ศึกหุ่นยนต์ยักษ์ ระหว่างญี่ปุ่นและอเมริกา
Posted: 31 Jul 2015, 12:01
ศึกหุ่นยนต์ยักษ์ ระหว่างญี่ปุ่นและอเมริกา
„ศึกหุ่นยนต์ยักษ์ ระหว่างญี่ปุ่นและอเมริกา เรื่องของเรื่องก็คือเมื่อไม่กี่วันมานี้ มีบริษัทผู้ผลิตหุ่นยนต์จากฝั่งสหรัฐอเมริกา ได้ทำคลิปวิดีโอท้าดวลการต่อสู้กันระหว่างหุ่นยนต์ที่ใช้คนนั่งบังคับ จริง ๆ ไปยังบริษัทของประเทศญี่ปุ่น คุณผู้อ่านประจำคอลัมน์วันพุธของผมที่ชอบดูหนังหุ่นยนต์ตัวยักษ์ต่อสู้กันอย่างในเรื่อง Transformers และอยากให้การต่อสู้กันของหุ่นยนต์ตัวใหญ่เกิดขึ้นแบบสมจริง เร็ว ๆ นี้อาจไม่ผิดหวังแล้วนะครับ เพราะการต่อสู้ของหุ่นยนต์ยักษ์ที่ไม่ใช่แค่ในภาพยนตร์ กำลังจะเป็นจริงขึ้นมาในเร็ววันนี้แล้วล่ะครับ เรื่องของเรื่องก็คือเมื่อไม่กี่วันมานี้ มีบริษัทผู้ผลิตหุ่นยนต์จากฝั่งสหรัฐอเมริกา ชื่อว่าบริษัท MegaBots ได้ทำคลิปวิดีโอท้าดวลการต่อสู้กันระหว่างหุ่นยนต์ที่ใช้คนนั่งบังคับจริง ๆ ไปยังบริษัท Suidobashi Heavy Industry ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหลายคนคงยอมรับครับว่าญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงทางด้านนวัตกรรมหุ่นยนต์ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีตั้งแต่โรงแรมที่ให้บริการกิจการโดยหุ่นยนต์ที่แรก ๆ ของโลกในเมืองนางาซากิ ไปจนถึงหุ่นยนต์ขนาดใหญ่ยักษ์ตัวแรก ๆ ของโลกที่ใช้คนขับบังคับ ซึ่งการส่งคำท้าการต่อสู้ (ที่เป็นการท้าทายในเชิงสร้างสรรค์) ของบริษัทผลิตหุ่นยนต์ของอเมริกาแห่งนี้ ถ้าบริษัทผลิตหุ่นยนต์ของญี่ปุ่นปฏิเสธคำท้าก็คงจะเสียหน้ามิน้อยใช่ไหมล่ะครับ เพราะฉะนั้นแน่นอนครับทางบริษัท Suidobashi Heavy Industry ของญี่ปุ่นจึงได้ออกมาตกปากรับคำท้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยฝั่งอเมริกาที่ยื่นคำท้าไปนี้ เตรียมจะใช้หุ่นยนต์ที่มีนามว่า Mark II ที่ได้มีการระดมเงินทุนผ่านโปรแกรม Kickstarter ซึ่งหุ่นยนต์ตัวนี้ก็ถือว่าไม่ธรรมดาเลยล่ะครับ เพราะเป็นหุ่นขนาดใหญ่ตัวแรก ๆ ของสหรัฐอเมริกาที่สามารถทำงานได้เต็มรูปแบบเลยล่ะครับ (America’s first fully-functional, giant piloted robot) โดยสามารถให้มีคนเข้าไปนั่งบังคับเหมือนกับในการ์ตูนดราก้อนบอลยังไงยังงั้นเลย โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ 6 ตัน สูง 4.5 เมตร ควบคุมโดยใช้คนทั้งหมด 2 คน และที่สำคัญสามารถยิงกระสุนเพ้นท์บอลลูกละหนักเป็นกิโล ๆ ด้วยความเร็วเกือบถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยล่ะครับ ในขณะเดียวกันทางฝั่งญี่ปุ่นที่รับคำท้าก็ไม่น้อยหน้าอยู่แล้วล่ะครับ เพราะประเทศนี้ถือศักดิ์ศรีแห่งความเป็นประเทศแรกที่สร้างหุ่นยนต์ขนาดใหญ่ตัวแรกของโลกที่ใช้คนนั่งบังคับได้อยู่ (World’s first giant boarding robot) โดยหุ่นยนต์ที่ส่งเข้าสู้ตัวนี้ชื่อว่า Kuratas ที่สร้างขึ้นเมื่อประมาณสามปีก่อน โดยตัวหุ่นมีขนาดเบากว่าฝั่งอเมริกาประมาณ 1 ตัน (หนัก 5 ตัน) ส่วนสูงอยู่ที่ 3.8 เมตร สามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้คนขับเพียงหนึ่งคนเท่านั้น โดยตัวหุ่นติดตั้งปืนกลคู่ยิงได้มากถึง 100 นัดต่อวินาที พร้อมระบบจับเป้าหมายและระบบไกปืนยิงอัตโนมัติที่จะยิงทันทีตามเซ็นเซอร์ที่จับได้ ถ้าลองเทียบข้อมูลพื้นฐานดูแล้ว ดูเหมือนหุ่นยนต์ของฝั่งอเมริกาอาจจะได้เปรียบในเชิงน้ำหนักและความเร็วการเคลื่อนที่อยู่ แต่ด้านการป้องกันก็อาจจะยังถือว่าค่อนข้างต่ำในเรื่องของเกราะป้องกัน ในขณะที่ฝั่งญี่ปุ่นการยิงอาวุธพิสัยไกลอาจจะไม่ได้เฉียบคมมาก เพราะฉะนั้นการต่อสู้ระยะไกลอาจเสียเปรียบอยู่บ้าง แต่ฝ่ายไหนจะปราชัย ณ ตอนนี้อาจจะเร็วเกินไปที่จะบอกผลลัพธ์การต่อสู้ครั้งนี้นะครับ ผมคิดไปคิดมาในศตวรรษที่ 21 มีอะไรเกิดขึ้นใหม่อย่างคาดไม่ถึงจริง ๆ นะครับ ต่อไปการเชียร์กีฬาการต่อสู้กันคงจะไม่ได้ถูกจำกัดเพียงแค่ มวยไทย มวยสากล หรือ คิกบ็อกซิ่ง อีกต่อไป ไม่แน่ในอนาคตพวกเราอาจจะต้องเพิ่มกีฬา “โรบอทไฟต์ติ้ง” เข้าไปในกีฬาโอลิมปิกด้วยก็เป็นได้นะครับ ไว้วันหลังผมจะมาเล่าเรื่องโครงการ Superhuman Sports ที่ญี่ปุ่นเตรียมเอาไว้เซอร์ไพร้ส์โลกในโอลิมปิกโตเกียว 2020 ที่ผมคิดว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว คงจะไม่ผิดนักที่จะบอกว่าเรื่องบางเรื่องที่ดูจะเป็นไปไม่ได้ทางกายภาพในอดีต วันนี้ก็อาจจะไม่ไกลเกินศักยภาพของมนุษย์อีกต่อไป ผมเชื่อว่านี่แหละครับเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของโลกสมัยใหม่ในศตวรรษที่ 21 ที่มีเทคโนโลยีคอยช่วยขับเคลื่อนให้ชีวิตประจำวันของพวกเราหมุนพัฒนาไปข้างหน้าอย่างเป็นพลวัตอยู่ตลอดเวลา. ผศ.ดร.ชุติสันต์ เกิดวิบูลย์เวช สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) chutisant.ker@nida.ac.th“
ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์
22 กรกฎาคม 2558
„ศึกหุ่นยนต์ยักษ์ ระหว่างญี่ปุ่นและอเมริกา เรื่องของเรื่องก็คือเมื่อไม่กี่วันมานี้ มีบริษัทผู้ผลิตหุ่นยนต์จากฝั่งสหรัฐอเมริกา ได้ทำคลิปวิดีโอท้าดวลการต่อสู้กันระหว่างหุ่นยนต์ที่ใช้คนนั่งบังคับ จริง ๆ ไปยังบริษัทของประเทศญี่ปุ่น คุณผู้อ่านประจำคอลัมน์วันพุธของผมที่ชอบดูหนังหุ่นยนต์ตัวยักษ์ต่อสู้กันอย่างในเรื่อง Transformers และอยากให้การต่อสู้กันของหุ่นยนต์ตัวใหญ่เกิดขึ้นแบบสมจริง เร็ว ๆ นี้อาจไม่ผิดหวังแล้วนะครับ เพราะการต่อสู้ของหุ่นยนต์ยักษ์ที่ไม่ใช่แค่ในภาพยนตร์ กำลังจะเป็นจริงขึ้นมาในเร็ววันนี้แล้วล่ะครับ เรื่องของเรื่องก็คือเมื่อไม่กี่วันมานี้ มีบริษัทผู้ผลิตหุ่นยนต์จากฝั่งสหรัฐอเมริกา ชื่อว่าบริษัท MegaBots ได้ทำคลิปวิดีโอท้าดวลการต่อสู้กันระหว่างหุ่นยนต์ที่ใช้คนนั่งบังคับจริง ๆ ไปยังบริษัท Suidobashi Heavy Industry ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหลายคนคงยอมรับครับว่าญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงทางด้านนวัตกรรมหุ่นยนต์ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีตั้งแต่โรงแรมที่ให้บริการกิจการโดยหุ่นยนต์ที่แรก ๆ ของโลกในเมืองนางาซากิ ไปจนถึงหุ่นยนต์ขนาดใหญ่ยักษ์ตัวแรก ๆ ของโลกที่ใช้คนขับบังคับ ซึ่งการส่งคำท้าการต่อสู้ (ที่เป็นการท้าทายในเชิงสร้างสรรค์) ของบริษัทผลิตหุ่นยนต์ของอเมริกาแห่งนี้ ถ้าบริษัทผลิตหุ่นยนต์ของญี่ปุ่นปฏิเสธคำท้าก็คงจะเสียหน้ามิน้อยใช่ไหมล่ะครับ เพราะฉะนั้นแน่นอนครับทางบริษัท Suidobashi Heavy Industry ของญี่ปุ่นจึงได้ออกมาตกปากรับคำท้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยฝั่งอเมริกาที่ยื่นคำท้าไปนี้ เตรียมจะใช้หุ่นยนต์ที่มีนามว่า Mark II ที่ได้มีการระดมเงินทุนผ่านโปรแกรม Kickstarter ซึ่งหุ่นยนต์ตัวนี้ก็ถือว่าไม่ธรรมดาเลยล่ะครับ เพราะเป็นหุ่นขนาดใหญ่ตัวแรก ๆ ของสหรัฐอเมริกาที่สามารถทำงานได้เต็มรูปแบบเลยล่ะครับ (America’s first fully-functional, giant piloted robot) โดยสามารถให้มีคนเข้าไปนั่งบังคับเหมือนกับในการ์ตูนดราก้อนบอลยังไงยังงั้นเลย โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ 6 ตัน สูง 4.5 เมตร ควบคุมโดยใช้คนทั้งหมด 2 คน และที่สำคัญสามารถยิงกระสุนเพ้นท์บอลลูกละหนักเป็นกิโล ๆ ด้วยความเร็วเกือบถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยล่ะครับ ในขณะเดียวกันทางฝั่งญี่ปุ่นที่รับคำท้าก็ไม่น้อยหน้าอยู่แล้วล่ะครับ เพราะประเทศนี้ถือศักดิ์ศรีแห่งความเป็นประเทศแรกที่สร้างหุ่นยนต์ขนาดใหญ่ตัวแรกของโลกที่ใช้คนนั่งบังคับได้อยู่ (World’s first giant boarding robot) โดยหุ่นยนต์ที่ส่งเข้าสู้ตัวนี้ชื่อว่า Kuratas ที่สร้างขึ้นเมื่อประมาณสามปีก่อน โดยตัวหุ่นมีขนาดเบากว่าฝั่งอเมริกาประมาณ 1 ตัน (หนัก 5 ตัน) ส่วนสูงอยู่ที่ 3.8 เมตร สามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้คนขับเพียงหนึ่งคนเท่านั้น โดยตัวหุ่นติดตั้งปืนกลคู่ยิงได้มากถึง 100 นัดต่อวินาที พร้อมระบบจับเป้าหมายและระบบไกปืนยิงอัตโนมัติที่จะยิงทันทีตามเซ็นเซอร์ที่จับได้ ถ้าลองเทียบข้อมูลพื้นฐานดูแล้ว ดูเหมือนหุ่นยนต์ของฝั่งอเมริกาอาจจะได้เปรียบในเชิงน้ำหนักและความเร็วการเคลื่อนที่อยู่ แต่ด้านการป้องกันก็อาจจะยังถือว่าค่อนข้างต่ำในเรื่องของเกราะป้องกัน ในขณะที่ฝั่งญี่ปุ่นการยิงอาวุธพิสัยไกลอาจจะไม่ได้เฉียบคมมาก เพราะฉะนั้นการต่อสู้ระยะไกลอาจเสียเปรียบอยู่บ้าง แต่ฝ่ายไหนจะปราชัย ณ ตอนนี้อาจจะเร็วเกินไปที่จะบอกผลลัพธ์การต่อสู้ครั้งนี้นะครับ ผมคิดไปคิดมาในศตวรรษที่ 21 มีอะไรเกิดขึ้นใหม่อย่างคาดไม่ถึงจริง ๆ นะครับ ต่อไปการเชียร์กีฬาการต่อสู้กันคงจะไม่ได้ถูกจำกัดเพียงแค่ มวยไทย มวยสากล หรือ คิกบ็อกซิ่ง อีกต่อไป ไม่แน่ในอนาคตพวกเราอาจจะต้องเพิ่มกีฬา “โรบอทไฟต์ติ้ง” เข้าไปในกีฬาโอลิมปิกด้วยก็เป็นได้นะครับ ไว้วันหลังผมจะมาเล่าเรื่องโครงการ Superhuman Sports ที่ญี่ปุ่นเตรียมเอาไว้เซอร์ไพร้ส์โลกในโอลิมปิกโตเกียว 2020 ที่ผมคิดว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว คงจะไม่ผิดนักที่จะบอกว่าเรื่องบางเรื่องที่ดูจะเป็นไปไม่ได้ทางกายภาพในอดีต วันนี้ก็อาจจะไม่ไกลเกินศักยภาพของมนุษย์อีกต่อไป ผมเชื่อว่านี่แหละครับเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของโลกสมัยใหม่ในศตวรรษที่ 21 ที่มีเทคโนโลยีคอยช่วยขับเคลื่อนให้ชีวิตประจำวันของพวกเราหมุนพัฒนาไปข้างหน้าอย่างเป็นพลวัตอยู่ตลอดเวลา. ผศ.ดร.ชุติสันต์ เกิดวิบูลย์เวช สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) chutisant.ker@nida.ac.th“
ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์
22 กรกฎาคม 2558