ศูนย์วิจัยนครอัจฉริยะ

Post Reply
brid.ladawan
Posts: 7045
Joined: 29 Mar 2013, 13:36

ศูนย์วิจัยนครอัจฉริยะ

Post by brid.ladawan »

ศูนย์วิจัยนครอัจฉริยะ

„ศูนย์วิจัยนครอัจฉริยะ ก้าวมาสู่ “ศูนย์วิจัยนครอัจฉริยะ” หรือ “สมาร์ท ซิตี้ รีเสิร์ช เซ็นเตอร์” แห่งแรกในประเทศไทย จากแนวคิดสมาร์ทซิตี้หรือนครอัจฉริยะ ที่บริษัทชั้นนำของโลกหลายแห่งกำลังให้ความสำคัญ และมองเป็นโอกาสและยุทธศาสตร์ในการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ก้าวมาสู่ “ศูนย์วิจัยนครอัจฉริยะ” หรือ “สมาร์ท ซิตี้ รีเสิร์ช เซ็นเตอร์” แห่งแรกในประเทศไทย ที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2557 “รศ.ดร.เอกชัย สุมาลี” ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายจราจรและขนส่งมวลชนและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยนครอัจฉริยะ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง บอกว่า เมืองใหญ่ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว มักมีปัญหาในการบริหารจัดการเมืองตามมา ทั้งด้านจราจร มลภาวะ ขยะ ความสิ้นเปลืองด้านพลังงาน และปัญหาอื่น ๆ ทางสังคม การพัฒนาเมืองแบบนครอัจฉริยะ หรือ สมาร์ทซิตี้ ก็เป็นอีกหนึ่งแนวคิดในการแก้ปัญหา ที่กำลังได้รับความสนใจจากภาคเอกชนและสถาบันการศึกษาชั้นนำทั่วโลก รวมถึงคณะวิศวกรรมศาสตร์ ของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่จัดตั้งศูนย์วิจัยนครอัจฉริยะ ขึ้นเมื่อเกือบสองปีที่ผ่านมา โดยเป็นศูนย์วิจัยเฉพาะด้าน รศ.ดร.เอกชัย บอกว่า หัวใจหลักของการพัฒนาเมืองในรูปแบบนี้ก็คือ การปรับใช้ระบบไอที เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการเมือง ครอบคลุมทั้งการจัดการระบบขนส่ง การสร้างข้อมูลเพื่อช่วยในการตัดสินใจวางแผน การให้ข้อมูลกับประชากร การจัดการระบบพลังงาน การจัดการระบบน้ำ และการจัดการโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ของเมือง การปรับใช้ระบบไอทีจะประกอบไปด้วย 3 องค์ประกอบคือ การใช้ระบบเก็บข้อมูลในหลากหลายรูปแบบเพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับการบริโภค การดำรงชีวิต และสถานภาพของโครงสร้างพื้นฐานในเมือง อาจเป็นการพัฒนาโครงสร้างโดยเฉพาะเพื่อการจัดเก็บ เช่น ระบบสมาร์ท มิเตอร์ สำหรับเก็บข้อมูลการใช้ไฟฟ้า ระบบตรวจจับสภาพจราจรแบบอัตโนมัติผ่านทางกล้องซีซีทีวี หรือการใช้ระบบคลาวด์-ซอร์ส (Crowd-source) ที่เก็บข้อมูลโดยตรงจากประชากร ทั้งในรูปแบบการรายงานโดยตรงจากผู้ใช้ หรือ เก็บข้อมูลอัตโนมัติจากโซเชียลมีเดียต่าง ๆ องค์ประกอบต่อมาคือการสร้างระบบในการวิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บได้ เพื่อหารูปแบบพฤติกรรมของประชากร และสถานะของโครงสร้างพื้นฐานภายใต้ปัจจัยต่าง ๆ เช่น จากข้อมูลโซเชียล เน็ตเวิร์ก ผ่านทวิตเตอร์หรือเฟซบุ๊ก ที่เก็บได้ในกรุงเทพฯ ในส่วนของข้อความที่เกี่ยวเนื่องกับความพึงพอใจในการให้บริการของรถประจำทาง ระบบในการวิเคราะห์ข้อมูลสามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปผ่านกระบวนการวิเคราะห์ในแบบการทำเหมืองข้อมูลหรือ Data Mining เพื่อวิเคราะห์ถึงลำดับความสำคัญของปัญหา รวมถึงสามารถวิเคราะห์ถึงต้นเหตุของปัญหาจราจรในพื้นที่ต่าง ๆเพื่อวางแผนการจัดการระบบจราจรได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสุดท้ายคือการปรับใช้ผลในการวิเคราะห์ในการควบคุมจัดการโครงสร้างพื้นฐาน หรือพฤติกรรมต่าง ๆ ของประชากร รศ.ดร.เอกชัย บอกว่า ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในการปรับใช้ผลจากการวิเคราะห์ก็คือ ระบบสัญญาณไฟจราจร ถ้าระบบมีความเป็นอัจฉริยะ หลังจากได้รับข้อมูลกระแสจราจร และความแออัดในถนนต่าง ๆ ระบบวิเคราะห์จะสามารถระบุถึงการปรับเปลี่ยนระยะเวลาสำหรับสัญญาณไฟที่จุดต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางในการเดินทาง และความแออัดในพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างทันท่วงที รศ.ดร.เอกชัย บอกอีกว่า สำหรับการพัฒนาในแบบสมาร์ท ซิตี้ นอกจากจะลดการใช้ทรัพยากร เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการแล้ว ยังเพิ่มความโปร่งใสในการบริหารจัดการเมือง และมีการวางนโยบายโครงสร้างพื้นฐานจากฐานข้อมูลที่ได้จากระบบต่าง ๆ ปัจจุบันศูนย์วิจัยฯ นอกจากจะเข้าไปช่วยพัฒนาระบบ All Thai Taxi หรือระบบบริการรถแท็กซี่จากนครชัยแอร์ ที่สามารถเรียกใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นได้แล้ว ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาและทดสอบระบบบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานของเมืองผ่านคลาวด์-ซอร์สโดยจะเป็นระบบโมบายแอพพลิเคชั่น ใช้ได้ทั้งไอโอเอส และแอนดรอยด์ ซึ่งจะเป็นช่องทางให้ประชาชนรายงานปัญหาต่าง ๆ ในเมืองกลับมายังฐานข้อมูลส่วนกลาง เช่น ผู้ใช้สามารถถ่ายรูปจุดที่มีน้ำท่วมขังเพื่อรายงานพร้อมตำแหน่งมายังฐานข้อมูลส่วนกลาง หรือสามารถถ่ายรูปเสาไฟแสงสว่างที่ชำรุดพร้อมตำแหน่ง โดยที่ระบบส่วนกลางจะประมวลผลข้อมูลที่ได้รับจากประชาชนเพื่อผ่านการวิเคราะห์และสรุปสถานะของเมือง และแผนในการบำรุงรักษาเมือง นอกจากนั้นระบบจะส่งผลการปรับปรุงหรือซ่อมแซมกลับไปยังผู้รายงาน นอกจากนี้ทางศูนย์วิจัยฯ ยังมีแผนในการจัดทำเรตติ้งของเมืองหรือ KMITL City Rating เพื่อจัดลำดับคุณภาพชีวิตของเมืองเพื่อกระตุ้นให้ผู้บริหารท้องถิ่นให้ความใส่ใจในการดูแลรักษา และพัฒนาคุณภาพชีวิตในเมืองอีกด้วย. นาตยา คชินทร nattayap.k@gmail.com

ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์
23 กรกฎาคม 2558
Post Reply

Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”