สุ่มเสี่ยงลดเครดิต
Posted: 17 Mar 2014, 17:50
สุ่มเสี่ยงลดเครดิต
ยิ่งเป็นรัฐบาลรักษาการ ที่ไม่สามารถตัดสินใจในนโยบายหลัก ๆ ของประเทศได้ เท่ากับว่าทำให้เศรษฐกิจของประเทศ โดนแช่แข็งไปด้วย
สถาบันจัดอันดับเครดิต ได้จับตามองการเมืองในประเทศไทย มาตั้งแต่มีม็อบต่อต้านรัฐบาลปลายปีที่ผ่านมา
แม้จะยังไม่ขยับเครดิตประเทศไทยลงมาก็ตาม แต่ก็มีแนวสูงที่จะหั่นเครดิตลงมา เพราะสถานการณ์การเมืองไทยสุ่มเสี่ยงเป็นอย่างมาก
ยิ่งเป็นรัฐบาลรักษาการ ที่ไม่สามารถตัดสินใจในนโยบายหลัก ๆ ของประเทศได้ เท่ากับว่าทำให้เศรษฐกิจของประเทศ โดนแช่แข็งไปด้วย
หากเป็นเช่นนี้เกิน 6 เดือน แน่นอนว่าเศรษฐกิจไทยตกหลุม และเป็นหลุมที่ลึกมาก ต้องใช้รถหลายคันฉุดขึ้นมาจากหลุมนี้
ตรงนี้เองที่จะทำให้สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ตัดสินใจไม่ยาก ที่จะลดเครดิตประเทศไทยลงในไม่ช้านี้ หากยังไม่มีปัจจัยบวกมาช่วยกระตุ้น
ขณะเดียวกันตอนนี้ ไม่มีคนในรัฐบาลเป็นหัวหอกสำคัญ ที่จะออกไปตอบโต้ หรือให้ข้อมูลในทางบวกกับประเทศไทย
คงเห็นสภาพของรัฐบาลรักษาการแล้ว ว่าไม่สามารถทำอะไรได้เลย ในการประชุมแต่ละครั้งกลายเป็นสัมภเวสี เร่ร่อนไปตามที่ต่าง ๆ ไม่สามารถบริหารประเทศอย่างเต็มที่
ที่สำคัญ มีแต่ข่าวร้าย ไม่ว่าจะเรื่องการลงทุนต่างประเทศที่เริ่มตีจากประเทศไทย หมดความสนใจประเทศไทยเรียกได้ว่าหายไปอยู่กับเพื่อนบ้าน ส่งผลให้เกิดการเสียโอกาสซ้ำแล้วซ้ำเล่า
นอกจากนี้การตัดสินใจแก้ปัญหา อย่างภัยแล้งปีนี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะรุนแรงพอ ๆกับน้ำท่วมหลายจังหวัด รวมทั้งค่าครองชีพสูง สิ่งเหล่านี้ชาวบ้านต้องดูแลตัวเอง
เวลานี้เชื่อว่าทุกคน ต้องการรัฐบาลตัวจริงมาบริหารประเทศมากกว่าที่จะนั่งรักษาการ เพราะไม่ได้ทำให้ประเทศพัฒนาขึ้นมา ต่างชาติเองก็ขาดความเชื่อถือด้วย
ไม่ว่าทางออกของการเมืองจะเป็นเช่นไร เชื่อทุกฝ่ายต้องการให้มีรัฐบาลตัวจริง ไม่เช่นนั้นเศรษฐกิจของประเทศไทย ไม่แค่แช่แข็ง แต่ดองเค็มแน่!.
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 17 มีนาคม 2557
ยิ่งเป็นรัฐบาลรักษาการ ที่ไม่สามารถตัดสินใจในนโยบายหลัก ๆ ของประเทศได้ เท่ากับว่าทำให้เศรษฐกิจของประเทศ โดนแช่แข็งไปด้วย
สถาบันจัดอันดับเครดิต ได้จับตามองการเมืองในประเทศไทย มาตั้งแต่มีม็อบต่อต้านรัฐบาลปลายปีที่ผ่านมา
แม้จะยังไม่ขยับเครดิตประเทศไทยลงมาก็ตาม แต่ก็มีแนวสูงที่จะหั่นเครดิตลงมา เพราะสถานการณ์การเมืองไทยสุ่มเสี่ยงเป็นอย่างมาก
ยิ่งเป็นรัฐบาลรักษาการ ที่ไม่สามารถตัดสินใจในนโยบายหลัก ๆ ของประเทศได้ เท่ากับว่าทำให้เศรษฐกิจของประเทศ โดนแช่แข็งไปด้วย
หากเป็นเช่นนี้เกิน 6 เดือน แน่นอนว่าเศรษฐกิจไทยตกหลุม และเป็นหลุมที่ลึกมาก ต้องใช้รถหลายคันฉุดขึ้นมาจากหลุมนี้
ตรงนี้เองที่จะทำให้สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ตัดสินใจไม่ยาก ที่จะลดเครดิตประเทศไทยลงในไม่ช้านี้ หากยังไม่มีปัจจัยบวกมาช่วยกระตุ้น
ขณะเดียวกันตอนนี้ ไม่มีคนในรัฐบาลเป็นหัวหอกสำคัญ ที่จะออกไปตอบโต้ หรือให้ข้อมูลในทางบวกกับประเทศไทย
คงเห็นสภาพของรัฐบาลรักษาการแล้ว ว่าไม่สามารถทำอะไรได้เลย ในการประชุมแต่ละครั้งกลายเป็นสัมภเวสี เร่ร่อนไปตามที่ต่าง ๆ ไม่สามารถบริหารประเทศอย่างเต็มที่
ที่สำคัญ มีแต่ข่าวร้าย ไม่ว่าจะเรื่องการลงทุนต่างประเทศที่เริ่มตีจากประเทศไทย หมดความสนใจประเทศไทยเรียกได้ว่าหายไปอยู่กับเพื่อนบ้าน ส่งผลให้เกิดการเสียโอกาสซ้ำแล้วซ้ำเล่า
นอกจากนี้การตัดสินใจแก้ปัญหา อย่างภัยแล้งปีนี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะรุนแรงพอ ๆกับน้ำท่วมหลายจังหวัด รวมทั้งค่าครองชีพสูง สิ่งเหล่านี้ชาวบ้านต้องดูแลตัวเอง
เวลานี้เชื่อว่าทุกคน ต้องการรัฐบาลตัวจริงมาบริหารประเทศมากกว่าที่จะนั่งรักษาการ เพราะไม่ได้ทำให้ประเทศพัฒนาขึ้นมา ต่างชาติเองก็ขาดความเชื่อถือด้วย
ไม่ว่าทางออกของการเมืองจะเป็นเช่นไร เชื่อทุกฝ่ายต้องการให้มีรัฐบาลตัวจริง ไม่เช่นนั้นเศรษฐกิจของประเทศไทย ไม่แค่แช่แข็ง แต่ดองเค็มแน่!.
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 17 มีนาคม 2557