Page 1 of 1

รู้จัก “Radar” แอปส์ส่องพฤติกรรมเสี่ยงฆ่าตัวตาย

Posted: 10 Nov 2014, 16:26
by brid.siriwan
รู้จัก “Radar” แอปส์ส่องพฤติกรรมเสี่ยงฆ่าตัวตาย
เปิดตัวแอปส์มอนิเตอร์พฤติกรรมเสี่ยงฆ่าตัวตาย “เรดาห์” (Radar) ของสมาคมสะมาริตันส์ โดยสามารถสแกนได้จากพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟน เช่น การโพสต์ข้อความต่างๆ บนโลกออนไลน์

องค์กรระหว่างประเทศที่ให้บริการเป็นเพื่อนพูดคุยทางโทรศัพท์ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อป้องกันการฆ่าตัวตายอย่างสมาคมสะมาริตันส์ (Samaritans) เผยแอปส์ใหม่ Radar โดยสามารถมอนิเตอร์พฤติกรรมเสี่ยงฆ่าตัวตายจากการทวีต (Tweet) ที่อาจส่งสัญญาณการมีปัญหาทางจิตใจของผู้ใช้เครื่องรายนั้นๆ ได้ ล่าสุดเผยว่ามียอดการดาวน์โหลดไปแล้วนับพันครั้ง

ยกตัวอย่างการทำงานของระบบ Radar เช่น หากผู้ใช้รายหนึ่งโพสต์ข้อความในลักษณะหมดกำลังใจออกมา แต่อีกสักพัก เขาก็โพสต์เกี่ยวกับฟุตบอล ระบบจะสรุปว่าผู้ใช้รายนี้อาจยังไม่อยู่ในภาวะวิกฤติมากนัก

สำหรับการมอนิเตอร์ของแอปส์ดังกล่าวยังอยู่บนทวิตเตอร์เป็นหลัก ซึ่งในการพัฒนาระดับต่อไปนั้น จะวิเคราะห์และพัฒนาระบบช่วยเหลือให้ตรงกับปัญหาของผู้ใช้มากขึ้น เช่น หากวิเคราะห์ว่าเป็นปัญหาด้านความสัมพันธ์ ระบบจะนำเสนอทางแก้ปัญหาด้านความสัมพันธ์มาให้ เป็นต้น

นอกจากนั้น จะมีการขยายการทำงานร่วมกับโซเชียลมีเดียรายอื่นๆ ซึ่งทางองค์กรเผยว่ามีการพูดคุยกับเฟซบุ๊ก (Facebook) ยักษ์ใหญ่แห่งโลกโซเชียลมีเดียแล้ว และในอนาคตอาจมีการร่วมมือกันพัฒนาบางอย่างขึ้นแน่นอน

อย่างไรก็ดี การเกิดขึ้นของแอปส์ในลักษณะดังกล่าวก็มาพร้อมคำถามเกี่ยวกับรูปแบบการทำงานของแอปส์ว่าอาจล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัว เช่น การติดตามจากข้อความทวีต ฯลฯ โจ เฟิร์นส์ (Joe Ferns) ผู้อำนวยการด้านนโยบาย วิจัย และพัฒนาของสะมาริตันส์เผยว่า การทำงานของแอปส์นั้นจะไม่มีการเก็บข้อมูลของผู้ใช้ที่อาจเข้าข่ายละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ไม่มีทั้งการขอชื่อจริง-รายละเอียดต่างๆ โดยข้อความที่มีการโพสต์ต่อสาธารณะเท่านั้นจึงจะถูกส่งเข้าไปยังเซิร์ฟเวอร์ของทางองค์กร รวมถึงองค์กรไม่มีนโยบายจะเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานต่างๆ ด้วย

คำถามอีกข้อหนึ่งก็คือ แอปส์ลักษณะนี้จะนำมาซึ่งความเพิกเฉยต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันมากขึ้นหรือไม่ เพราะมีแอปส์คอยช่วยมอนิเตอร์แทนแล้ว มร.โจ เฟิร์นส์ กล่าวว่า ตรงกันข้าม เขาคิดว่า แอปส์ดังกล่าวน่าจะทำให้มนุษย์มีโอกาสแสดงความใส่ใจต่อคนรอบข้างได้มากขึ้น

“หลายครั้งที่ข้อความเหล่านี้ถูกส่งมาตอนกลางคืน ซึ่งผู้รับบางคนอาจหลับไปแล้ว และเมื่อตื่นมาตอนเช้า หลายคนก็ยุ่งมากเสียจนไม่มีเวลาเช็คว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง นี่จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ความเศร้าของคนบางคนได้รับการมองเห็น และไม่เชื่อว่าจะเป็นการลดความใส่ใจกันระหว่างมนุษย์ลงได้อย่างแน่นอน”

ห้าเสือโรงพักไทยน่าลองนำมาปรับใช้ดูบ้าง

ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2557