อุตุฯ เตือนภาคเหนือระวังพายุฤดูร้อน
Posted: 14 Mar 2014, 16:58
อุตุฯ เตือนภาคเหนือระวังพายุฤดูร้อน
ประเด็น/อุตุเตือนเหนือระวังพายุฤดูร้อน ปัญหาหมอกควันส่งผลกระทบในพื้นที่ภาคเหนืออป่วยแล้ว 1,090 ราย
เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ว่าที่ ร.ต.ปรีชา จินต์ธนาวัตน์ พยากรณ์อากาศ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เปิดเผยว่าบริเวณความกดอากาศสูงกาลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมทะเลจีนใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือในวันนี้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35 - 38องศาเซลเซียส ลมใต้ความเร็ว 10 - 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอุณหภูมิสูงสุดวัดได้ 39.2 องศาเซลเซียส ที่ อ.เถิน จ.ลำปางซึ่งลักษณะเช่นนี้ทำให้มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นโดยมีลักษณะของฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงซึ่งจะมีผลกระทบดังนี้ ในช่วงวันที่ 14-15 มีนาคม 2557 บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนจะได้รับผลกระทบก่อนหลังจากนั้น ภาคเหนือตอนล่าง จะมีผลกระทบในช่วงวันที่ 15-16มีนาคม 2557ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกและลมแรงไว้ด้วย
นายอาคม สุขพันธ์ นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ กล่าวว่าจากการตรวจสอบข้อมูลของทางกรมควบคุมมลพิษ ได้ทราบว่าค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก Pm10 ในพื้นที่ภาคเหนือที่บริเวณสถานีตรวจวัดโรงเรียนยุพราชวิทยาลัยอ.เมืองเชียงใหม่ วัดได้ 130 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม.ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ วัดได้ 129ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. สถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง วัดได้ 154ไมโคกรัมต่อ ลบ.ม. สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย วัดได้ 136 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. สำนักงานสาธารณสุขอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย วัดได้ 146 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแม่ฮ่องสอน วัดได้ 123 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. สถานีอุตุนิยมวิทยาแพร่ วัดได้ 125 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. อุทยานการเรียนรู้กว๊านพะเยา วัดได้ 149 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. และเทศบาลเมืองน่าน จ.น่าน วัดได้ 126 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 120ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนขณะเดียวกันพบว่ามีการเผาไหม้ของพื้นป่าทางทิศใต้ของตัวเมืองเชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง พบว่ามีจุดเผ่าไหม้เกิดขึ้น 70 จุด อยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ 20 จุด พื้นที่ป่าสงวน 48 จุด พื้นที่การเกษตร 2 จุดอำเภอมีการเผาไหม้มาสุดเป็นอำเภอแม่แจ่ม อมก๋อย ฮอต ดอยเต่าและแม่วางส่วนทางเหนือมีอำเภอไชยปราการ แม่แตง พร้าว และเชียงดาวพื้นที่ถูกไฟไหม้รวม 3,449.5 ไร่ มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาโรคทางเดินหายใจแล้ว 1,090 ราย ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ถือเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้และร่วมกันพัฒนาระบบติดต่อสื่อสาร เพื่อใช้ในการแจ้งข่าวสารภายในเครือข่ายนอกจากนี้ยังถือเป็นการฝึกทบทวนความรู้ ทั้งภาคทฤษฏี และภาคปฏิบัติเกี่ยวกับการวิเคราะห์สถานการณ์ โดยมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าซึ่งจะมีรูปแบบการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันระหว่างภาครัฐ เอกชน ประชาชนในพื้นที่โดยมีเป้าหมายคืองดการเผาทุกชนิดในพื้นที่ สร้างความรู้ความ เข้าใจและความร่วมมือของประชาชนให้ตระหนักถึงพิษภัยที่เกิดขึ้นจากหมอกควันและไฟป่าซึ่งไม่ใช่ปัญหาเฉพาะของคนเชียงใหม่แต่เป็นปัญหาระดับประเทศที่รัฐบาลประกาศเป็นวาระแห่งชาติทุกภาคส่วนต้องร่วมกันแก้ไขตลอดจนบูรณการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
นายวิเชียร พุฒิวิญญูผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่าจังหวัดเชียงใหม่ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งจังหวัดเชียงใหม่โดยสั่งการให้อำเภอทุกอำเภอรายงานสถานการณ์ภัยแล้งประจำทุกสัปดาห์ โดยในส่วนของการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง จึงได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง โดยให้อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดทำแผนแจกจ่ายน้ำให้แก่ราษฎร ตามข้อมูลหมู่บ้านและชุมชนที่มีความเสี่ยงต่อการประสบปัญหาภัยแล้งที่ได้สำรวจไว้แล้วส่วนการเตรียมการด้านอื่น ๆ ได้จัดเตรียมกำลังคน สำรวจวัสดุ อุปกรณ์รถยนต์บรรทุกน้ำ เครื่องสูบน้ำเครื่องมือเครื่องใช้ในการบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยแล้งไว้ให้พร้อมใช้การได้ทันทีมีการสำรวจตรวจสอบแหล่งน้ำรวมทั้งภาชนะเก็บกักน้ำให้อยู่ในสภาพที่ใช้การได้อย่างเพียงพอและจัดทำบัญชีไว้เพื่อใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำดังกล่าวนอกจากนี้ก็ได้มีการประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้งจำนวน 8 อำเภอ 29 ตำบล 212 หมู่บ้าน.
ที่มา เดลินิวส์
วันที่14 มีนาคม 2557
ประเด็น/อุตุเตือนเหนือระวังพายุฤดูร้อน ปัญหาหมอกควันส่งผลกระทบในพื้นที่ภาคเหนืออป่วยแล้ว 1,090 ราย
เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ว่าที่ ร.ต.ปรีชา จินต์ธนาวัตน์ พยากรณ์อากาศ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เปิดเผยว่าบริเวณความกดอากาศสูงกาลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมทะเลจีนใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือในวันนี้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35 - 38องศาเซลเซียส ลมใต้ความเร็ว 10 - 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอุณหภูมิสูงสุดวัดได้ 39.2 องศาเซลเซียส ที่ อ.เถิน จ.ลำปางซึ่งลักษณะเช่นนี้ทำให้มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นโดยมีลักษณะของฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงซึ่งจะมีผลกระทบดังนี้ ในช่วงวันที่ 14-15 มีนาคม 2557 บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนจะได้รับผลกระทบก่อนหลังจากนั้น ภาคเหนือตอนล่าง จะมีผลกระทบในช่วงวันที่ 15-16มีนาคม 2557ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกและลมแรงไว้ด้วย
นายอาคม สุขพันธ์ นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ กล่าวว่าจากการตรวจสอบข้อมูลของทางกรมควบคุมมลพิษ ได้ทราบว่าค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก Pm10 ในพื้นที่ภาคเหนือที่บริเวณสถานีตรวจวัดโรงเรียนยุพราชวิทยาลัยอ.เมืองเชียงใหม่ วัดได้ 130 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม.ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ วัดได้ 129ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. สถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง วัดได้ 154ไมโคกรัมต่อ ลบ.ม. สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย วัดได้ 136 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. สำนักงานสาธารณสุขอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย วัดได้ 146 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแม่ฮ่องสอน วัดได้ 123 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. สถานีอุตุนิยมวิทยาแพร่ วัดได้ 125 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. อุทยานการเรียนรู้กว๊านพะเยา วัดได้ 149 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. และเทศบาลเมืองน่าน จ.น่าน วัดได้ 126 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 120ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนขณะเดียวกันพบว่ามีการเผาไหม้ของพื้นป่าทางทิศใต้ของตัวเมืองเชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง พบว่ามีจุดเผ่าไหม้เกิดขึ้น 70 จุด อยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ 20 จุด พื้นที่ป่าสงวน 48 จุด พื้นที่การเกษตร 2 จุดอำเภอมีการเผาไหม้มาสุดเป็นอำเภอแม่แจ่ม อมก๋อย ฮอต ดอยเต่าและแม่วางส่วนทางเหนือมีอำเภอไชยปราการ แม่แตง พร้าว และเชียงดาวพื้นที่ถูกไฟไหม้รวม 3,449.5 ไร่ มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาโรคทางเดินหายใจแล้ว 1,090 ราย ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ถือเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้และร่วมกันพัฒนาระบบติดต่อสื่อสาร เพื่อใช้ในการแจ้งข่าวสารภายในเครือข่ายนอกจากนี้ยังถือเป็นการฝึกทบทวนความรู้ ทั้งภาคทฤษฏี และภาคปฏิบัติเกี่ยวกับการวิเคราะห์สถานการณ์ โดยมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าซึ่งจะมีรูปแบบการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันระหว่างภาครัฐ เอกชน ประชาชนในพื้นที่โดยมีเป้าหมายคืองดการเผาทุกชนิดในพื้นที่ สร้างความรู้ความ เข้าใจและความร่วมมือของประชาชนให้ตระหนักถึงพิษภัยที่เกิดขึ้นจากหมอกควันและไฟป่าซึ่งไม่ใช่ปัญหาเฉพาะของคนเชียงใหม่แต่เป็นปัญหาระดับประเทศที่รัฐบาลประกาศเป็นวาระแห่งชาติทุกภาคส่วนต้องร่วมกันแก้ไขตลอดจนบูรณการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
นายวิเชียร พุฒิวิญญูผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่าจังหวัดเชียงใหม่ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งจังหวัดเชียงใหม่โดยสั่งการให้อำเภอทุกอำเภอรายงานสถานการณ์ภัยแล้งประจำทุกสัปดาห์ โดยในส่วนของการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง จึงได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง โดยให้อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดทำแผนแจกจ่ายน้ำให้แก่ราษฎร ตามข้อมูลหมู่บ้านและชุมชนที่มีความเสี่ยงต่อการประสบปัญหาภัยแล้งที่ได้สำรวจไว้แล้วส่วนการเตรียมการด้านอื่น ๆ ได้จัดเตรียมกำลังคน สำรวจวัสดุ อุปกรณ์รถยนต์บรรทุกน้ำ เครื่องสูบน้ำเครื่องมือเครื่องใช้ในการบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยแล้งไว้ให้พร้อมใช้การได้ทันทีมีการสำรวจตรวจสอบแหล่งน้ำรวมทั้งภาชนะเก็บกักน้ำให้อยู่ในสภาพที่ใช้การได้อย่างเพียงพอและจัดทำบัญชีไว้เพื่อใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำดังกล่าวนอกจากนี้ก็ได้มีการประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้งจำนวน 8 อำเภอ 29 ตำบล 212 หมู่บ้าน.
ที่มา เดลินิวส์
วันที่14 มีนาคม 2557