ชง ครม.เห็นชอบแผนการกู้เงินเพิ่มเติม
Posted: 13 Mar 2015, 10:13
ชง ครม.เห็นชอบแผนการกู้เงินเพิ่มเติม
สบน.ชง ครม. สัปดาห์หน้า เห็นชอบแผนการกู้เงินเพิ่มเติม ตามความต้องการใช้จ่ายเงิน ปีงบประมาณ 58 วงเงิน 57,000 ล้านบาท ยันสัดส่วนหนี้สาธารณะจะไม่เกิน 49% ของจีดีพี
นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้า สบน.จะเสนอให้ ครม. เห็นชอบแผนการกู้เงินเพิ่มเติม ตามความต้องการใช้จ่ายเงิน ปีงบประมาณ 58 วงเงิน 57,000 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการบริหารจัดการน้ำ 23,000 ล้านบาท การซ่อมสร้างถนน 34,000 ล้านบาท ซึ่งได้บรรจุในแผนการก่อหนี้สาธารณะแล้ว โดยคาดว่าสิ้นปีงบประมาณ 58 สัดส่วนหนี้สาธารณะจะไม่เกิน 49% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) จากปัจจุบันที่หนี้สาธารณะอยู่ที่ 46.46% ต่อจีดีพี ซึ่งยังต่ำกว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลังที่กำหนดไว้ที่ 60% ต่อจีดีพี
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ครม.ที่ผ่านได้อนุมัติกรอบวงเงินลงทุนจำเป็นเร่งด่วน ของปีงบประมาณ 58 วงเงิน 80,000 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการบริหารจัดการน้ำ 40,000 ล้านบาท ตามแผนการลงทุนระยะยาว 10 ปี วงเงินกว่า 1 ล้านล้านบาท และโครงการก่อสร้างปรับปรุงถนน อีก 40,000 ล้านบาท
“คาดว่าในปีงบประมาณ 58 จะสามารถเบิกจ่ายได้แค่ 57,000 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะเริ่มทยอยกู้เป็นบางส่วนและสามารถเบิกจ่ายวงเงินลงทุนได้ ภายในเดือนเม.ย.-พ.ค.นี้ ส่วนจะกู้จากต่างประเทศหรือในประเทศ ทั้งแบบเทอมโลน หรือเป็นการออกพันธบัตร ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ ครม. ส่วนที่เหลือ 23,000 ล้านบาท จะทยอยกู้ในปีงบประมาณ 59”
สำหรับยอดหนี้สาธารณะคงค้าง สิ้นเดือน ม.ค.58 อยู่ที่ 5.65 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 46.46% ของจีดีพี เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 34,085.53 ล้านบาท แบ่งเป็น หนี้ของรัฐบาลเพิ่มขึ้น 42,109.72 ล้านบาท ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดจาก การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลล่วงหน้าที่จะครบกำหนดในวันที่ 22 พ.ค.58 อยู่ที่ 23,976 ล้านบาท และการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 17,116.61 ล้านบาท
ขณะที่ การกู้เงินเพื่อการลงทุน 1,988.23 ล้านบาท ประกอบด้วย การเบิกจ่ายเงินกู้ตาม พ.ร.ก.บริหารจัดการน้ำฯ 200 ล้านบาท การให้กู้ต่อแก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยและการรถไฟแห่งประเทศไทย 618.23 ล้านบาท สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง สายสีเขียว และสายสีน้ำเงิน รถไฟสายสีแดงและโครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย และการเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อใช้ในโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (ดีพีแอล) 1,170 ล้านบาท
นอกจากนี้ การชำระหนี้ที่กู้มาเพื่อชดเชยความเสียหายให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ 1,802 ล้านบาท, หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินมียอดหนี้คงค้างลดลง 5,058.56 ล้านบาท, หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) มียอดหนี้คงค้างลดลง 1,919.63 ล้านบาท, หนี้หน่วยงานอื่นของรัฐมียอดหนี้คงค้างลดลง 1,046 ล้านบาท สาเหตุที่ลดลง เนื่องจากมีการชำระคืน มากกว่าการเบิกจ่ายเงินกู้ และจากผลของการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 12 มีนาคม 2558
สบน.ชง ครม. สัปดาห์หน้า เห็นชอบแผนการกู้เงินเพิ่มเติม ตามความต้องการใช้จ่ายเงิน ปีงบประมาณ 58 วงเงิน 57,000 ล้านบาท ยันสัดส่วนหนี้สาธารณะจะไม่เกิน 49% ของจีดีพี
นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้า สบน.จะเสนอให้ ครม. เห็นชอบแผนการกู้เงินเพิ่มเติม ตามความต้องการใช้จ่ายเงิน ปีงบประมาณ 58 วงเงิน 57,000 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการบริหารจัดการน้ำ 23,000 ล้านบาท การซ่อมสร้างถนน 34,000 ล้านบาท ซึ่งได้บรรจุในแผนการก่อหนี้สาธารณะแล้ว โดยคาดว่าสิ้นปีงบประมาณ 58 สัดส่วนหนี้สาธารณะจะไม่เกิน 49% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) จากปัจจุบันที่หนี้สาธารณะอยู่ที่ 46.46% ต่อจีดีพี ซึ่งยังต่ำกว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลังที่กำหนดไว้ที่ 60% ต่อจีดีพี
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ครม.ที่ผ่านได้อนุมัติกรอบวงเงินลงทุนจำเป็นเร่งด่วน ของปีงบประมาณ 58 วงเงิน 80,000 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการบริหารจัดการน้ำ 40,000 ล้านบาท ตามแผนการลงทุนระยะยาว 10 ปี วงเงินกว่า 1 ล้านล้านบาท และโครงการก่อสร้างปรับปรุงถนน อีก 40,000 ล้านบาท
“คาดว่าในปีงบประมาณ 58 จะสามารถเบิกจ่ายได้แค่ 57,000 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะเริ่มทยอยกู้เป็นบางส่วนและสามารถเบิกจ่ายวงเงินลงทุนได้ ภายในเดือนเม.ย.-พ.ค.นี้ ส่วนจะกู้จากต่างประเทศหรือในประเทศ ทั้งแบบเทอมโลน หรือเป็นการออกพันธบัตร ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ ครม. ส่วนที่เหลือ 23,000 ล้านบาท จะทยอยกู้ในปีงบประมาณ 59”
สำหรับยอดหนี้สาธารณะคงค้าง สิ้นเดือน ม.ค.58 อยู่ที่ 5.65 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 46.46% ของจีดีพี เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 34,085.53 ล้านบาท แบ่งเป็น หนี้ของรัฐบาลเพิ่มขึ้น 42,109.72 ล้านบาท ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดจาก การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลล่วงหน้าที่จะครบกำหนดในวันที่ 22 พ.ค.58 อยู่ที่ 23,976 ล้านบาท และการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 17,116.61 ล้านบาท
ขณะที่ การกู้เงินเพื่อการลงทุน 1,988.23 ล้านบาท ประกอบด้วย การเบิกจ่ายเงินกู้ตาม พ.ร.ก.บริหารจัดการน้ำฯ 200 ล้านบาท การให้กู้ต่อแก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยและการรถไฟแห่งประเทศไทย 618.23 ล้านบาท สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง สายสีเขียว และสายสีน้ำเงิน รถไฟสายสีแดงและโครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย และการเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อใช้ในโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (ดีพีแอล) 1,170 ล้านบาท
นอกจากนี้ การชำระหนี้ที่กู้มาเพื่อชดเชยความเสียหายให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ 1,802 ล้านบาท, หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินมียอดหนี้คงค้างลดลง 5,058.56 ล้านบาท, หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) มียอดหนี้คงค้างลดลง 1,919.63 ล้านบาท, หนี้หน่วยงานอื่นของรัฐมียอดหนี้คงค้างลดลง 1,046 ล้านบาท สาเหตุที่ลดลง เนื่องจากมีการชำระคืน มากกว่าการเบิกจ่ายเงินกู้ และจากผลของการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 12 มีนาคม 2558