็มดีซี คอนสตรัคชั่น จำกัด หรือ TMDC โดยมีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท โดยเมเจอร์ถือหุ้น 51% และ Danya ถือหุ้น 49% เพื่อรับงานก่อสร้างอาคารสูง และโครงการที่อยู่อาศัย รวมถึงงานโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐในอนาคต ทั้งนี้ จากผลการศึกษาตลาดในช่วงที่ผ่านมายังพบว่า ในประเทศไทยมีงานก่อสร้างโครงการอาคารสูง เช่น คอนโดมิเนียมไฮไรส์ อาคารสำนักงาน โรงแรม และห้างสรรพสินค้า เกิดขึ้นจำนวนมาก และมีแนวโน้มจะเกิดโครงการอาคารสูงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่บริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีความสามารถในการก่อสร้างอาคารสูงในประเทศมีจำนวนจำกัด ไม่สามารถรองรับความต้องการด้านงานก่อสร้างที่เกิดขึ้นจำนวนมากได้อย่างครอบคลุม
“การร่วมทุนในครั้งนี้จะช่วยยกระดับมาตรฐานงานก่อสร้างในประเทศไทย และยังเป็นการเพิ่มบริษัทรับเหมาก่อสร้างเข้ามารองรับงานใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จุดแข็งของ TMDC คือ ระบบการบริหารจัดการที่มีมาตรฐานระดับโลก คุณภาพงานก่อสร้างที่มีมาตรฐานสูง และความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน ซึ่งทั้ง 2 บริษัทมีความพร้อม โดยในการทำตลาดของTMDC ในช่วงแรกได้นำจุดแข็งทั้ง 3 ข้อ มากำหนดเป็นกลยุทธ์ในการทำตลาด โดยเน้นคุณภาพงานก่อสร้างและมีมาตรฐานในราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่ง”
ทั้งนี้ ในช่วง 2-3 ปีแรก TMDC จะไม่เน้นรับงานจำนวนมาก โดยจะรับงานก่อสร้างต่อปี 2-3 โครงการ แต่งานที่จะรับต้องมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 500 บาทขึ้นไป เพื่อให้บริษัทมีวอร์รูม และมีรายได้ที่เติบโต โดยงานในระยะแรกจะเป็นงานสร้างชื่อของบริษัท ปัจจุบัน TMDC มีงานก่อสร้างในมือแล้ว 1 โครงการ คือ การก่อสร้างโครงการคนาพญา คอนโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านพระราม 3 และอยู่ระหว่างการยื่นประมูลงานก่อสร้าง 5 โครงการ คือ งานก่อสร้างคอนโด 2 โครงการ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นงานก่อสร้างของบริษัท เมเจอร์ฯ เป็นงานก่อสร้างห้างสรรพสินค้า 1 โครงการ งานก่อสร้างสำนักงาน 1 โครงการ และงานก่อสร้างชอปปิ้งมอลล์ 1 โครงการ คาดว่าจะได้งาน 2 โครงการ จาก 5 งานประมูลดังกล่าว
“ในอนาคต 5 ปีจากนี้ เมเจอร์ฯ คาดว่าจะมีรายได้จาก TMDC เข้าสู่บริษัทต่อปีไม่ต่ำกว่า 5% ของรายได้รวม ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้ระยะยาวให้แก่เมเจอร์ฯ”
ด้าน รศ.ดร.ต่อตระกูล ยมนาค ประธานที่ปรึกษาโครงการแม่น้ำ เรสซิเดนท์ กล่าวว่า นวัตกรรมการก่อสร้างอาคารสูงพิเศษ (Super tower) ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีความยากกว่าการก่อสร้างอาคารสูงทั่วไป เนื่องจากมีความซับซ้อนในการใช้เทคโนโลยี และการบริหารจัดการด้านวิศวกรรม ดังนั้น เพื่อตอบโจทย์การก่อสร้างให้ได้คุณภาพ แข็งแรง ภายใต้การบริหารต้นทุน และกำหนดเวลางานก่อสร้างในสถานการณ์ปัจจุบัน ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ จึงเลือกใช้บริการกับผู้รับเหมาบริษัทข้ามชาติ หรือบริษัทต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ เพราะยังไม่มั่นใจฝีมือของผู้รับเหมาคนไทย
อย่างไรก็ดี โครงการแม่น้ำ เรสซิเดนท์ คอนโดมิเนียม และบริษัท แสงฟ้าก่อสร้าง จำกัด ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนากระบวนการดำเนินการก่อสร้างอาคารสูงพิเศษในประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ยกระดับมาตรฐานทัดเทียม และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล จึงมีการร่วมมือกันจัดทำห้อง LAB Room เพื่อเปิดเผยประสบการณ์ก่อสร้างโครงการแม่น้ำเรสซิเดนท์ฯ ทุกขั้นตอนอย่างละเอียดให้แก่วิศวกร สถาปนิก และผู้รับเหมาก่อสร้าง
ด้าน นพ.เชิดศักดิ์ อัมพรสุขสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสงฟ้าก่อสร้าง จำกัด กล่าวว่า กทม.กำลังมีการขยายตัวในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ประกอบกับราคาที่ดินที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้การพัฒนาโครงการอสังหาฯ ทั้งที่พักอาศัย โรงแรม หรืออาคารสำนักงานแนวสูงเกิดขึ้นจำนวนมาก และแนวโน้มในอนาคตจะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้น ความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ในการทำงานทุกขั้นตอน เริ่มต้นตั้งแต่การออกแบบ การวางแผนการทำงาน การบริหารจัดการการทำงาน ตลอดจนการควบคุมการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ จึงมีความสำคัญ และมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้การดำเนินการก่อสร้างอาคารสูงพิเศษเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และประสบความสำเร็จสูงสุด
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 4 มิถุนายน 2558
รับเหมาตึกสูงขาดตลาด “เมเจอร์ฯ” ดึงอิสราเอลลุยก่อสร้าง
MJD จับมือ Danya บริษัทก่อสร้าง อิสราเอล ตั้งบริษัทร่วมทุน “TMDC” บุกตลาดก่อสร้างอาคารสูงไทย ชี้โครงการอาคารสูงเกิดใหม่ในปัจจุบัน-อนาคตขยายตัวสูง ขณะที่บริษัทรับเหมาที่สามารถก่อสร้างโครงการสูงพิเศษในประเทศมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ แจง 3 ปีแรกเน้นรับงานน้อย หวังสร้างชื่อก่อนขยายตลาดในอนาคต ด้าน “แม่น้ำเรสซิเดนท์ฯ” จับมือ “แสงฟ้า” พัฒนามาตรฐานวงการก่อสร้างอาคารสูงพิเศษเทียบสากล พร้อมจัดทำห้องแล็บรูม (LAB Room) เปิดประสบการณ์การบริหารจัดการด้านวิศวกรรมต่อสาธารณะ
ดร.สุริยา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมเจอร์ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD ในฐานะกรรมการบริหาร บริษัท ทีเอ็มดีซี คอนสทรัคชั่น จำกัด กล่าวว่า ภายหลังจากเมเจอร์ฯ และบริษัท Danya Cebus Construction บริษัทรับเหมาก่อสร้างจากประเทศอิสราเอล ได้ร่วมกันศึกษาตลาดก่อสร้างในประเทศไทยนานกว่า 10 เดือน พบว่า ด้วยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศไทยที่มีความแข็งแกร่ง มีการขยายตัวที่ไม่ร้อนแรงเกินไป ดังนั้น เศรษฐกิจไทยจึงมีความมั่นคงสูง ซึ่งเป็นผลมาจากบทเรียนวิกฤตเศรษฐกิจในปี 40 ที่ผ่านมา ทำให้แนวโน้มอนาคตเศรษฐกิจไทยจะยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดงานก่อสร้างขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก
ดังนั้น เมเจอร์ฯ และ Danya จึงตกลงก่อตั้งบริษัทร่วมทุน ทีเอ็มดีซี คอนสตรัคชั่น จำกัด หรือ TMDC โดยมีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท โดยเมเจอร์ถือหุ้น 51% และ Danya ถือหุ้น 49% เพื่อรับงานก่อสร้างอาคารสูง และโครงการที่อยู่อาศัย รวมถึงงานโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐในอนาคต ทั้งนี้ จากผลการศึกษาตลาดในช่วงที่ผ่านมายังพบว่า ในประเทศไทยมีงานก่อสร้างโครงการอาคารสูง เช่น คอนโดมิเนียมไฮไรส์ อาคารสำนักงาน โรงแรม และห้างสรรพสินค้า เกิดขึ้นจำนวนมาก และมีแนวโน้มจะเกิดโครงการอาคารสูงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่บริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีความสามารถในการก่อสร้างอาคารสูงในประเทศมีจำนวนจำกัด ไม่สามารถรองรับความต้องการด้านงานก่อสร้างที่เกิดขึ้นจำนวนมากได้อย่างครอบคลุม
“การร่วมทุนในครั้งนี้จะช่วยยกระดับมาตรฐานงานก่อสร้างในประเทศไทย และยังเป็นการเพิ่มบริษัทรับเหมาก่อสร้างเข้ามารองรับงานใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จุดแข็งของ TMDC คือ ระบบการบริหารจัดการที่มีมาตรฐานระดับโลก คุณภาพงานก่อสร้างที่มีมาตรฐานสูง และความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน ซึ่งทั้ง 2 บริษัทมีความพร้อม โดยในการทำตลาดของTMDC ในช่วงแรกได้นำจุดแข็งทั้ง 3 ข้อ มากำหนดเป็นกลยุทธ์ในการทำตลาด โดยเน้นคุณภาพงานก่อสร้างและมีมาตรฐานในราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่ง”
ทั้งนี้ ในช่วง 2-3 ปีแรก TMDC จะไม่เน้นรับงานจำนวนมาก โดยจะรับงานก่อสร้างต่อปี 2-3 โครงการ แต่งานที่จะรับต้องมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 500 บาทขึ้นไป เพื่อให้บริษัทมีวอร์รูม และมีรายได้ที่เติบโต โดยงานในระยะแรกจะเป็นงานสร้างชื่อของบริษัท ปัจจุบัน TMDC มีงานก่อสร้างในมือแล้ว 1 โครงการ คือ การก่อสร้างโครงการคนาพญา คอนโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านพระราม 3 และอยู่ระหว่างการยื่นประมูลงานก่อสร้าง 5 โครงการ คือ งานก่อสร้างคอนโด 2 โครงการ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นงานก่อสร้างของบริษัท เมเจอร์ฯ เป็นงานก่อสร้างห้างสรรพสินค้า 1 โครงการ งานก่อสร้างสำนักงาน 1 โครงการ และงานก่อสร้างชอปปิ้งมอลล์ 1 โครงการ คาดว่าจะได้งาน 2 โครงการ จาก 5 งานประมูลดังกล่าว
“ในอนาคต 5 ปีจากนี้ เมเจอร์ฯ คาดว่าจะมีรายได้จาก TMDC เข้าสู่บริษัทต่อปีไม่ต่ำกว่า 5% ของรายได้รวม ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้ระยะยาวให้แก่เมเจอร์ฯ”
ด้าน รศ.ดร.ต่อตระกูล ยมนาค ประธานที่ปรึกษาโครงการแม่น้ำ เรสซิเดนท์ กล่าวว่า นวัตกรรมการก่อสร้างอาคารสูงพิเศษ (Super tower) ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีความยากกว่าการก่อสร้างอาคารสูงทั่วไป เนื่องจากมีความซับซ้อนในการใช้เทคโนโลยี และการบริหารจัดการด้านวิศวกรรม ดังนั้น เพื่อตอบโจทย์การก่อสร้างให้ได้คุณภาพ แข็งแรง ภายใต้การบริหารต้นทุน และกำหนดเวลางานก่อสร้างในสถานการณ์ปัจจุบัน ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ จึงเลือกใช้บริการกับผู้รับเหมาบริษัทข้ามชาติ หรือบริษัทต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ เพราะยังไม่มั่นใจฝีมือของผู้รับเหมาคนไทย
อย่างไรก็ดี โครงการแม่น้ำ เรสซิเดนท์ คอนโดมิเนียม และบริษัท แสงฟ้าก่อสร้าง จำกัด ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนากระบวนการดำเนินการก่อสร้างอาคารสูงพิเศษในประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ยกระดับมาตรฐานทัดเทียม และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล จึงมีการร่วมมือกันจัดทำห้อง LAB Room เพื่อเปิดเผยประสบการณ์ก่อสร้างโครงการแม่น้ำเรสซิเดนท์ฯ ทุกขั้นตอนอย่างละเอียดให้แก่วิศวกร สถาปนิก และผู้รับเหมาก่อสร้าง
ด้าน นพ.เชิดศักดิ์ อัมพรสุขสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสงฟ้าก่อสร้าง จำกัด กล่าวว่า กทม.กำลังมีการขยายตัวในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ประกอบกับราคาที่ดินที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้การพัฒนาโครงการอสังหาฯ ทั้งที่พักอาศัย โรงแรม หรืออาคารสำนักงานแนวสูงเกิดขึ้นจำนวนมาก และแนวโน้มในอนาคตจะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้น ความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ในการทำงานทุกขั้นตอน เริ่มต้นตั้งแต่การออกแบบ การวางแผนการทำงาน การบริหารจัดการการทำงาน ตลอดจนการควบคุมการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ จึงมีความสำคัญ และมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้การดำเนินการก่อสร้างอาคารสูงพิเศษเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และประสบความสำเร็จสูงสุด
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 4 มิถุนายน 2558