Page 1 of 1

หมวกกันน็อกนำทางอัตโนมัติ

Posted: 06 Jun 2015, 13:49
by brid.ladawan
หมวกกันน็อกนำทางอัตโนมัติ

หมวกกันน็อกนำทางอัตโนมัติ พุธนี้ผมจะชวนคุณผู้อ่านคอลัมน์เทคโนโลยีของผมมารู้จักกับหมวกกันน็อกแบบพิเศษชื่อ สกัลลี่ เฮลเมทส์ (Skully Helmets) ที่ไม่ได้เป็นแค่หมวกหนัก ๆ อับ ๆ สำหรับหุ้มศีรษะกันกระแทกเท่านั้นนะครับ ยุคนี้สมัยนี้ผู้คนต่างหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้นนะครับ อะไรที่กินแล้วหรือทำแล้วดีต่อสุขภาพนี่คนยุคใหม่ล้วนทุ่มกันให้แบบสุดตัว การขี่จักรยานก็เป็นกระแสเพื่อสุขภาพอย่างหนึ่งที่กำลังมาแรงในประเทศไทยเราเพราะนอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้วยังช่วยประหยัดเงิน ประหยัดพลังงาน และ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมด้วย แต่ข้อดีเหล่านี้ก็แลกมาด้วยความเสี่ยงของการเป็นเนื้อหุ้มเหล็กอยู่กลางท้องถนน โดยเฉพาะในประเทศไทยเราที่เดี๋ยวนี้ตัวเลขของอุบัติเหตุรถสองล้อมีแต่จะเพิ่มมากขึ้น ทั้งจากรถจักรยาน รถมอเตอร์ไซค์ และ บิ๊กไบค์ด้วย แม้สุขภาพจะสำคัญแค่ไหนแต่เหนือสิ่งอื่นใดชีวิตของผู้ขับขี่ย่อมสำคัญที่สุดจริงไหมครับ เรื่องง่าย ๆ ที่ผู้ขับขี่รถสองล้อทำได้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้ตัวเองก็คงไม่พ้นการสวมหมวกกันน็อกนั่นเอง พุธนี้ผมจะชวนคุณผู้อ่านคอลัมน์เทคโนโลยีของผมมารู้จักกับหมวกกันน็อกแบบพิเศษชื่อ สกัลลี่ เฮลเมทส์ (Skully Helmets) ที่ไม่ได้เป็นแค่หมวกหนัก ๆ อับ ๆ สำหรับหุ้มศีรษะกันกระแทกเท่านั้นนะครับ แต่เป็นหมวกกันน็อกที่มาพร้อมฟังก์ชั่นอัจฉริยะหลายอย่าง โดยผู้คิดค้นหมวกนี้ก็ไม่ใช่คนอื่นไกลแต่เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้รักการขี่มอเตอร์ไซค์ ดร.มาร์คัส เวลเลอร์ (Marcus Weller) หนุ่มรูปหล่อดีกรีปริญญาเอกด้านจิตวิทยาอุตสาหกรรมจากมหาวิทยาลัยเวย์นสเตต (Wayne State University) สหรัฐ อเมริกา ความพิเศษของหมวกกันน็อกรุ่นนี้ก็มีตั้งแต่เรื่องพื้นฐานอย่างการออกแบบที่ดูโฉบเฉี่ยวทันสมัยและวัสดุที่มีนํ้าหนักเบา พิเศษขึ้นมาอีกหน่อยก็คือความสามารถในการสั่งงานด้วยเสียงและฟังก์ชั่นบลูทูธสำหรับไว้ฟังเพลงสบาย ๆ แบบไร้สายได้จากมือถือสมาร์ทโฟน แต่ที่ว่ากันว่าเป็นทีเด็ดของหมวกใบนี้อยู่ที่ส่วนหน้ากากกันลมของหมวกซึ่งไม่ได้เป็นแค่แผ่นกันลมใส ๆ สำหรับไว้มองทะลุแต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังทำหน้าที่เหมือนจอภาพกลาย ๆ ที่แสดงทิศทางในการขับรถจาก GPS หรือแสดงไอคอนเตือนเมื่อมีสายโทรศัพท์เข้าได้ ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากท้องถนนไปก้มดูจอสมาร์ทโฟนอีกต่อไป ทีเด็ดอีกประการของหมวกใบนี้คือกล้องมุมกว้างที่ติดอยู่บริเวณด้านหลังของหมวกกันน็อก ที่จะคอยเก็บภาพจากด้านหลังบริเวณมุมอับที่กระจกข้างทั้งสองมองไม่เห็นมาโชว์แบบเรียลไทม์ไว้บนแผ่นกันลมได้ การพัฒนาหมวกกันน็อกอัจฉริยะนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 หรือประมาณสองปีก่อนโดยเปิดให้ผู้สนใจสามารถสั่งพรีออร์เดอร์รอไว้ได้ แต่ก็เช่นเดียวกับอุปกรณ์เทคโนโลยีชื่อดังอื่น ๆ ที่มักประสบปัญหาการเลื่อนกำหนดวางจำหน่าย เจ้าหมวกกันน็อกอัจฉริยะนี้เองก็มีการเลื่อนวันวางจำหน่ายเช่นกันครับ โดยทางบริษัทให้สัมภาษณ์ว่าตอนนี้กำลังปรับปรุงการเสริมวัสดุภายในเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของหมวกกันน็อกขึ้นไปอีกระดับ เพราะอย่างไรเสียหน้าที่แรกสุดของหมวกกันน็อกก็คือการปกป้องศีรษะของผู้สวมใส่เป็นสำคัญ สำหรับคุณผู้อ่านที่สนใจหมวกกันน็อกนี้ก็ต้องอดใจรอกันอีกสักหน่อยนะครับ จากข่าวล่าสุดคาดว่าน่าจะเปิดตัวได้อย่างเป็นทางการภายในปีนี้ แต่ส่วนผลสำเร็จว่าจะดังหรือแป้กเราคงต้องรอดูพร้อมกันต่อไป เพราะนอกจากปัจจัยเรื่องราคาและความสามารถในการป้องกันการกระแทกในฐานะหมวกกันน็อกแล้ว เรื่องการโชว์ภาพหรือไอคอนต่าง ๆ บนหน้ากากก็เป็นเรื่องที่น่าคิดนะครับว่าจะได้รับผลตอบรับจากผู้ใช้อย่างไร จะผ่านฉลุยหรือจะซ้ำรอยเดิมของกูเกิลกลาสที่ถูกสั่งห้ามใช้ระหว่างขับขี่ยวดยานบนท้องถนนเพราะผิดกฎหมายของบางประเทศและพบว่าทำให้ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุระหว่างขับขี่เพิ่มมากขึ้น ความสำเร็จเป็นสิ่งที่ได้มาไม่ง่ายเลยนะครับ โดยเฉพาะความสำเร็จของนวัต กรรมเทคโนโลยีที่ไม่ใช่แค่ว่าเลือกใช้เทคโน โลยีที่ลํ้าที่สุดในโลกเพียงอย่างเดียวก็จะได้ชื่อว่าประสบความสำเร็จ เพราะผลงานที่ล้ำหน้าล้ำยุคนั้นอาจเป็นอะไรที่ผู้คนในยุคปัจจุบันปรับตัวตามไม่ทันก็เป็นได้ ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าผู้ประสบความสำเร็จคือผู้ที่มีความกล้าและความแข็งแกร่ง กล้าที่จะก้าวข้ามความกลัวในความล้มเหลว แข็งแกร่งพอที่จะผ่านความล้มเหลวและลุกขึ้นใหม่ได้ ทำให้ทุกย่างก้าวถัด ๆ ไปยิ่งแข็งแกร่งและมั่นคงขึ้น เพราะสุดท้ายแล้วแม้เราจะไม่ประสบความสำเร็จในการบินจากพื้นดินถึงขึ้นไปสู่ดวงจันทร์ แต่อย่างน้อยเราก็ยังคงจะได้อยู่ท่ามกลางหมู่ดวงดาวอันสุกสว่างอยู่ดีใช่ไหมครับ. ผศ.ดร.ชุติสันต์ เกิดวิบูลย์เวช สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) chutisant.ker@nida.ac.th

อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/it/325446


ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 3 มิถุนายน 2558