เร่งมือหน่อย : ลลิตเทพ ทรัพย์เมือง
Posted: 14 Mar 2014, 15:27
เร่งมือหน่อย : ลลิตเทพ ทรัพย์เมือง
รู้กันหรือยังครับ ว่าวันที่ 1 เม.ย.นี้ เอกชนที่ประมูลคว้าใบอนุญาตทีวีดิจิตอล 24 ช่อง จะเริ่มทำการทดลองออกอากาศกันแล้ว
ขอฟันธงแบบไม่ต้องให้เดาว่าเกิน 80% ยังไม่รู้เรื่องนี้ ตอนนี้ชักจะแปลกใจเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่ดูเหมือนจะทำงานล่าช้า กับกระบวนการประชาสัมพันธ์ และสร้างความรู้ให้กับประชาชน โดยเรื่องทีวีดิจิตอลถือเป็นเรื่องใหญ่มาก และเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของคนไทยแทบทุกครัวเรือน แต่การสร้างความรู้ ความเข้าใจกับประชาชน มีค่อนข้างน้อยถึงน้อยมาก นี้อีกแค่ไม่ถึง 1 เดือน ช่องดิจิตอลจะเริ่มเปิดออกมาให้บริการกันแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่รู้เลยว่าจะต้องเตรียมตัวกับการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ระบบใหม่อย่างไรบ้าง
ขนาดคนในแวดวงสื่อสารมวลชน ซึ่งคลุกคลีกับข้อมูลข่าวสารโดยตลอด ยังไม่รู้เลยว่าจะต้องทำอย่างไร กล่องดาวเทียมที่ติดอยู่ 2-3 กล่อง นี้จะดูช่องใหม่ได้ไหม? แล้วจะต้องติดกล่องเพิ่มหรือเปล่า? จำเป็นต้องซื้อทีวีเครื่องใหม่หรือไม่? ต้องจ้างช่างมาตั้งเสาหรือเปล่า? โอ๊ย อีกมากมายสารพัด คำถามนี้ขนาดสื่อที่มีความรู้นะ แล้วอย่างตาสี ตาสา ยายมี ยายมา จะเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือเปล่า
ประเด็นเหล่านี้ คือ โจทย์ใหญ่ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ซึ่งเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบเรื่องนี้ จะต้องวางแนวทางประชาสัมพันธ์เรื่องทีวีดิจิตอล ให้เกิดการรับรู้ในวงกว้างมากกว่านี้ ซึ่งในความเป็นจริง งานนี้ไม่น่าจะยาก เพราะผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล โดยส่วนใหญ่ก็มีสื่อของตัวเองอยู่แล้ว เพียงแค่ขอความร่วมมือ ก็น่าจะนำเสนอข้อมูล สร้างความเข้าใจกับประชาชนได้
กะคร่าวๆ จากสามัญสำนึกส่วนตัว เชื่อว่าตอนนี้มีคนไทยส่วนน้อยเท่านั้นที่มีความเข้าใจเรื่องทีวีดิจิตอล และมีความพร้อมที่จะรับมือกับระบบที่เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น แต่ส่วนใหญ่ของประเทศนั้นยังไม่รู้เลยว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง รู้แต่ว่าจะมีช่องใหม่เพิ่มขึ้น แต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องดูอย่างไร ต้องติดตั้งอะไรบ้าง
หลายคนยังสับสนระหว่างทีวีเคเบิลกับทีวีดาวเทียมด้วยซ้ำ ว่ามีกล่องอยู่แล้ว ต้องเปลี่ยนใหม่หรือเปล่า หรือรับชมได้หรือเปล่า
ขนาดประเด็นเบสิกแบบนี้ ประชาชนยังไม่รู้ ไม่กลัวหรือว่าจะทำให้ประชาชนสับสนมากกว่านี้ และเชื่อว่าในจังหวะที่ประชาชนขาดความเข้าใจที่ถูกต้อง จะเป็นช่องทางที่เอกชนใช้การตลาดเข้ามาล่อหลอกให้ต้องจ่ายแพงกว่าเพื่อซื้อทีวีใหม่ หรือกล่องรับสัญญาณตัวใหม่อีก นี้ก็เป็นการทำร้ายประชาชนทางอ้อม
โดยส่วนตัวผู้เขียนค่อนข้างเห็นด้วยกับทางมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค ได้เรียกร้องให้ กสทช.เร่งเผยแพร่ข้อมูลให้ผู้บริโภคก่อนออกอากาศทีวีดิจิตอลในทุกประเด็น ให้ประชาชนมีความเข้าใจอย่างทั่วถึง จะได้ไม่ตกเป็นทาสทางการตลาดของเอกชน ที่มุ่งจะขายของ แสวงหากำไร เพียงท่าเดียว
นอกจากเรื่องของการให้ความรู้ประชาชนแล้ว โจทย์ใหญ่ ตัวต่อมา คือ การอุดหนุนประชาชนให้เข้าถึงระบบทีวีดิจิตอล ที่ทาง กสทช.เคยให้สัมภาษณ์ไปหลายต่อหลายครั้งว่า จะทำการแจงจ่ายคูปองให้ประชาชนนำไปสู่กล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล ที่ถึงตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียงครึ่งเดือนจะเริ่มมีการทดลองออกอากาศ แต่กระบวนการแจกคูปอง เงินสด ดังกล่าว ก็ยังไม่มีความชัดเจนเลยว่าจะจัดสรรอย่างไร และใครควรได้ ซึ่งแน่นอน โจทย์นี้เป็นงานช้างระดับประเทศ ซึ่งการปฏิบัติคงจะยากสุดๆ แน่นอน ถ้าเลือกแจกจ่ายตามทะเบียนราษฎร์ ที่มีประมาณ 22 ล้านครัวเรือนนั้น จะใช้วิธีการแจกจ่ายอย่างไร ให้ประชาชนทุกคนได้รับการอุดหนุนอย่างทั่วถึง แล้วกลุ่มที่อยู่นอกทะเบียนราษฎร์ เช่น กลุ่มแรงงานในเมือง กลุ่มประชากรเฉพาะที่อยู่ห่างไกล หรือกลุ่มคนพิการ ฯลฯ เขาจะมีโอกาสได้รับคูปองแบบนี้หรือเปล่า
แม้ว่าก่อนหน้านี้ นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ (กสท.) ระบุว่า เบื้องต้นการแจกคูปองจะทำงานร่วมกับการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และไปรษณีย์ไทยนำจ่ายพร้อมใบแจ้งหนี้ แต่กระบวนนี้ก็ยังไม่ช่องโหว่เยอะมาก เอาเฉพาะในประเทศ กลุ่มพวกที่อยู่อาศัย ตามหอพัก บ้านเช่า ซึ่งไม่ได้จดทะเบียน ขอใช้ไฟกับการไฟฟ้า ก็หมดสิทธิ์ที่จะได้รับคูปองอุดหนุน กลายเป็นว่ากลุ่มนี้จะมีความรู้สึกเหลื่อมล้ำ และอาจจะกลายเป็นปัญหาตามมา
นี้ยังไม่ร่วมกับปัญหาทางด้านเทคนิคอีกมากมาย อย่างทางฝั่งเอกชน เจ้าของสัมปทานเองก็กำลังวุ่นกับปัญหาที่ผู้ให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิตอลยังไม่สามารถรองรับการถ่ายทอดสัญญาณของผู้ผลิตหลายๆ เจ้าได้ ซึ่งในส่วนของบริษัทหน้าใหม่ ก็จะต้องเจอปัญหาสูญเสียโอกาสทางธุรกิจไปพอสมควร
นี้คือระเบิด 3 ลูกใหญ่ ที่ กสท.จะต้องเจออย่างแน่นอน ในการนำพาประเทศเปลี่ยนผ่าน ทีวียุคดิจิตอล อย่างไรซะ อันดับแรก สิ่งที่ต้องทำทันที คือ การสร้างความเข้าใจกับประชาชน ให้รู้จักการส่งสัญญาณ ระบบใหม่ให้ดีเสียก่อน ถ้าทำไม่ได้ เตรียมตัวรับมือมวลมหาประชาชนแฟนทีวีรุมโขกสับแน่นอน.
ที่มา ไทยโพสต์
วันที่14 มีนาคม 2557
รู้กันหรือยังครับ ว่าวันที่ 1 เม.ย.นี้ เอกชนที่ประมูลคว้าใบอนุญาตทีวีดิจิตอล 24 ช่อง จะเริ่มทำการทดลองออกอากาศกันแล้ว
ขอฟันธงแบบไม่ต้องให้เดาว่าเกิน 80% ยังไม่รู้เรื่องนี้ ตอนนี้ชักจะแปลกใจเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่ดูเหมือนจะทำงานล่าช้า กับกระบวนการประชาสัมพันธ์ และสร้างความรู้ให้กับประชาชน โดยเรื่องทีวีดิจิตอลถือเป็นเรื่องใหญ่มาก และเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของคนไทยแทบทุกครัวเรือน แต่การสร้างความรู้ ความเข้าใจกับประชาชน มีค่อนข้างน้อยถึงน้อยมาก นี้อีกแค่ไม่ถึง 1 เดือน ช่องดิจิตอลจะเริ่มเปิดออกมาให้บริการกันแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่รู้เลยว่าจะต้องเตรียมตัวกับการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ระบบใหม่อย่างไรบ้าง
ขนาดคนในแวดวงสื่อสารมวลชน ซึ่งคลุกคลีกับข้อมูลข่าวสารโดยตลอด ยังไม่รู้เลยว่าจะต้องทำอย่างไร กล่องดาวเทียมที่ติดอยู่ 2-3 กล่อง นี้จะดูช่องใหม่ได้ไหม? แล้วจะต้องติดกล่องเพิ่มหรือเปล่า? จำเป็นต้องซื้อทีวีเครื่องใหม่หรือไม่? ต้องจ้างช่างมาตั้งเสาหรือเปล่า? โอ๊ย อีกมากมายสารพัด คำถามนี้ขนาดสื่อที่มีความรู้นะ แล้วอย่างตาสี ตาสา ยายมี ยายมา จะเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือเปล่า
ประเด็นเหล่านี้ คือ โจทย์ใหญ่ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ซึ่งเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบเรื่องนี้ จะต้องวางแนวทางประชาสัมพันธ์เรื่องทีวีดิจิตอล ให้เกิดการรับรู้ในวงกว้างมากกว่านี้ ซึ่งในความเป็นจริง งานนี้ไม่น่าจะยาก เพราะผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล โดยส่วนใหญ่ก็มีสื่อของตัวเองอยู่แล้ว เพียงแค่ขอความร่วมมือ ก็น่าจะนำเสนอข้อมูล สร้างความเข้าใจกับประชาชนได้
กะคร่าวๆ จากสามัญสำนึกส่วนตัว เชื่อว่าตอนนี้มีคนไทยส่วนน้อยเท่านั้นที่มีความเข้าใจเรื่องทีวีดิจิตอล และมีความพร้อมที่จะรับมือกับระบบที่เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น แต่ส่วนใหญ่ของประเทศนั้นยังไม่รู้เลยว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง รู้แต่ว่าจะมีช่องใหม่เพิ่มขึ้น แต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องดูอย่างไร ต้องติดตั้งอะไรบ้าง
หลายคนยังสับสนระหว่างทีวีเคเบิลกับทีวีดาวเทียมด้วยซ้ำ ว่ามีกล่องอยู่แล้ว ต้องเปลี่ยนใหม่หรือเปล่า หรือรับชมได้หรือเปล่า
ขนาดประเด็นเบสิกแบบนี้ ประชาชนยังไม่รู้ ไม่กลัวหรือว่าจะทำให้ประชาชนสับสนมากกว่านี้ และเชื่อว่าในจังหวะที่ประชาชนขาดความเข้าใจที่ถูกต้อง จะเป็นช่องทางที่เอกชนใช้การตลาดเข้ามาล่อหลอกให้ต้องจ่ายแพงกว่าเพื่อซื้อทีวีใหม่ หรือกล่องรับสัญญาณตัวใหม่อีก นี้ก็เป็นการทำร้ายประชาชนทางอ้อม
โดยส่วนตัวผู้เขียนค่อนข้างเห็นด้วยกับทางมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค ได้เรียกร้องให้ กสทช.เร่งเผยแพร่ข้อมูลให้ผู้บริโภคก่อนออกอากาศทีวีดิจิตอลในทุกประเด็น ให้ประชาชนมีความเข้าใจอย่างทั่วถึง จะได้ไม่ตกเป็นทาสทางการตลาดของเอกชน ที่มุ่งจะขายของ แสวงหากำไร เพียงท่าเดียว
นอกจากเรื่องของการให้ความรู้ประชาชนแล้ว โจทย์ใหญ่ ตัวต่อมา คือ การอุดหนุนประชาชนให้เข้าถึงระบบทีวีดิจิตอล ที่ทาง กสทช.เคยให้สัมภาษณ์ไปหลายต่อหลายครั้งว่า จะทำการแจงจ่ายคูปองให้ประชาชนนำไปสู่กล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล ที่ถึงตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียงครึ่งเดือนจะเริ่มมีการทดลองออกอากาศ แต่กระบวนการแจกคูปอง เงินสด ดังกล่าว ก็ยังไม่มีความชัดเจนเลยว่าจะจัดสรรอย่างไร และใครควรได้ ซึ่งแน่นอน โจทย์นี้เป็นงานช้างระดับประเทศ ซึ่งการปฏิบัติคงจะยากสุดๆ แน่นอน ถ้าเลือกแจกจ่ายตามทะเบียนราษฎร์ ที่มีประมาณ 22 ล้านครัวเรือนนั้น จะใช้วิธีการแจกจ่ายอย่างไร ให้ประชาชนทุกคนได้รับการอุดหนุนอย่างทั่วถึง แล้วกลุ่มที่อยู่นอกทะเบียนราษฎร์ เช่น กลุ่มแรงงานในเมือง กลุ่มประชากรเฉพาะที่อยู่ห่างไกล หรือกลุ่มคนพิการ ฯลฯ เขาจะมีโอกาสได้รับคูปองแบบนี้หรือเปล่า
แม้ว่าก่อนหน้านี้ นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ (กสท.) ระบุว่า เบื้องต้นการแจกคูปองจะทำงานร่วมกับการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และไปรษณีย์ไทยนำจ่ายพร้อมใบแจ้งหนี้ แต่กระบวนนี้ก็ยังไม่ช่องโหว่เยอะมาก เอาเฉพาะในประเทศ กลุ่มพวกที่อยู่อาศัย ตามหอพัก บ้านเช่า ซึ่งไม่ได้จดทะเบียน ขอใช้ไฟกับการไฟฟ้า ก็หมดสิทธิ์ที่จะได้รับคูปองอุดหนุน กลายเป็นว่ากลุ่มนี้จะมีความรู้สึกเหลื่อมล้ำ และอาจจะกลายเป็นปัญหาตามมา
นี้ยังไม่ร่วมกับปัญหาทางด้านเทคนิคอีกมากมาย อย่างทางฝั่งเอกชน เจ้าของสัมปทานเองก็กำลังวุ่นกับปัญหาที่ผู้ให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิตอลยังไม่สามารถรองรับการถ่ายทอดสัญญาณของผู้ผลิตหลายๆ เจ้าได้ ซึ่งในส่วนของบริษัทหน้าใหม่ ก็จะต้องเจอปัญหาสูญเสียโอกาสทางธุรกิจไปพอสมควร
นี้คือระเบิด 3 ลูกใหญ่ ที่ กสท.จะต้องเจออย่างแน่นอน ในการนำพาประเทศเปลี่ยนผ่าน ทีวียุคดิจิตอล อย่างไรซะ อันดับแรก สิ่งที่ต้องทำทันที คือ การสร้างความเข้าใจกับประชาชน ให้รู้จักการส่งสัญญาณ ระบบใหม่ให้ดีเสียก่อน ถ้าทำไม่ได้ เตรียมตัวรับมือมวลมหาประชาชนแฟนทีวีรุมโขกสับแน่นอน.
ที่มา ไทยโพสต์
วันที่14 มีนาคม 2557