ยันประมูลไอพีพีบริษัทร่วมทุนกัลฟ์โปร่งใส
Posted: 11 Jul 2014, 09:21
ยันประมูลไอพีพีบริษัทร่วมทุนกัลฟ์โปร่งใส
“เรกูเลเตอร์” ยันประมูลไอพีพีให้บริษัทร่วมทุนกัลฟ์ 5 พันเมกกะวัตต์โปร่งใส ชี้ยกเลิกสัญญายาก
นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(เรกูเลเตอร์) เปิดเผยถึงกรณีนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน จะขอข้อมูลการประมูลโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ (ไอพีพี) ปี 56 ได้เลือกให้ บริษัท อินดิเพนเดนท์ พาวเวอร์ ดีเวลอปเมนท์ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท กัลฟ์ เอนเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ และบริษัท มิตซุยแอนด์คัมปะนี (ไทยแลนด์) เป็นผู้ชนะประมูลจำนวน 5,000 เมกะวัตต์เพียงรายเดียวว่า เรกูเลเตอร์พร้อมที่จะชี้แจงถึงขั้นตอนทุกอย่างที่ดำเนินการมาอย่างโปร่งใส และถูกต้องตามกฎหมาย
สำหรับเงื่อนไขที่กำหนดในเอกสารยื่นประมูล (อาร์เอฟพี) ที่ผ่านมามีการเปิดรับฟังความคิดเห็นให้กับทุกคนที่สนใจร่วมประมูลและทำการเปิดรับฟังผ่านเว็บไซต์ประมาณ 1 เดือน และยังเปิดให้ดูร่างสัญญา (ทีโออาร์) การประมูล ซึ่งมีการปรับปรุงจากความเห็น เป็นกติกาที่ถือว่า เปิดให้ทราบกันล่วงหน้า และปรับแก้ให้ปฏิบัติได้จึงถือว่า เป็นขั้นตอนที่โปร่งใสตั้งแต่ต้น
ส่วนผลจากหยุดซ่อมแหล่งเจดีเอ ทั้งระบบ ประเมินในเบื้องต้นว่า ต้นทุนค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) จะอยู่ที่ 2.02 สตางค์ต่อหน่วย คิดจากค่าใช้จ่ายรวม 1,153 ล้านบาท ซึ่งค่าใช้จ่ายมาจากเชื้อเพลิงดีเซล และน้ำมันเตาเพื่อใช้ผลิตไฟฟ้า บวกกับการซื้อไฟฟ้าจากมาเลเซีย โดยค่าเอฟทีที่เพิ่มขึ้นจะมีการพิจารณาร่วมกับปัจจัยอื่นอีกครั้งก่อนจะมีการประกาศใช้ในงวดถัดไป คือ ก.ย.-ธ.ค. 57
นายกวิน ทังสุพานิช เลขาธิการสำนักงาน กกพ. กล่าวว่า การยกเลิกสัญญาจะดำเนินการได้หรือไม่คงจะต้องพิจารณาว่ากระบวนการทำมาอย่างถูกต้องเมื่อมีการเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้ว ควรจะต้องเดินตามกฎหมาย หากจะมีการเปลี่ยนแปลงในสัญญา จะต้องมีเหตุผลที่เพียงพอหากกระบวนการต่างๆ เป็นไปตามกฎหมายทุกอย่างก็ต้องเดินตามข้อสัญญาต่อไป และที่สำคัญบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกประหยัดค่าไฟตลอดสัญญาได้ถึง 32,000 ล้านบาท หากเลือกรายอื่นก็จะตอบสังคมได้อย่างไร
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 10 กรกฎาคม 2557
“เรกูเลเตอร์” ยันประมูลไอพีพีให้บริษัทร่วมทุนกัลฟ์ 5 พันเมกกะวัตต์โปร่งใส ชี้ยกเลิกสัญญายาก
นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(เรกูเลเตอร์) เปิดเผยถึงกรณีนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน จะขอข้อมูลการประมูลโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ (ไอพีพี) ปี 56 ได้เลือกให้ บริษัท อินดิเพนเดนท์ พาวเวอร์ ดีเวลอปเมนท์ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท กัลฟ์ เอนเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ และบริษัท มิตซุยแอนด์คัมปะนี (ไทยแลนด์) เป็นผู้ชนะประมูลจำนวน 5,000 เมกะวัตต์เพียงรายเดียวว่า เรกูเลเตอร์พร้อมที่จะชี้แจงถึงขั้นตอนทุกอย่างที่ดำเนินการมาอย่างโปร่งใส และถูกต้องตามกฎหมาย
สำหรับเงื่อนไขที่กำหนดในเอกสารยื่นประมูล (อาร์เอฟพี) ที่ผ่านมามีการเปิดรับฟังความคิดเห็นให้กับทุกคนที่สนใจร่วมประมูลและทำการเปิดรับฟังผ่านเว็บไซต์ประมาณ 1 เดือน และยังเปิดให้ดูร่างสัญญา (ทีโออาร์) การประมูล ซึ่งมีการปรับปรุงจากความเห็น เป็นกติกาที่ถือว่า เปิดให้ทราบกันล่วงหน้า และปรับแก้ให้ปฏิบัติได้จึงถือว่า เป็นขั้นตอนที่โปร่งใสตั้งแต่ต้น
ส่วนผลจากหยุดซ่อมแหล่งเจดีเอ ทั้งระบบ ประเมินในเบื้องต้นว่า ต้นทุนค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) จะอยู่ที่ 2.02 สตางค์ต่อหน่วย คิดจากค่าใช้จ่ายรวม 1,153 ล้านบาท ซึ่งค่าใช้จ่ายมาจากเชื้อเพลิงดีเซล และน้ำมันเตาเพื่อใช้ผลิตไฟฟ้า บวกกับการซื้อไฟฟ้าจากมาเลเซีย โดยค่าเอฟทีที่เพิ่มขึ้นจะมีการพิจารณาร่วมกับปัจจัยอื่นอีกครั้งก่อนจะมีการประกาศใช้ในงวดถัดไป คือ ก.ย.-ธ.ค. 57
นายกวิน ทังสุพานิช เลขาธิการสำนักงาน กกพ. กล่าวว่า การยกเลิกสัญญาจะดำเนินการได้หรือไม่คงจะต้องพิจารณาว่ากระบวนการทำมาอย่างถูกต้องเมื่อมีการเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้ว ควรจะต้องเดินตามกฎหมาย หากจะมีการเปลี่ยนแปลงในสัญญา จะต้องมีเหตุผลที่เพียงพอหากกระบวนการต่างๆ เป็นไปตามกฎหมายทุกอย่างก็ต้องเดินตามข้อสัญญาต่อไป และที่สำคัญบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกประหยัดค่าไฟตลอดสัญญาได้ถึง 32,000 ล้านบาท หากเลือกรายอื่นก็จะตอบสังคมได้อย่างไร
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 10 กรกฎาคม 2557