สหรัฐ-รัสเซียเปิดสงครามน้ำลายบนเวทียูเอ็น
Posted: 20 Mar 2014, 12:40
สหรัฐ-รัสเซียเปิดสงครามน้ำลายบนเวทียูเอ็น
เอกอัครราชทูตสหรัฐและรัสเซียกล่าวโจมตีกันอย่างดุเดือดในเรื่องยูเครน บนเวทีการประชุมของสหประชาชาติ ( ยูเอ็น )
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ว่านางซาแมนธา พาวเวอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) กล่าวต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) โจมตีการผนวกไครเมียเข้าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซีย ว่าเสมือนเป็นการ "ลักขโมย" จากยูเครน แต่ไม่มีทางแสดงความเป็นเจ้าของได้อย่างเต็มภาคภูมิ พร้อมกับเตือนมอสโกว่า สหรัฐและพันธมิตรเตรียมยกระดับมาตรการกดดันทุกรูปแบบ หากรัสเซียยังคงเดินหน้าแสดงท่าทีคุกคามและข่มขู่อธิปไตยของยูเครน
หลังจากนั้นนายวิทาลี เชอร์กิน เอกอัครราชทูตรัสเซีย กล่าวปกป้องประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ซึ่งลงนามร่วมกับคณะผู้บริหารไครเมีย ในสนธิสัญญาผนวกไครเมียเข้าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของมอสโกเมื่อวันอังคาร ว่าถือเป็นประวัติศาสตร์อันน่าจดจำของชาวรัสเซีย และยืนยันว่า ผลการลงประชามติเมื่อวันอาทิตย์เป็นไปตามกฎหมายสากลทุกประการ ก่อนตอบโต้ถ้อยแถลงของพาวเวอร์ว่า หากสหรัฐและพันธมิตรต้องการความร่วมมือจากรัสเซียในด้านอื่น ทุกฝ่ายต้องเคารพจุดยืนของรัสเซียในเรื่องยูเครนและไครเมีย
แม้เชอร์กินจะไม่ได้กล่าวอย่างชัดเจนว่าหมายถึงความร่วมมือด้านใด แต่เป็นที่ทราบกันดัว่า สหรัฐและรัสเซียมีบทบาทสำคัญในการเจรจาสันติภาพซีเรีย และโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ซึ่งท่าทีของเชอร์กินทำให้พาวเวอร์ลุกออกจากที่ประชุม และมอบหมายให้ผู้ช่วยของเธอทำหน้าที่ต่อ
บรรยากาศตึงเครียดในที่ประชุมยูเอ็นเอสซีมีขึ้นหลังนายบัน คี-มูน เลขาธิการใหญ่ยูเอ็น เดินทางเยือนรัสเซียและยูเครน เพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ เพื่อหาทางออกจากวิกฤตความขัดแย้งทางการเมือง ที่ว่ากันว่าส่งผลกระทบต่อหลายฝ่ายยิ่งกว่าช่วงสงครามเย็น
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 20 มีนาคม 2557
เอกอัครราชทูตสหรัฐและรัสเซียกล่าวโจมตีกันอย่างดุเดือดในเรื่องยูเครน บนเวทีการประชุมของสหประชาชาติ ( ยูเอ็น )
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ว่านางซาแมนธา พาวเวอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) กล่าวต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) โจมตีการผนวกไครเมียเข้าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซีย ว่าเสมือนเป็นการ "ลักขโมย" จากยูเครน แต่ไม่มีทางแสดงความเป็นเจ้าของได้อย่างเต็มภาคภูมิ พร้อมกับเตือนมอสโกว่า สหรัฐและพันธมิตรเตรียมยกระดับมาตรการกดดันทุกรูปแบบ หากรัสเซียยังคงเดินหน้าแสดงท่าทีคุกคามและข่มขู่อธิปไตยของยูเครน
หลังจากนั้นนายวิทาลี เชอร์กิน เอกอัครราชทูตรัสเซีย กล่าวปกป้องประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ซึ่งลงนามร่วมกับคณะผู้บริหารไครเมีย ในสนธิสัญญาผนวกไครเมียเข้าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของมอสโกเมื่อวันอังคาร ว่าถือเป็นประวัติศาสตร์อันน่าจดจำของชาวรัสเซีย และยืนยันว่า ผลการลงประชามติเมื่อวันอาทิตย์เป็นไปตามกฎหมายสากลทุกประการ ก่อนตอบโต้ถ้อยแถลงของพาวเวอร์ว่า หากสหรัฐและพันธมิตรต้องการความร่วมมือจากรัสเซียในด้านอื่น ทุกฝ่ายต้องเคารพจุดยืนของรัสเซียในเรื่องยูเครนและไครเมีย
แม้เชอร์กินจะไม่ได้กล่าวอย่างชัดเจนว่าหมายถึงความร่วมมือด้านใด แต่เป็นที่ทราบกันดัว่า สหรัฐและรัสเซียมีบทบาทสำคัญในการเจรจาสันติภาพซีเรีย และโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ซึ่งท่าทีของเชอร์กินทำให้พาวเวอร์ลุกออกจากที่ประชุม และมอบหมายให้ผู้ช่วยของเธอทำหน้าที่ต่อ
บรรยากาศตึงเครียดในที่ประชุมยูเอ็นเอสซีมีขึ้นหลังนายบัน คี-มูน เลขาธิการใหญ่ยูเอ็น เดินทางเยือนรัสเซียและยูเครน เพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ เพื่อหาทางออกจากวิกฤตความขัดแย้งทางการเมือง ที่ว่ากันว่าส่งผลกระทบต่อหลายฝ่ายยิ่งกว่าช่วงสงครามเย็น
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 20 มีนาคม 2557