กินเปลี่ยนโลก (โรค) กินเปลี่ยนรส กินเปลี่ยนร่าง
Posted: 23 Jul 2014, 16:48
กินเปลี่ยนโลก (โรค) กินเปลี่ยนรส กินเปลี่ยนร่าง
วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ทำให้คนยุคใหม่ลืมใส่ใจอาหารที่บริโภค พฤติกรรมการบริโภคแบบวิถีดั้งเดิมก็ถูกเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน
กิ่งกร นรินทรกุล ณ อยุธยา รองผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี หรือ ไบโอไทย กล่าวว่า ปัจจุบัน ต้นทุนทางความรู้เรื่องอาหารของคนไทยนับวันยิ่งลดน้อยลงเรื่อย ๆ เด็กสมัยนี้ มองเข้าไปในชามแกง ไม่สามารถตอบได้ว่าทำมาจากอะไร ข้าวมีกี่สายพันธุ์ ความสามารถในการรับรสหายไป เพราะรสของอาหารได้ถูกบรรจุลงไปอยู่ในขวด ทั้งที่เมืองไทยมีวัตถุดิบหมุนเวียนให้เลือกใช้ตามฤดูกาลมากมาย และถ้าเราไม่สามารถรู้ที่มาของสิ่งที่เรากิน เราไม่สามารถเลือกกินได้อย่างเหมาะสม
แล้วทำไมเราต้องกินอาหารสำเร็จรูปกันมากขนาดนั้น???
ปัจจุบันอุตสาหกรรมอาหารเจริญเติบโตขึ้นมาก ชั้นเครื่องปรุงในซุปเปอร์มาร์เก็ตมีเครื่องปรุงรสให้เลือกซื้อมากมาย ดูเผิน ๆ เหมือนกับว่ามีหลากหลายรสชาติให้เลือกใช้ แต่จริง ๆ แล้วมีรสธรรมชาติอยู่แค่นิดเดียว ส่วนใหญ่เป็นโซเดียม เป็นสารปรุงแต่งทั้งนั้น
“เราไม่มีความจำเป็นต้องกินของสำเร็จรูปขนาดนั้น บ้านเรามีความอุดมสมบูรณ์ทางอาหาร ชีวิตคนเมืองก็สามารถเลือกกินอาหารที่ดีได้ อยู่ที่เราจะเลือกกินอะไร อยากให้ทุกคนหันกลับมากินอาหารตามธรรมชาติ ลดการทานอาหารสำเร็จรูปลงบ้าง หาเวลาทำอาหารทานเอง เรียกคืนความรู้เรื่องอาหารกลับมา เลือกกินอาหารตามฤดูกาล ทานผักให้หลากหลาย เราสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ด้วยการกิน กินเปลี่ยนโรคจะทำให้เปลี่ยนโลกได้ เพราะการเลือกกินอาหารให้สอดคล้องกับฤดูกาล กับสิ่งที่เรามีอยู่ เลือกรสอาหารให้สอดคล้องกับที่เรามี จะส่งผลดีต่อสุขภาพของเราเองโดยอัตโนมัติ”
ด้าน นพ.ประพจน์ เภตรากาศ ประธานมูลนิธิเพื่อเด็กพิการ กล่าวว่า อาหารให้ประโยชน์กับร่างกาย นอกจากจะช่วยสร้างพลังงาน ช่วยซ่อมเซลล์ในร่างกาย กากอาหารยังช่วยเรื่องการขับถ่ายได้ด้วย
“ทุกวันนี้สังคมตื่นตัวเรื่องอาหารการกินมากขึ้น แต่หลายคนยังมีความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับการกินอยู่ ข้าวตกเป็นจำเลย เพราะมองว่าข้าวเป็นคาร์โบไฮเดรต เป็นแป้ง เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แพทย์แผนปัจจุบันมักจะบอกห้ามกินข้าวเยอะเพราะจะกลายเป็นน้ำตาล แต่ภูมิปัญญาชาวบ้าน กลับพบว่าข้าวกล้อง ข้าวหอมมะลิแดง ช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ ต้องเปลี่ยนความเชื่อ ข้าวไม่ใช่แค่แป้ง แต่มีคุณค่าอื่น ๆ มากกว่านั้น”
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับองค์กรเครือข่าย มูลนิธิชีววิถี มูลนิธิสุขภาพไทย มูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน(ประเทศไทย) มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อเด็กพิการ มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก เครือข่ายความมั่นคงทางอาหาร เครือข่ายหมอพื้นบ้าน ชวนทุกคนมา “กินเปลี่ยนโลก(โรค) กินเปลี่ยนรส กินเปลี่ยนร่าง” ในงาน “มหกรรมอาหารและสุขภาพวิถีไทย ครั้งที่ 1” ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-27 ก.ค. 2557 ณ อิมแพคเมืองทองธานี ฮอลล์ 8
ภายในงานแบ่งออกเป็น 8 โซน ได้แก่ โซนนิทรรศการ โซนปลูก โซนเลือก โซนกิน โซนเด็ก โซนดูแลสุขภาพ โซนภาคีพันธมิตร และโซนธุรกิจเพื่อสังคม นอกจากจะมีกิจกรรมสาระบันเทิงต่าง ๆ มากมาย อาทิ ตลาดนัดอาหารท้องถิ่น ภูมิปัญญาการดูแลสุขภาพตามวิถีไทย เกษตรและพันธุกรรมยั่งยืน วิธีดูและเลือกอาหารให้ได้คุณภาพ ยังมีการแสดงพันธุกรรมข้าว 5 สี ข้าวหอม 15 สายพันธุ์ และการผูกปิ่นโตข้าวอีกด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจงานมหกรรมอาหารและสุขภาพวิถีไทย ครั้งที่ 1 สามารถติดตามความเคลื่อนไหว และรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ มูลนิธิสุขภาพไทย โทร.0-2589-4243 หรือ www.thaihof.org หรือ www.facebook.com/thaifoodforhealth
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 23 ก.ค 2557
วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ทำให้คนยุคใหม่ลืมใส่ใจอาหารที่บริโภค พฤติกรรมการบริโภคแบบวิถีดั้งเดิมก็ถูกเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน
กิ่งกร นรินทรกุล ณ อยุธยา รองผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี หรือ ไบโอไทย กล่าวว่า ปัจจุบัน ต้นทุนทางความรู้เรื่องอาหารของคนไทยนับวันยิ่งลดน้อยลงเรื่อย ๆ เด็กสมัยนี้ มองเข้าไปในชามแกง ไม่สามารถตอบได้ว่าทำมาจากอะไร ข้าวมีกี่สายพันธุ์ ความสามารถในการรับรสหายไป เพราะรสของอาหารได้ถูกบรรจุลงไปอยู่ในขวด ทั้งที่เมืองไทยมีวัตถุดิบหมุนเวียนให้เลือกใช้ตามฤดูกาลมากมาย และถ้าเราไม่สามารถรู้ที่มาของสิ่งที่เรากิน เราไม่สามารถเลือกกินได้อย่างเหมาะสม
แล้วทำไมเราต้องกินอาหารสำเร็จรูปกันมากขนาดนั้น???
ปัจจุบันอุตสาหกรรมอาหารเจริญเติบโตขึ้นมาก ชั้นเครื่องปรุงในซุปเปอร์มาร์เก็ตมีเครื่องปรุงรสให้เลือกซื้อมากมาย ดูเผิน ๆ เหมือนกับว่ามีหลากหลายรสชาติให้เลือกใช้ แต่จริง ๆ แล้วมีรสธรรมชาติอยู่แค่นิดเดียว ส่วนใหญ่เป็นโซเดียม เป็นสารปรุงแต่งทั้งนั้น
“เราไม่มีความจำเป็นต้องกินของสำเร็จรูปขนาดนั้น บ้านเรามีความอุดมสมบูรณ์ทางอาหาร ชีวิตคนเมืองก็สามารถเลือกกินอาหารที่ดีได้ อยู่ที่เราจะเลือกกินอะไร อยากให้ทุกคนหันกลับมากินอาหารตามธรรมชาติ ลดการทานอาหารสำเร็จรูปลงบ้าง หาเวลาทำอาหารทานเอง เรียกคืนความรู้เรื่องอาหารกลับมา เลือกกินอาหารตามฤดูกาล ทานผักให้หลากหลาย เราสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ด้วยการกิน กินเปลี่ยนโรคจะทำให้เปลี่ยนโลกได้ เพราะการเลือกกินอาหารให้สอดคล้องกับฤดูกาล กับสิ่งที่เรามีอยู่ เลือกรสอาหารให้สอดคล้องกับที่เรามี จะส่งผลดีต่อสุขภาพของเราเองโดยอัตโนมัติ”
ด้าน นพ.ประพจน์ เภตรากาศ ประธานมูลนิธิเพื่อเด็กพิการ กล่าวว่า อาหารให้ประโยชน์กับร่างกาย นอกจากจะช่วยสร้างพลังงาน ช่วยซ่อมเซลล์ในร่างกาย กากอาหารยังช่วยเรื่องการขับถ่ายได้ด้วย
“ทุกวันนี้สังคมตื่นตัวเรื่องอาหารการกินมากขึ้น แต่หลายคนยังมีความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับการกินอยู่ ข้าวตกเป็นจำเลย เพราะมองว่าข้าวเป็นคาร์โบไฮเดรต เป็นแป้ง เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แพทย์แผนปัจจุบันมักจะบอกห้ามกินข้าวเยอะเพราะจะกลายเป็นน้ำตาล แต่ภูมิปัญญาชาวบ้าน กลับพบว่าข้าวกล้อง ข้าวหอมมะลิแดง ช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ ต้องเปลี่ยนความเชื่อ ข้าวไม่ใช่แค่แป้ง แต่มีคุณค่าอื่น ๆ มากกว่านั้น”
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับองค์กรเครือข่าย มูลนิธิชีววิถี มูลนิธิสุขภาพไทย มูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน(ประเทศไทย) มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อเด็กพิการ มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก เครือข่ายความมั่นคงทางอาหาร เครือข่ายหมอพื้นบ้าน ชวนทุกคนมา “กินเปลี่ยนโลก(โรค) กินเปลี่ยนรส กินเปลี่ยนร่าง” ในงาน “มหกรรมอาหารและสุขภาพวิถีไทย ครั้งที่ 1” ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-27 ก.ค. 2557 ณ อิมแพคเมืองทองธานี ฮอลล์ 8
ภายในงานแบ่งออกเป็น 8 โซน ได้แก่ โซนนิทรรศการ โซนปลูก โซนเลือก โซนกิน โซนเด็ก โซนดูแลสุขภาพ โซนภาคีพันธมิตร และโซนธุรกิจเพื่อสังคม นอกจากจะมีกิจกรรมสาระบันเทิงต่าง ๆ มากมาย อาทิ ตลาดนัดอาหารท้องถิ่น ภูมิปัญญาการดูแลสุขภาพตามวิถีไทย เกษตรและพันธุกรรมยั่งยืน วิธีดูและเลือกอาหารให้ได้คุณภาพ ยังมีการแสดงพันธุกรรมข้าว 5 สี ข้าวหอม 15 สายพันธุ์ และการผูกปิ่นโตข้าวอีกด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจงานมหกรรมอาหารและสุขภาพวิถีไทย ครั้งที่ 1 สามารถติดตามความเคลื่อนไหว และรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ มูลนิธิสุขภาพไทย โทร.0-2589-4243 หรือ www.thaihof.org หรือ www.facebook.com/thaifoodforhealth
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 23 ก.ค 2557