สั่งรื้อศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคฯ
Posted: 17 Jan 2015, 08:40
?สั่งรื้อศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคฯ?
“ปนัดดา” สั่งรื้อ ศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคแห่งชาติ ทวนความเหมาะสม หวั่นทำงานซ้ำซ้อนเปลืองงบประมาณ
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ทบทวนการจัดตั้งศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคแห่งชาติ เพื่อรับผิดชอบงานคุ้มครองผู้บริโภคแบบเบ็ดเสร็จ ซึ่งรวมงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคของ 10 กระทรวงและ 20 กรม เข้ามาเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาให้รวดเร็วขึ้น โดยสคบ.ต้องกลับไปศึกษาความเหมาะสมของการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวให้ชัดเจน และต้อง
เชื่อมโยงกับศูนย์ดำรงธรรมของทุกจังหวัด ไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน และสิ้นเปลืองงบประมาณ จากนั้นเมื่อเห็นว่า เหมาะสมก็ให้เสนอให้ที่ประชุมครม.พิจารณาเห็นชอบ
นายพิฆเนศ ต๊ะปวง ผู้อำนวยการสำนักแผนและพัฒนาการคุ้มครองผู้บริโภค สคบ. กล่าวว่า ศูนย์ดังกล่าว จัดอยู่ในแผนแม่บทคุ้มคริองผู้บริโภค ซึ่งผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการสคบ.แล้ว โดยคาดว่า จะเสนอให้ครม.เห็นชอบได้ภายในเดือนม.ค.นี้ หรืออย่างช้าก็ต้นเดือนก.พ. จากนั้นจึงเดินหน้างานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคที่เข้มแข็งขึ้น
สำหรับศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคแห่งชาตินั้น อยู่ในแผนแม่บทการคุ้มครองผู้บริโภค ประกอบด้วย5ยุทธศาสตร์ที่สำคัญคือ ยุทธศาสตร์แรกเป็นการพัฒนากลไกนโยบาย มาตรการและกฎหมายที่เป็นเครื่องมือในการคุ้มครองผู้บริโภคยุทธศาสตร์ ,ยุทธศาสตร์ที่ 2การพัฒนาระบบฐานข้อมูลเพื่อการเฝ้าระวังป้องกันและแก้ไขปัญหาการคุ้มครองผู้บริโภค ,ยุทธศาสตร์ที่ 3การพัฒนาองค์ความรู้ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและการสื่อสารสาธารณะ ยุทธศาสตร์ที่ 4 การสร้างและพัฒนาศักยภาพเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และยุทธศาสตร์ที่ 5 การส่งเสริมการบริโภคอย่างยั่งยืนและเป็นธรรม
โดยในแผนแม่บทดังกล่าวจะมีงานสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้บริโภคอย่างทั่วถึง โดยนอกจากการจัดตั้งศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคแห่งชาติ ยังมีการจัดตั้งกองทุนเยียวยาผู้บริโภค โดยจะเสนอขอใช้งบประมาณก้อนแรกมาใช้ตั้งต้นก่อน 20 ล้านบาท อีดทั้งยังมีศูนย์ปฏิบัติการละเมิดสิทธิผู้บริโภคทุกรูปแบบสร้างระบบเตือนภัยให้รู้เท่าทันการถูกเอาเปรียบจากผู้ประกอบการ มีคณะกรรมการตรวจสอบติดตามและเฝ้าระวังธุรกิจที่เอาเปรียบผู้บริโภค
ก่อนหน้านี้นายอำพล วงศ์ศิริ เลขาธิการ สคบ. กล่าวว่า ศูนย์ดังกล่าวคุ้ถือเป็นการปรับโครงสร้างการทำงานของสคบ.ครั้งใหญ่ โดยโครงสร้างจะให้นายกรัฐมนตรี หรือรองนายกที่นายกฯ มอบหมายมาเป็นประธานศูนย์ฯ ส่วนหน้าที่ของหลักศูนย์ฯ จะรวบรวมงานที่ซ้ำซ้อนของแต่ละหน่วยงาน ที่มีข้อกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค มาเร่งแก้ไขในจุดเดียวลดขั้นตอนการดำเนินงานที่ล่าช้า พร้อมทั้งมีหน่วยงาน สคบ.ระดับภูมิภาครับเรื่องร้องเรียน และไกล่เกลี่ยให้จบภายในระดับภูมิภาค รวมถึงสร้างองค์ความรู้ และสร้างเครือข่ายระดับท้องถิ่นด้วย
“เชื่อว่าหากมีศูนย์ดังกล่าวจะช่วยลดข้อครหาสคบ.ว่าเป็นเสือกระดาษ เพราะสคบ.จะกลายมาเป็นเสือตัวจริงที่ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่า สามารถพึ่งพาสคบ.ได้ เพราะจะดูแลในทันที ขณะเดียวกัน หากมีศูนย์ขึ้นมาคงทำให้ผู้บริโภคในต่างจังหวัด สามารถเข้าถึงการร้องเรียนได้มากขึ้นเพราะปัจจุบันการร้องเรียนส่วนใหญ่มักอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งแต่ละปีมีจำนวนการร้องเรียนเพียง 8,000-10,000 เรื่อง แต่ถ้าศูนย์นี้เกิดขึ้น จะช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าใจ เข้าถึงและพึ่งสคบ.ได้ คงทำให้ยอดการร้องเรียนเพิ่มขึ้นถึงปีละ 100,000 เรื่องอย่างแน่นอน”
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 17 มกราคม 2558
“ปนัดดา” สั่งรื้อ ศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคแห่งชาติ ทวนความเหมาะสม หวั่นทำงานซ้ำซ้อนเปลืองงบประมาณ
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ทบทวนการจัดตั้งศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคแห่งชาติ เพื่อรับผิดชอบงานคุ้มครองผู้บริโภคแบบเบ็ดเสร็จ ซึ่งรวมงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคของ 10 กระทรวงและ 20 กรม เข้ามาเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาให้รวดเร็วขึ้น โดยสคบ.ต้องกลับไปศึกษาความเหมาะสมของการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวให้ชัดเจน และต้อง
เชื่อมโยงกับศูนย์ดำรงธรรมของทุกจังหวัด ไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน และสิ้นเปลืองงบประมาณ จากนั้นเมื่อเห็นว่า เหมาะสมก็ให้เสนอให้ที่ประชุมครม.พิจารณาเห็นชอบ
นายพิฆเนศ ต๊ะปวง ผู้อำนวยการสำนักแผนและพัฒนาการคุ้มครองผู้บริโภค สคบ. กล่าวว่า ศูนย์ดังกล่าว จัดอยู่ในแผนแม่บทคุ้มคริองผู้บริโภค ซึ่งผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการสคบ.แล้ว โดยคาดว่า จะเสนอให้ครม.เห็นชอบได้ภายในเดือนม.ค.นี้ หรืออย่างช้าก็ต้นเดือนก.พ. จากนั้นจึงเดินหน้างานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคที่เข้มแข็งขึ้น
สำหรับศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคแห่งชาตินั้น อยู่ในแผนแม่บทการคุ้มครองผู้บริโภค ประกอบด้วย5ยุทธศาสตร์ที่สำคัญคือ ยุทธศาสตร์แรกเป็นการพัฒนากลไกนโยบาย มาตรการและกฎหมายที่เป็นเครื่องมือในการคุ้มครองผู้บริโภคยุทธศาสตร์ ,ยุทธศาสตร์ที่ 2การพัฒนาระบบฐานข้อมูลเพื่อการเฝ้าระวังป้องกันและแก้ไขปัญหาการคุ้มครองผู้บริโภค ,ยุทธศาสตร์ที่ 3การพัฒนาองค์ความรู้ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและการสื่อสารสาธารณะ ยุทธศาสตร์ที่ 4 การสร้างและพัฒนาศักยภาพเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และยุทธศาสตร์ที่ 5 การส่งเสริมการบริโภคอย่างยั่งยืนและเป็นธรรม
โดยในแผนแม่บทดังกล่าวจะมีงานสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้บริโภคอย่างทั่วถึง โดยนอกจากการจัดตั้งศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคแห่งชาติ ยังมีการจัดตั้งกองทุนเยียวยาผู้บริโภค โดยจะเสนอขอใช้งบประมาณก้อนแรกมาใช้ตั้งต้นก่อน 20 ล้านบาท อีดทั้งยังมีศูนย์ปฏิบัติการละเมิดสิทธิผู้บริโภคทุกรูปแบบสร้างระบบเตือนภัยให้รู้เท่าทันการถูกเอาเปรียบจากผู้ประกอบการ มีคณะกรรมการตรวจสอบติดตามและเฝ้าระวังธุรกิจที่เอาเปรียบผู้บริโภค
ก่อนหน้านี้นายอำพล วงศ์ศิริ เลขาธิการ สคบ. กล่าวว่า ศูนย์ดังกล่าวคุ้ถือเป็นการปรับโครงสร้างการทำงานของสคบ.ครั้งใหญ่ โดยโครงสร้างจะให้นายกรัฐมนตรี หรือรองนายกที่นายกฯ มอบหมายมาเป็นประธานศูนย์ฯ ส่วนหน้าที่ของหลักศูนย์ฯ จะรวบรวมงานที่ซ้ำซ้อนของแต่ละหน่วยงาน ที่มีข้อกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค มาเร่งแก้ไขในจุดเดียวลดขั้นตอนการดำเนินงานที่ล่าช้า พร้อมทั้งมีหน่วยงาน สคบ.ระดับภูมิภาครับเรื่องร้องเรียน และไกล่เกลี่ยให้จบภายในระดับภูมิภาค รวมถึงสร้างองค์ความรู้ และสร้างเครือข่ายระดับท้องถิ่นด้วย
“เชื่อว่าหากมีศูนย์ดังกล่าวจะช่วยลดข้อครหาสคบ.ว่าเป็นเสือกระดาษ เพราะสคบ.จะกลายมาเป็นเสือตัวจริงที่ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่า สามารถพึ่งพาสคบ.ได้ เพราะจะดูแลในทันที ขณะเดียวกัน หากมีศูนย์ขึ้นมาคงทำให้ผู้บริโภคในต่างจังหวัด สามารถเข้าถึงการร้องเรียนได้มากขึ้นเพราะปัจจุบันการร้องเรียนส่วนใหญ่มักอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งแต่ละปีมีจำนวนการร้องเรียนเพียง 8,000-10,000 เรื่อง แต่ถ้าศูนย์นี้เกิดขึ้น จะช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าใจ เข้าถึงและพึ่งสคบ.ได้ คงทำให้ยอดการร้องเรียนเพิ่มขึ้นถึงปีละ 100,000 เรื่องอย่างแน่นอน”
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 17 มกราคม 2558