วงการสื่อสารเตือนรัฐระวังตกหลุมพรางคนทีโอที หลังเดินเกมสุดลิ
Posted: 27 Aug 2015, 12:01
แหล่งข่าวในวงการโทรคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่ฝ่ายบริหาร และสหภาพรัฐวิสาหกิจบริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) ออกโรงคัดค้านการที่ กสทช.จะนำคลื่นความถี่ 900 เมกกะเฮิร์ตส์(MHz) ไปเปิดประมูล โดยอ้างว่าจะทำให้รัฐสูญเสียประโยชน์มหาศาล เพราะอุปกรณ์และเครือข่ายโทรคมนาคมที่ทีโอทีได้รับมอบมาจากบริษัทเอกชนคู่สัญญาจะด้อยค่าลงไปในทันที หากทีโอทีไม่ได้รับโอนคลื่นความถี่มาพร้อมด้วย
ทั้งนี้ แหล่งข่าวกล่าวว่า ข้ออ้างที่ทีโอทีอ้างว่า หากทีโอทีไม่มีคลื่น 900 MHz มาให้บริการ บรรดาทรัพย์สินโครงข่ายมือถือที่รับโอนมาจากบริษัทเอกชนนับแสนล้านบาทจะด้อยค่าลงไปนั้นเป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น เพราะก่อนหน้านี้รัฐบาลเองก็เคยจัดสรรคลื่นความถี่ 2100 MHz ให้แก่ทีโอทีเพื่อนำไปให้บริการมือถือระบบ 3 จีมาแล้ว โดยจัดสรรให้ไปก่อนใครอื่นแต่ทีโอทีก็กลับไม่สามารถจะนำเอาคลื่นความถี่ที่ได้รับไปหากินใด ๆ ได้ โครงการให้บริการ 3 จีทีโอทีในปัจจุบันนั้นกล่าวได้ว่า อยู่ในสภาพที่ล้มเหลว แม้จะดึงบริษัทสื่อสารเอกชนเข้ามาร่วมทำการตลาดแบบโครงข่ายเสมือน NVMO แต่ก็ไม่สามารถจะแข่งขันกับเอกชนได้ทำให้ทีโอทีต้องประสบกับการขาดทุนบักโกรกหนักเข้าไปอีก
“หากรัฐบาลจัดสรรคลื่นความถี่ 900 MHz ให้แก่ทีโอทีไปอีก ก็คงไม่พ้นจะลงเอยแบบกรณีการจัดสรรคลื่นความถี่ 2100 เมกกะเฮิร์ตส์ที่ทีโอทีไม่สามารถจะนำไปหาประโยชน์หรือสร้างมูลค่าเพิ่มใด ๆ ให้แก่องค์กรได้ เพราะการจะเอาคลื่น 900 ไปให้บริการมือถือระบบ 2 จีนั้น จะยิ่งทำให้ทีโอทีอยู่ในสถานะที่โดดเดี่ยว ไม่สามารถจะแข่งขันกับเอกชนได้เพราะเทรนด์ตลาดมือถือต่างบ่ายหน้าสู่ตลาด 3 และ 4 จีไปหมดแล้ว แม้แต่เพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียนต่างก็เปิดให้บริการระบบ 4 จีไปหมดแล้ว”
ส่วนเรื่องของอุปกรณ์เครือข่ายมือถือที่ทีโอทีอ้างว่า ได้รับมอบมาจากบริษัทเอกชนคู่สัญญา ซึ่งมีมูลค่ากว่า 200,000 ล้านบาท และหากไม่ได้คลื่นความถี่ 900 มาให้บริการบรรดาทรัพย์สินเหล่านี้จะด้อยค่าไปนั้น ในข้อเท็จจริงแล้วอุปกรณ์เครือข่ายที่ได้รับโอนมาเหล่านี้ ล้วนเป็นโครงข่ายที่ผ่านการใช้งานมานานแล้ว และยังจำเป็นจะต้องลงทุนเพิ่มอีกนับ 10,000 ล้านบาท ในการวางระบบเชื่อมโยง และระบบบริหารโครงข่ายอื่นๆ ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนนับหมื่นล้านบาท ทำให้เกิดคำถามว่าทีโอทีเองจะสามารถดำเนินการบริหารโครงการได้เองหรือไม่ และมีศักยภาพเพียงพอที่จะลงทุนและบริหารโครงข่ายมือถือ 2 และ 3 จีได้เองหรือไม่
“กลัวแต่ว่านอกจากรัฐจะต้องสูญเสียโอกาสในการนำเอาคลื่นความถี่ 900 เมกกะเฮิร์ตส์ปเปิดประมูลและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ระบบเศรษฐกิจผ่านให้รับใบอนุญาต 4 จีแล้ว หากรัฐบาลและกระทรวงไอซีทีเดินตามเกมที่คนทีโอทีเรียกร้องมา ไม่เพียงรัฐจะต้องเข้าไปโอบอุ้มแบกรับภาระการลงทุนตามมาอีกนับหมื่นล้านบาทแล้ว ยังจะต้องทนดูสภาพขององค์กรทีโอทีที่กอดทั้งคลื่น 2100 เมกกะเฮิร์ตส์ และ 900 เมกกะเฮิร์ตส์เอาไว้ โดยไม่สามารถนำไปหาประโยชน์ได้”
วันที่ 27 สิงหาคม 2558
ขอขอบคุณ http://www.thaibizcenter.com/rss/page.a ... l%2F660791
ทั้งนี้ แหล่งข่าวกล่าวว่า ข้ออ้างที่ทีโอทีอ้างว่า หากทีโอทีไม่มีคลื่น 900 MHz มาให้บริการ บรรดาทรัพย์สินโครงข่ายมือถือที่รับโอนมาจากบริษัทเอกชนนับแสนล้านบาทจะด้อยค่าลงไปนั้นเป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น เพราะก่อนหน้านี้รัฐบาลเองก็เคยจัดสรรคลื่นความถี่ 2100 MHz ให้แก่ทีโอทีเพื่อนำไปให้บริการมือถือระบบ 3 จีมาแล้ว โดยจัดสรรให้ไปก่อนใครอื่นแต่ทีโอทีก็กลับไม่สามารถจะนำเอาคลื่นความถี่ที่ได้รับไปหากินใด ๆ ได้ โครงการให้บริการ 3 จีทีโอทีในปัจจุบันนั้นกล่าวได้ว่า อยู่ในสภาพที่ล้มเหลว แม้จะดึงบริษัทสื่อสารเอกชนเข้ามาร่วมทำการตลาดแบบโครงข่ายเสมือน NVMO แต่ก็ไม่สามารถจะแข่งขันกับเอกชนได้ทำให้ทีโอทีต้องประสบกับการขาดทุนบักโกรกหนักเข้าไปอีก
“หากรัฐบาลจัดสรรคลื่นความถี่ 900 MHz ให้แก่ทีโอทีไปอีก ก็คงไม่พ้นจะลงเอยแบบกรณีการจัดสรรคลื่นความถี่ 2100 เมกกะเฮิร์ตส์ที่ทีโอทีไม่สามารถจะนำไปหาประโยชน์หรือสร้างมูลค่าเพิ่มใด ๆ ให้แก่องค์กรได้ เพราะการจะเอาคลื่น 900 ไปให้บริการมือถือระบบ 2 จีนั้น จะยิ่งทำให้ทีโอทีอยู่ในสถานะที่โดดเดี่ยว ไม่สามารถจะแข่งขันกับเอกชนได้เพราะเทรนด์ตลาดมือถือต่างบ่ายหน้าสู่ตลาด 3 และ 4 จีไปหมดแล้ว แม้แต่เพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียนต่างก็เปิดให้บริการระบบ 4 จีไปหมดแล้ว”
ส่วนเรื่องของอุปกรณ์เครือข่ายมือถือที่ทีโอทีอ้างว่า ได้รับมอบมาจากบริษัทเอกชนคู่สัญญา ซึ่งมีมูลค่ากว่า 200,000 ล้านบาท และหากไม่ได้คลื่นความถี่ 900 มาให้บริการบรรดาทรัพย์สินเหล่านี้จะด้อยค่าไปนั้น ในข้อเท็จจริงแล้วอุปกรณ์เครือข่ายที่ได้รับโอนมาเหล่านี้ ล้วนเป็นโครงข่ายที่ผ่านการใช้งานมานานแล้ว และยังจำเป็นจะต้องลงทุนเพิ่มอีกนับ 10,000 ล้านบาท ในการวางระบบเชื่อมโยง และระบบบริหารโครงข่ายอื่นๆ ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนนับหมื่นล้านบาท ทำให้เกิดคำถามว่าทีโอทีเองจะสามารถดำเนินการบริหารโครงการได้เองหรือไม่ และมีศักยภาพเพียงพอที่จะลงทุนและบริหารโครงข่ายมือถือ 2 และ 3 จีได้เองหรือไม่
“กลัวแต่ว่านอกจากรัฐจะต้องสูญเสียโอกาสในการนำเอาคลื่นความถี่ 900 เมกกะเฮิร์ตส์ปเปิดประมูลและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ระบบเศรษฐกิจผ่านให้รับใบอนุญาต 4 จีแล้ว หากรัฐบาลและกระทรวงไอซีทีเดินตามเกมที่คนทีโอทีเรียกร้องมา ไม่เพียงรัฐจะต้องเข้าไปโอบอุ้มแบกรับภาระการลงทุนตามมาอีกนับหมื่นล้านบาทแล้ว ยังจะต้องทนดูสภาพขององค์กรทีโอทีที่กอดทั้งคลื่น 2100 เมกกะเฮิร์ตส์ และ 900 เมกกะเฮิร์ตส์เอาไว้ โดยไม่สามารถนำไปหาประโยชน์ได้”
วันที่ 27 สิงหาคม 2558
ขอขอบคุณ http://www.thaibizcenter.com/rss/page.a ... l%2F660791