พลังงานมึนแผนศึกษาสร้างท่อส่งน้ำมันสะดุด
Posted: 13 Mar 2014, 15:06
พลังงานมึนแผนศึกษาสร้างท่อส่งน้ำมันสะดุด
กรมธุรกิจพลังงานเผยผลการศึกษาสร้างท่อส่งน้ำมันสะดุด พบเป็นพื้นที่อุทยาน เตรียมเปลี่ยนแนวท่อไปภาคอีสานและภาคเหนือใหม่ ย้ำผลการศึกษาต้องเสร็จในปี 2557 นี้ ขณะที่ภาคเอกชน ”แทปไลน์” ทำการศึกษาเส้นทางว่างท่อส่งน้ำมันเอง คาดได้ข้อสรุปภายในเดือน มิ.ย.2557 นี้
นายสมนึก บำรุงสาลี อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการท่อส่งน้ำมันไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ วงเงินประมาณ 20,000 ล้านบาท ที่มีการว่าจ้างทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยดำเนินการศึกษาและจัดทำรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมว่า ทางคณะผู้ศึกษา ได้ส่งรายงานความคืบหน้าของการศึกษาเบื้องต้นมาแล้ว พบว่าแนวเส้นทางท่อส่งน้ำมันที่เคยกำหนดไว้ในตอนต้น จากระยอง-กบินทร์บุรี-นครราชสีมา จะมีปัญหาอุปสรรคในการวางท่อส่งน้ำมัน เนื่องจากติดปัญหาที่ต้องผ่านพื้นที่เขตอุทยาน จึงต้องเปลี่ยนแนวท่อส่งน้ำมันมาศึกษาต่อจากแนวเส้นท่อที่มีอยู่เดิม คือจากปทุมธานีไปยังสระบุรี และนครราชสีมา รวมทั้งจะมีการศึกษาแนวท่อต่อไปยังพื้นที่อีสานใต้ อย่างบุรีรัมย์ สุรินทร์ ที่คาดว่าจะมีความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ในแนวเส้นทางการวางท่อส่งน้ำมันจากภาคเหนือ ก็จะเปลี่ยนแนวให้ผ่านจังหวัดกำแพงเพชร ขึ้นไปยังจังหวัดอื่นๆ ในภาคเหนือแทน
ทั้งนี้ ทางจุฬาฯ อาจจะมีการขอขยายกรอบระยะเวลาการศึกษาออกไป จากเดิมที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ต.ค.2557 เนื่องจากมีการเปลี่ยนแนวเส้นทาง อย่างไรก็ตาม กรมธุรกิจพลังงานพยายามที่จะให้ได้ผลการศึกษาสรุปออกมาภายในปี 2557 นี้
สำหรับการศึกษาแนวเส้นทางการวางท่อขนส่งน้ำมันที่ทางบริษัทท่อส่งปิโตรเลียมไทย หรือแทปไลน์ ดำเนินการศึกษาเองนั้น เดิมคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณไตรมาสแรกของปี 2557 แต่คงจะเลื่อนสรุปผลการศึกษาและแจ้งให้กรมธุรกิจพลังงานได้รับทราบในภายในเดือน มิ.ย.2557 นี้
สำหรับการดำเนินการศึกษาและจัดทำรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการวางท่อส่งน้ำมันไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ที่กรมธุรกิจพลังงานว่าจ้างจุฬาฯ เป็นผู้ดำเนินการศึกษานั้น เดิมมีกรอบระยะเวลาในการศึกษาประมาณ 10 เดือน วงเงิน 82 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อที่จะให้ภาครัฐหาแนวทางเป็นผู้ลงทุนโครงการเอง หากแทปไลน์ซึ่งเป็นผู้ให้บริการอยู่เดิมไม่พร้อมที่จะลงทุน โดยหลังจากที่ผลการศึกษาแล้วเสร็จในปี 2557 จะมีการวางงบประมาณ 2558 สำหรับท่อขนส่งน้ำมันและคลังน้ำมันตามแนวท่อ และจะเริ่มต้นก่อสร้างได้ในปีงบประมาณ 2559 เพื่อให้โครงการแล้วเสร็จในปีงบประมาณ 2561.
ที่มา ไทยโพสต์
วันที่ 13 มีนาคม 2557
กรมธุรกิจพลังงานเผยผลการศึกษาสร้างท่อส่งน้ำมันสะดุด พบเป็นพื้นที่อุทยาน เตรียมเปลี่ยนแนวท่อไปภาคอีสานและภาคเหนือใหม่ ย้ำผลการศึกษาต้องเสร็จในปี 2557 นี้ ขณะที่ภาคเอกชน ”แทปไลน์” ทำการศึกษาเส้นทางว่างท่อส่งน้ำมันเอง คาดได้ข้อสรุปภายในเดือน มิ.ย.2557 นี้
นายสมนึก บำรุงสาลี อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการท่อส่งน้ำมันไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ วงเงินประมาณ 20,000 ล้านบาท ที่มีการว่าจ้างทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยดำเนินการศึกษาและจัดทำรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมว่า ทางคณะผู้ศึกษา ได้ส่งรายงานความคืบหน้าของการศึกษาเบื้องต้นมาแล้ว พบว่าแนวเส้นทางท่อส่งน้ำมันที่เคยกำหนดไว้ในตอนต้น จากระยอง-กบินทร์บุรี-นครราชสีมา จะมีปัญหาอุปสรรคในการวางท่อส่งน้ำมัน เนื่องจากติดปัญหาที่ต้องผ่านพื้นที่เขตอุทยาน จึงต้องเปลี่ยนแนวท่อส่งน้ำมันมาศึกษาต่อจากแนวเส้นท่อที่มีอยู่เดิม คือจากปทุมธานีไปยังสระบุรี และนครราชสีมา รวมทั้งจะมีการศึกษาแนวท่อต่อไปยังพื้นที่อีสานใต้ อย่างบุรีรัมย์ สุรินทร์ ที่คาดว่าจะมีความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ในแนวเส้นทางการวางท่อส่งน้ำมันจากภาคเหนือ ก็จะเปลี่ยนแนวให้ผ่านจังหวัดกำแพงเพชร ขึ้นไปยังจังหวัดอื่นๆ ในภาคเหนือแทน
ทั้งนี้ ทางจุฬาฯ อาจจะมีการขอขยายกรอบระยะเวลาการศึกษาออกไป จากเดิมที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ต.ค.2557 เนื่องจากมีการเปลี่ยนแนวเส้นทาง อย่างไรก็ตาม กรมธุรกิจพลังงานพยายามที่จะให้ได้ผลการศึกษาสรุปออกมาภายในปี 2557 นี้
สำหรับการศึกษาแนวเส้นทางการวางท่อขนส่งน้ำมันที่ทางบริษัทท่อส่งปิโตรเลียมไทย หรือแทปไลน์ ดำเนินการศึกษาเองนั้น เดิมคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณไตรมาสแรกของปี 2557 แต่คงจะเลื่อนสรุปผลการศึกษาและแจ้งให้กรมธุรกิจพลังงานได้รับทราบในภายในเดือน มิ.ย.2557 นี้
สำหรับการดำเนินการศึกษาและจัดทำรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการวางท่อส่งน้ำมันไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ที่กรมธุรกิจพลังงานว่าจ้างจุฬาฯ เป็นผู้ดำเนินการศึกษานั้น เดิมมีกรอบระยะเวลาในการศึกษาประมาณ 10 เดือน วงเงิน 82 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อที่จะให้ภาครัฐหาแนวทางเป็นผู้ลงทุนโครงการเอง หากแทปไลน์ซึ่งเป็นผู้ให้บริการอยู่เดิมไม่พร้อมที่จะลงทุน โดยหลังจากที่ผลการศึกษาแล้วเสร็จในปี 2557 จะมีการวางงบประมาณ 2558 สำหรับท่อขนส่งน้ำมันและคลังน้ำมันตามแนวท่อ และจะเริ่มต้นก่อสร้างได้ในปีงบประมาณ 2559 เพื่อให้โครงการแล้วเสร็จในปีงบประมาณ 2561.
ที่มา ไทยโพสต์
วันที่ 13 มีนาคม 2557