ก.พลังงาน'เมิน'สปช.' เดินหน้าประมูลปิโตรเลียมรอบที่ 21
Posted: 16 Jan 2015, 10:21
?'ก.พลังงาน'เมิน'สปช.' เดินหน้าประมูลปิโตรเลียมรอบที่ 21?
กระทรวงพลังงานเมินเสียงค้านของ"สปช." เรื่องสัมปทานปิโตรเลียม รอบที่ 21 "รมว.พลังงาน" สั่งเดินหน้าประมูล หวังดึงความเชื่อมั่นนักลงทุน ลั่น "ไม่เปลี่ยนแปลงใดๆ เพื่อรักษาเกียรติยศของไทย ไม่เช่นนั้นจะไม่มีใครเชื่อถือ"
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน เปิดเผยถึงกรณีสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้มีการจัดทำผลศึกษาเรื่อง การเปิดให้สัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21และมีข้อเสนอแนะให้ชะลอการเปิดสัมปทานฯออกไปว่า ในหลักการ ขอยืนยันระบบสัมปทานปิโตรเลียมที่นำมาใช้ในรอบที่ 21 นี้ เป็นระบบที่เหมาะสมกับประเทศไทยที่สุดแล้ว และจะยังดำเนินการตามแผนที่ได้วางไว้ โดยเปิดให้ผู้สนใจยื่นประมูลแปลงสัมปทานฯได้จนถึงวันที่ 18 ก.พ. นี้
"จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆตามแผนที่ได้กำหนดไว้ เพราะต้องรักษาเกียรติยศของไทย ไม่เช่นนั้นจะไม่มีใครเชื่อถือ กระทรวงพลังงานมีหน้าที่ในการบริหาร และต้องสร้างความเชื่อมั่น โดยผลการศึกษาของสปช. เป็นข้อเสนอแนะ และพร้อมรับฟังเพื่อนำมาพิจารณา"รมว.พลังงานระบุ
สำหรับข้อเนอของสปช.ที่ต้องการใช้ระบบแบ่งปันผลผลิต (พีเอสซี) มาใช้กับการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมนั้น คงต้องมาพิจารณาก่อนว่า ใช้ได้หรือไม่แต่ยังไม่สามารถใช้กับการเปิดรอบนี้ได้ ส่วนกรณีสัมปทานปิโตรเลียมของบริษัทเชฟรอน และบริษัท.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ที่จะหมดอายุปี2565-2566นั้น ทางกระทรวงกำลังพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งจะสรุปให้เสร็จภายในปี 2558
ด้านนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การเปิดสัมปทานฯรอบที่21 เป็นระบบที่ได้มาตรฐานสากลมีความโปร่งใส โดยใช้แนวทางระบบไทยแลนด์ 3 พลัส และเป็นระบบที่รัฐได้ผลตอบแทนสูงกว่าเมื่อเทียบกับระบบพีเอสซีของพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (เจดีเอ) และหากจะเปลี่ยนมาใช้ระบบพีเอสซี จะขั้นตอนในการเตรียมการที่ใช้เวลามาก ตั้งแต่การการแก้กฏหมาย การตั้งองค์กรใหม่ขึ้นมาดูแล ทั้งระบบใช้เวลาอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 4 ปี ก่อนที่จะมีการเริ่มดำเนินการเปิดพีเอสซีได้
นอกจากนี้ ระบบสัมปทานสามารถตรวจสอบปริมาณก๊าซธรรมชาติ น้ำมันที่ขุดเจาะได้ทั้งระบบและในช่วงที่ปริมาณก๊าซของไทยที่พิสูจน์ได้จะหมดใน7ปี จำเป็นต้องมีความรวดเร็วในการสำรวจแหล่งปิโตรเลียมใหม่ โดยการใช้ระบบสัมปทานสามารถทำได้รวดเร็วกว่า
อย่างไรก็ตาม กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติเตรียมแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ5คนเข้ามาเป็นคณะกรรมการปิโตรเลียม เช่น ด้านภาษี อุตสาหกรรม กฎหมายและองค์กรต่อต้านคอรัปชั่น เพื่อให้เกิดความโปร่งใสน่าเชื่อถือรวมทั้งอยู่ระหว่างการว่าจ้างบริษัทบัญชีรายใหญ่ 1ใน4ของโลกเข้ามาตรวจสอบการทำงานของผู้ที่ได้รับสัมปทานและข้อมูลทุกด้าน เพื่อแก้ข้อสงสัยเรื่องการแจ้งข้อมูลเท็จต่าง ๆด้วย
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 16 มกราคม 2558
กระทรวงพลังงานเมินเสียงค้านของ"สปช." เรื่องสัมปทานปิโตรเลียม รอบที่ 21 "รมว.พลังงาน" สั่งเดินหน้าประมูล หวังดึงความเชื่อมั่นนักลงทุน ลั่น "ไม่เปลี่ยนแปลงใดๆ เพื่อรักษาเกียรติยศของไทย ไม่เช่นนั้นจะไม่มีใครเชื่อถือ"
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน เปิดเผยถึงกรณีสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้มีการจัดทำผลศึกษาเรื่อง การเปิดให้สัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21และมีข้อเสนอแนะให้ชะลอการเปิดสัมปทานฯออกไปว่า ในหลักการ ขอยืนยันระบบสัมปทานปิโตรเลียมที่นำมาใช้ในรอบที่ 21 นี้ เป็นระบบที่เหมาะสมกับประเทศไทยที่สุดแล้ว และจะยังดำเนินการตามแผนที่ได้วางไว้ โดยเปิดให้ผู้สนใจยื่นประมูลแปลงสัมปทานฯได้จนถึงวันที่ 18 ก.พ. นี้
"จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆตามแผนที่ได้กำหนดไว้ เพราะต้องรักษาเกียรติยศของไทย ไม่เช่นนั้นจะไม่มีใครเชื่อถือ กระทรวงพลังงานมีหน้าที่ในการบริหาร และต้องสร้างความเชื่อมั่น โดยผลการศึกษาของสปช. เป็นข้อเสนอแนะ และพร้อมรับฟังเพื่อนำมาพิจารณา"รมว.พลังงานระบุ
สำหรับข้อเนอของสปช.ที่ต้องการใช้ระบบแบ่งปันผลผลิต (พีเอสซี) มาใช้กับการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมนั้น คงต้องมาพิจารณาก่อนว่า ใช้ได้หรือไม่แต่ยังไม่สามารถใช้กับการเปิดรอบนี้ได้ ส่วนกรณีสัมปทานปิโตรเลียมของบริษัทเชฟรอน และบริษัท.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ที่จะหมดอายุปี2565-2566นั้น ทางกระทรวงกำลังพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งจะสรุปให้เสร็จภายในปี 2558
ด้านนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การเปิดสัมปทานฯรอบที่21 เป็นระบบที่ได้มาตรฐานสากลมีความโปร่งใส โดยใช้แนวทางระบบไทยแลนด์ 3 พลัส และเป็นระบบที่รัฐได้ผลตอบแทนสูงกว่าเมื่อเทียบกับระบบพีเอสซีของพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (เจดีเอ) และหากจะเปลี่ยนมาใช้ระบบพีเอสซี จะขั้นตอนในการเตรียมการที่ใช้เวลามาก ตั้งแต่การการแก้กฏหมาย การตั้งองค์กรใหม่ขึ้นมาดูแล ทั้งระบบใช้เวลาอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 4 ปี ก่อนที่จะมีการเริ่มดำเนินการเปิดพีเอสซีได้
นอกจากนี้ ระบบสัมปทานสามารถตรวจสอบปริมาณก๊าซธรรมชาติ น้ำมันที่ขุดเจาะได้ทั้งระบบและในช่วงที่ปริมาณก๊าซของไทยที่พิสูจน์ได้จะหมดใน7ปี จำเป็นต้องมีความรวดเร็วในการสำรวจแหล่งปิโตรเลียมใหม่ โดยการใช้ระบบสัมปทานสามารถทำได้รวดเร็วกว่า
อย่างไรก็ตาม กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติเตรียมแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ5คนเข้ามาเป็นคณะกรรมการปิโตรเลียม เช่น ด้านภาษี อุตสาหกรรม กฎหมายและองค์กรต่อต้านคอรัปชั่น เพื่อให้เกิดความโปร่งใสน่าเชื่อถือรวมทั้งอยู่ระหว่างการว่าจ้างบริษัทบัญชีรายใหญ่ 1ใน4ของโลกเข้ามาตรวจสอบการทำงานของผู้ที่ได้รับสัมปทานและข้อมูลทุกด้าน เพื่อแก้ข้อสงสัยเรื่องการแจ้งข้อมูลเท็จต่าง ๆด้วย
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 16 มกราคม 2558