เสน่ห์รถโบราณไม่เลือนหาย
Posted: 25 Jun 2014, 16:28
เสน่ห์รถโบราณไม่เลือนหาย
สำหรับรถทรงคุณค่าและเป็นไฮไลต์ปีนี้ ได้แก่ อัลฟา โรเมโอ สไปเดอร์ ดูเอตโต เริ่มเดินสายการผลิตเมื่อปี ค.ศ. 1966 เผยโฉมครั้งแรกที่งานมหกรรมยานยนต์เจนีวา มีด้านหน้าและบั้นท้ายกลมมน
กลับมาอีกครั้งกับงาน “ประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 38” ของ สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย โดย ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค เป็นเจ้าภาพร่วมจัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 5 ภายใต้แนวคิด “สปอร์ต คาร์ อาร์ ไทม์เลสส์” หรือ “สปอร์ต ไม่เคยเปลี่ยน” กับรถสปอร์ตโบราณ ที่ยังคงโลดแล่นอยู่ถึงปัจจุบัน เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริเวณแคสคาต้า ชั้นจี ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค โดย ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณฯ เผยว่า แนวคิด “สปอร์ตไม่เคยเปลี่ยน” มาจากรถสปอร์ตมากมายหลายรุ่นที่โลดแล่นอยู่บนท้องถนน ปัจจุบันมีตำนานความเป็นมายาวนาน แม้ได้รับการพัฒนาทั้งรูปลักษณ์ เครื่องยนต์ และเทคโนโลยีต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องตามยุคสมัย แต่สปอร์ตยุคเริ่มแรกยังคงความเป็นสปอร์ต ซึ่งหมายถึงความโฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว และทรงเสน่ห์ไม่เปลี่ยนแปลง การประกวดรถโบราณปีนี้ รวบรวมรถโบราณและรถคลาสสิกทรงคุณค่ากว่า 50 คัน มาประชันความเป็นหนึ่ง โดยรถที่นำมาจัดแสดงทุกคันได้รับการรับรองมาตรฐานจากสมาชิกสมาพันธ์รถโบราณโลก
สำหรับรถทรงคุณค่าและเป็นไฮไลต์ปีนี้ ได้แก่ อัลฟา โรเมโอ สไปเดอร์ ดูเอตโต เริ่มเดินสายการผลิตเมื่อปี ค.ศ. 1966 เผยโฉมครั้งแรกที่งานมหกรรมยานยนต์เจนีวา มีด้านหน้าและบั้นท้ายกลมมน จึงถูกเรียกว่า ดูเอตโต ตามแนวเพลงที่มีสไตล์กลมกล่อม คนไทยส่วนใหญ่เรียกรถรุ่นนี้ว่า “ท้ายแมลงสาบ” มีกันชนหน้ามีไฟเลี้ยวซ่อนอยู่ด้านใน และหลังคาเปิดประทุนได้, เมอร์เซเดส-เบนซ์ 190 เอสแอล รถสปอร์ตเปิดประทุนหลังคาอ่อน และหลังคาแข็งแบบถอดได้ให้เลือก โดดเด่นด้วยดีไซน์โค้งมน กระจังหน้าสี่เหลี่ยมผืนผ้า 4 ช่อง ติดโลโก้ดาวสามแฉกตรงกลาง ซุ้มล้อแต่งคิ้วเล็ก ๆ ทั้งล้อหน้าและหลัง ปัจจุบันเป็นรถคลาสสิกยอดนิยมของบรรดานักสะสมและในยุคหลังสงครามโลก ครั้งที่ 2 นอกจากนี้ยังมีรถโบราณหาชมยาก เช่น ฟอร์ด โมเดล เอ ปี ค.ศ. 1930 รถโบราณสัญชาติอเมริกัน ซึ่งอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เนื่องจากยังมีชิ้นส่วนอะไหล่แท้จำหน่ายถึงปัจจุบัน และ เมอร์เซเดส-เบนซ์ 170 เอสวี ปี ค.ศ. 1954 รถหลังสงคราม ซึ่งเจ้าของบูรณะขึ้นจากเศษซาก จนกลับฟื้นคืนชีพ โดยใช้เวลากว่า 20 ปี.
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 23 มิถุนายน 2557
สำหรับรถทรงคุณค่าและเป็นไฮไลต์ปีนี้ ได้แก่ อัลฟา โรเมโอ สไปเดอร์ ดูเอตโต เริ่มเดินสายการผลิตเมื่อปี ค.ศ. 1966 เผยโฉมครั้งแรกที่งานมหกรรมยานยนต์เจนีวา มีด้านหน้าและบั้นท้ายกลมมน
กลับมาอีกครั้งกับงาน “ประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 38” ของ สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย โดย ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค เป็นเจ้าภาพร่วมจัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 5 ภายใต้แนวคิด “สปอร์ต คาร์ อาร์ ไทม์เลสส์” หรือ “สปอร์ต ไม่เคยเปลี่ยน” กับรถสปอร์ตโบราณ ที่ยังคงโลดแล่นอยู่ถึงปัจจุบัน เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริเวณแคสคาต้า ชั้นจี ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค โดย ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณฯ เผยว่า แนวคิด “สปอร์ตไม่เคยเปลี่ยน” มาจากรถสปอร์ตมากมายหลายรุ่นที่โลดแล่นอยู่บนท้องถนน ปัจจุบันมีตำนานความเป็นมายาวนาน แม้ได้รับการพัฒนาทั้งรูปลักษณ์ เครื่องยนต์ และเทคโนโลยีต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องตามยุคสมัย แต่สปอร์ตยุคเริ่มแรกยังคงความเป็นสปอร์ต ซึ่งหมายถึงความโฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว และทรงเสน่ห์ไม่เปลี่ยนแปลง การประกวดรถโบราณปีนี้ รวบรวมรถโบราณและรถคลาสสิกทรงคุณค่ากว่า 50 คัน มาประชันความเป็นหนึ่ง โดยรถที่นำมาจัดแสดงทุกคันได้รับการรับรองมาตรฐานจากสมาชิกสมาพันธ์รถโบราณโลก
สำหรับรถทรงคุณค่าและเป็นไฮไลต์ปีนี้ ได้แก่ อัลฟา โรเมโอ สไปเดอร์ ดูเอตโต เริ่มเดินสายการผลิตเมื่อปี ค.ศ. 1966 เผยโฉมครั้งแรกที่งานมหกรรมยานยนต์เจนีวา มีด้านหน้าและบั้นท้ายกลมมน จึงถูกเรียกว่า ดูเอตโต ตามแนวเพลงที่มีสไตล์กลมกล่อม คนไทยส่วนใหญ่เรียกรถรุ่นนี้ว่า “ท้ายแมลงสาบ” มีกันชนหน้ามีไฟเลี้ยวซ่อนอยู่ด้านใน และหลังคาเปิดประทุนได้, เมอร์เซเดส-เบนซ์ 190 เอสแอล รถสปอร์ตเปิดประทุนหลังคาอ่อน และหลังคาแข็งแบบถอดได้ให้เลือก โดดเด่นด้วยดีไซน์โค้งมน กระจังหน้าสี่เหลี่ยมผืนผ้า 4 ช่อง ติดโลโก้ดาวสามแฉกตรงกลาง ซุ้มล้อแต่งคิ้วเล็ก ๆ ทั้งล้อหน้าและหลัง ปัจจุบันเป็นรถคลาสสิกยอดนิยมของบรรดานักสะสมและในยุคหลังสงครามโลก ครั้งที่ 2 นอกจากนี้ยังมีรถโบราณหาชมยาก เช่น ฟอร์ด โมเดล เอ ปี ค.ศ. 1930 รถโบราณสัญชาติอเมริกัน ซึ่งอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เนื่องจากยังมีชิ้นส่วนอะไหล่แท้จำหน่ายถึงปัจจุบัน และ เมอร์เซเดส-เบนซ์ 170 เอสวี ปี ค.ศ. 1954 รถหลังสงคราม ซึ่งเจ้าของบูรณะขึ้นจากเศษซาก จนกลับฟื้นคืนชีพ โดยใช้เวลากว่า 20 ปี.
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 23 มิถุนายน 2557