ISSP จับมือไมโครซอฟท์รุกตลาดคลาวด์หวังโต 20% ปีนี้

[brid.ladawan]

ISSP จับมือไมโครซอฟท์รุกตลาดคลาวด์หวังโต 20% ปีนี้

ISSP ปรับธุรกิจใหม่สู่คลาวด์เซอร์วิสโพรวายเดอร์ พร้อมจับมือไมโครซอฟท์เข้าเป็น “Microsoft Cloud OS Network” เปิดให้บริการคลาวด์ใหม่ a.csp ซึ่งหวังรายได้เติบโตขึ้น 20% ในปีนี้ ชี้เศรษฐกิจยังไม่ค่อยดี การลงทุนยังน้อย จึงต้องสร้างบริการใหม่ๆ ที่หลากหลายมากขึ้นเพื่อขยายฐานลูกค้า ส่วนครึ่งปีหลังพร้อมรุกธุรกิจท่องเที่ยวที่ยังมีการเติบโตที่โดดเด่น รวมถึงการนำเสนอบริการซีอาร์เอ็มให้แก่ลูกค้า

นายสุวิทย์ จินดาสงวน ประธานกรรมการบริษัท อินเตอร์เนต โซลูชั่น แอนด์ เซอร์วิส โพรวายเดอร์ จำกัด หรือ ISSP กล่าวว่า ISSP ได้ปรับวิสัยทัศน์ในการทำตลาดใหม่มาเป็นคลาวด์เซอร์วิสโพรวายเดอร์ ที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดค่าใช้จ่ายด้วยคลาวด์ โดยล่าสุด ได้จับมือกับไมโครซอฟท์ในการเข้าเป็น “Microsoft Cloud OS Network” เพื่อให้บริการคลาวด์ใหม่ภายใต้ชื่อ a.csp ซึ่งบริษัท คาดว่าการเพิ่มบริการใหม่นี้จะทำให้รายได้เติบโตขึ้น 20% ในปีนี้

บริการคลาวด์ดังกล่าวรองรับแพลตฟอร์มของไมโครซอฟท์ ซึ่งประกอบไปด้วย Microsoft Hyper-V, System Center, Windows Server และ Windows Azure Pack เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้า ซึ่งลูกค้าสามารถบริหารจัดการคลาวด์ได้เอง และมีแพลตฟอร์มที่ลูกค้าจะสามารถนำคลาวด์ไปใช้ได้หลายที่ โดยสามารถเชื่อมต่อการทำงาน และใช้งานได้โดยไม่มีสะดุด

“ปีนี้เหนื่อยที่สุด เพราะกำลังซื้อยังไม่ค่อยดี การลงทุนต่างๆ ยังขยับไปไม่ได้ แต่เราเป็นธุรกิจบริการจึงต้องนำเสนอบริการใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้า ซึ่งการนำไมโครซอฟท์เข้ามาจะทำให้เรามีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และสามารถเข้าถึงลูกค้าได้หลากหลายมากขึ้น เพราะการให้บริการแบบเดิมอาจจะไม่เพียงพออีกต่อไป แม้จะยังมีการเติบโตอยู่ ซึ่งการให้บริการคลาดว์จะทำให้เราสามารถเติบโตได้ในระยะยาว และจะสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้น”

ด้าน นายบัณฑิต ว่องวัฒนะสิน กรรมการผู้จัดการ ISSP กล่าวว่า บริษัท เติบโตมาจากอินเทอร์เน็ต ทำให้มีลูกค้าที่หลากหลายทั้งขนาดเล็ก และใหญ่ โดยลูกค้าส่วนใหญ่อยู่เอสเอ็มอี การเงิน และลูกค้าต่างชาติ สำหรับคลาวด์นั้นได้มีการมองเทรนด์นี้มานานแล้ว จึงทำการลงทุนเรื่องคลาวด์มาอย่างต่อเนื่อง จนได้มาร่วมงานกับไมโครซอฟท์ ทำให้ตอนนี้ ISSP มีบริการใหม่แบบ as-a-service เพื่อให้บริการกับลูกค้าได้ทั้งขนาดเล็กแ ละขนาดใหญ่ ถือเป็นการกระตุ้นยอดขายให้เติบโตขึ้นแม้จะตั้งเป้าไว้น้อยกว่าปีที่ผ่านมาที่โตถึง 30%

ทั้งนี้ คลาวด์เป็นการทรานฟอร์มธุรกิจไปสู่ธุรกิจยุคใหม่ และตอบสนองต่อเทรนด์ใหม่อย่าง Internet of Thing (IoL) ที่จะทำให้ทุกอย่างเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตทั้งหมด โดยในครึ่งปีหลังนี้คาดว่าจะเข้าหาลูกค้าในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวเนื่องจากเป็นธุรกิจที่ไปได้ดี และมีแนวโน้มการเติบโตที่สูงขึ้น รวมไปถึงการนำเสนอซีอาร์เอ็มให้แก่ลูกค้ากลุ่มอื่นๆ

ด้าน นายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และบริหารลูกค้า บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ไมโครซอฟท์มองเรื่อง Mobile First Cloud First ที่จะช่วยทำให้ผู้ใช้งานเข้าถึงการบริการไอทีได้จากทุกที่โดยไม่มีข้อจำกัด สามารถตอบสนองต่อการแข่งขันทางธุรกิจที่จะต้องมีคู่แข่งมากขึ้น โดยเฉพาะการเปิดเออีซี

โดยไมโครซอฟท์จะเน้นกลยุทธ์การทำตลาดร่วมกับพาร์ตเนอร์ โดยจะมุ่งการสร้างให้พาร์ตเนอร์สามารถนำผลิตภัณฑ์เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนอกจากจะสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าภายในประเทศแล้ว ยังสามารถรองรับกับการเข้ามาของบริษัทข้ามชาติที่มาจากการเปิดเออีซีอีกด้วย ซึ่งขณะนี้คลาวด์เป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจยุคใหม่ และมีความจำเป็นมากขึ้น เช่นเดียวกับซิเคียวริตีเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งไมโครซอฟท์คลาวด์ได้รับมาตรฐานการป้องกันความปลอดภัยในระดับสูงสุดแล้วเช่นกัน

Company Related Link : ISSP

ที่มา : ASTVผู้จัดการออนไลน์
9 กรกฎาคม 2558